สังคม

ผู้บริหารหนุ่มร้องอัยการสูงสุด หลังอ้างตกเป็นแพะคดียาไอซ์ โทษถึงประหารชีวิต

โดย

18 พ.ย. 2563

3.5K views

กรณีรองกรรมการผู้จัดการบริษัทชีวาทัย ร้องเรียนอ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันครอบครองยาเสพติด คือไอซ์ ไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต โดยข้อร้องเรียนระบุว่าข้อมูลจากการสอบสวนไม่ตรงกับตัวเอง และขณะเดียวกัน ก็มีเบาะแสอย่างอื่นที่หากตำรวจสืบสวนละเอียด จะเป็นข้อเท็จจริงที่เขาอ้างว่า เขาไม่ได้กระทำผิด ขณะเดียวกันเขาก็ร้องขอความเป็นธรรมจากอัยการ เพื่อตั้งคณะทำงานไต่สวนคดีของเขา ในประเด็นที่การสอบสวนอาจไม่ครอบคลุม เพื่อให้เกิดความกระจ่างก่อนการส่งฟ้อง
ที่ซอยศุภวรรณ 2 เขตหนองแขม ใกล้ถนนเพชรเกษม 69 ซึ่งเป็นจุดที่ตำรวจระบุว่าพบไอซ 189 กรัม ภายหลังนำไปตรวจคัด เหลือไอซ์บริสุทธิ์ 174 กรัม โดยผู้ค้ายาเสพติดที่ชื่อโอ สั่งให้ลูกน้องนำไอซ์มาวางที่นี่ หลังจากสายลับล่อซื้อด้วยเงิน 7 หมื่นบาท 
การพบไอซ์เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมปี 2560 ไม่พบผู้นำมาวาง แต่ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ผันตัวมาเป็นสายลับให้ตำรวจ ให้เบาะแสว่า พ่อค้ายาที่เขาติดต่ออยู่ชื่อ โอ ขับรถมาสด้า 3 สีน้ำเงิน และสายลับเคยเห็นเขาไปพักที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านถนนกัลปพฤกษ์ ห้อง 174/93 ชั้น 9 และแจ้งหมายเลขทะเบียนรถของนายณัฐฎนันท์ และทำให้นายณัฐฎนันท์ ถูกจับในอีก 2 ปีต่อมา 
นอกเหนือจากที่นายณัฐฎนันท์ร้องเรียนว่า เขาถูกสายลับชี้ตัวผิดคน เพราะสายลับมาพูดต่อหน้าตำรวจ และทุกคนว่าเขาไม่ใช่พ่อค้ายาที่ติดต่ออยู่
อีกทั้งเขาขับรถยนต์คนละ รุ่นกับที่สายลับชี้ /ห้องพักก็คนละชั้น /แต่เป็นตึกเดียวกัน เพราะเมื่อปี 2560 เขาไปหาเพื่อนหญิงคนสนิท แต่เขาก็ยังถูกดำเนินคดีด้วยข้อกล่าวหาที่รุนแรง และแม้เชื่อใจในการ สู้คดีแต่เขากังวลว่าเมื่อตกเป็นจำเลย เขาจะถูกคุมขังระหว่างรอพิจารณาคดี ซึ่งจะสิ้นอิสรภาพ 
เขาจึงร้องเรียนหลายหน่วยงานมาตลอด เช่นเมื่อมีนาคม ปีนี้ เขาไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ทุ่งสองห้อง เรื่องถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้งที่ เบาะแส และพยานชี้ตัวไม่ตรงเขา /ทีมข่าวพบว่าเป็นการลงบันทึกเป็นหลักฐานแต่ไม่ใช่การฟ้องกลับหรือดำเนินคดีตำรวจ แต่เป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของตน ที่รู้สึกว่าถูกกระทำ
นอกจากนี้เขาเคยร้องขอความเป็นธรรมไปหาหน่วยงานอื่นๆอย่างน้อย 6 ครั้ง ทั้งต่ออธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด และต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้พิจารณาคดีของเขาในรูปแบบของคณะกรรมการ 
ทนายความของนายณัฐฎนันท์ ระบุว่ามีหลายประเด็นสงสัยที่ตำรวจมีอำนาจทางกฎหมายจะสืบสวนให้กระจ่างได้
คดีนี้นายณัฐฎนันท์ ได้รับประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยพี่เขยที่เป็นพนักงานเอกชนใช้หลักทรัพย์คือเงินเดือน 2.5 แสนบาท ค้ำประกัน 
ส่วนโทษคดีนี้ตาม พรบ.ยาเสพติดให้โทษ มาตรา 66 วรรค 3 ระบุว่าหากมียาเสพติดเป็นสารบริสุทธิ์เกินยี่กรัมขึ้นไป มีโทษจำคุกตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่1ถึง 5 ล้านบาท หรือประหารชีวิต ซึ่งกรณีนี้ ผู้ต้องเรียนถูกกล่าวหา ครอบครองไอซ์ ซึ่งสกัดเป็นสารบริสุทธิ์แล้ว 174 กรัม ไว้จำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอุญาต พนักงานอัยการอยู่ระหว่างรอส่งฟ้องศาลยาไอซ์จับผิดตัวนักธุรกิจ
ชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/tkcmHMesKUc

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ