สังคม

นักธุรกิจร้องอัยการสูงสุด ถูกจับผิดตัวคดีค้าไอซ์ หวั่นโทษสูงสุดประหารชีวิต

โดย

18 พ.ย. 2563

868 views

รองกรรมการผู้จัดการบริษัทชีวาทัย ยื่นคำร้องถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอให้ชะลอการสั่งฟ้องและตั้งคณะทำงานตรวจสอบเพิ่ม ในคดีที่เขาตกเป็นผู้ต้องหาค้ายาไอซ์ ทั้งที่สายลับ ยืนยันว่าเขาไม่ใช่ผู้ค้ายาที่ติดต่ออยู่ ส่วนข้อเท็จจริงหลายประเด็นก็ขัดแย้งกัน จึงหวังว่าการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเพิ่มจะทำให้ข้อเท็จจริงปรากฎขึ้น ขณะข่าว3 มิติ ประมวล ข้อเท็จจริง จากคำกล่าวอ้างของผู้ร้องเรียน พบว่ามีอย่างน้อย 7 ประเด็นที่อยู่ในข่ายหาข้อเท็จจริงได้
ข่าว 3 มิติ ประมวลเหตุการณ์จับไอซ์ จากข้อมูลของผู้ร้องเรียน ที่อ้างว่าทราบจากตำรวจระหว่างสอบปากคำ พบว่า เมื่อปี 2560 นายพรเทพ ถูกจับคดีพืชกระท่อม และผันตัวเป็นสายลับให้ตำรวจเพื่อขอลดโทษ และแจ้งตำรวจว่ารู้จักและเคยเห็นหน้าผู้ค้ายาที่ชื่อโอ ขับรถยนต์มาสด้า 3 สีน้ำเงิน ทะเบียน 4กช. ลงท้ายด้วย 51กรุงเทพฯ อาศัยคอนโด ย่านถ.กัลปพฤกษ์ห้อง 174/93 ชั้น 8 สายลับได้ติดต่อซื้อไอซ์กับโอผ่านโทรศัพท์ของโอและลูกน้องโอและชื่อในไลน์ว่า รู้คุณคนรู้คุณธรรมเพื่อโอนเงิน7หมื่นบาทบัญชี ธนาคาร
เมื่อตรวจทะเบียนรถ พบชื่อนายณัฏฐนันท์เป็นผู้ครอบครอง มีข้อมูลว่านายพรเทพ หรือ สายลับ ได้ยืนยันชี้รูปนายณัฏฐนันท์ ที่ปริ๊นซ์ จากทะเบียราษฎร์ว่าตรงกับนายโอ ผู้ค้ายาที่สายลับติดต่ออยู่ อย่างไรก็ตาม ตำรวจอาจมีข้อมูลอื่นมากกว่านี้ จึงขอศาลออกหมายจับ และเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 หรือ 2 ปี หลังการล่อซื้อไอซ์
ต่อมานายณัฐฏนันท์ถูกจับ 17 กันยายน 62 และยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ และเคยเป็นเจ้าของรถทะเบียนดังกล่าว แต่ขายโอนลอยให้พี่สาวไปแล้ว ที่เหลือจากนั้นระบุว่าไม่ตรง เช่น รถเป็นคนละรุ่น คอนโดนที่เคยพัก เป็นคนละชั้น คนละห้อง ขณะวันสอบสวน สายลับมาชี้ตัวยืนยันว่าเขาไม่ใช่โอ ที่สายลับติดต่ออยู่
อย่างไรก็ตาม ตำรวจอาจมีข้อมูลอื่นที่มากกว่าสายลับ และอาจมีดุลพินิจว่าการชี้ตัวรูปในทะเบียนราษฎร์ของสายลับ เมื่อปี 2560 น่าเชื่อถือกว่าการชี้ตัวในจับได้ เพราะห่างกัน 2 ปี ทำให้ตำรวจยังมีความเห็นสั่งฟ้อง แม้สายลับยืนยันชัดว่าผิดตัว ส่วนทนายความตั้งข้อสังเกตุว่า ตำรวจสอบสายลับเป็นพยาน และให้ความเห็นในสำนวนก่อนส่งพนักงาน อัยการหรือไม่ 
ส่วน นายณัฏฐนันท์ อ้างว่า ข้อกล่าวหาที่มีโทษถึงประหารชีวิต เขาอาจไม่ได้ประกันตัวจึงขอความเป็นธรรมในขั้นตอนที่เหลืออยู่ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่าง
ใจความสำคัญที่ยื่นถึงอัยการสูงสุด ผ่านรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด วันนี้คือขอให้การชะลอการสั่งฟ้องและตั้งชุดทำงานตรวจสอบคดีนี้ เพื่อให้ข้อเท็จจริงกระจ่างขึ้นใน 7 ประเด็น ไม่ว่าจะเป็นประวัติผู้ต้องหา, พยานที่เป็นสายลับ, พยานในห้องสอบสวน, สอบเจ้าของห้องเช่าที่อ้างว่าโอพักอยู่, สอบเจ้าของบัญชีธนาคารที่รับโอนเงิน, สอบเจ้าของหมาย เลขโทรศัพท์และไอดีไลน์ ที่ใช้ติดต่อล่อซื้อ เป็นต้น ขณะที่โรงโฆษกอัยการสูงสุด ระบุว่าจะเรียนถึงอัยการสูงสุดตามการร้องขอความเป็นธรรม ส่วนข้อร้องเรียน ถือเป็นดุลพินิจ ผู้รับผิดชอบโดยตรง

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ