'วิสาร' วิจารณ์ตั้ง คกก.สมานฉันท์ ควรมีแค่ 2 ฝ่าย 'นิพิฏฐ์' เตือนผู้ชุมนุมไม่เคยชนะรัฐบาล

วันที่ 2 พ.ย. สถาบันพระปกเกล้า จะมีการกำหนดรูปแบบโมเดลคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อหาทางออกให้ประเทศ แต่เบื้องต้นมีรายงานว่า จะมี 3 โมเดล ได้แก่

1. ไม่มี ส.ส. และ ส.ว.

2. ส.ส. ส.ว. + คนนอก (อย่างละครึ่ง)

3. ไม่มีคนนอกเข้าร่วม

ด้าน นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการปรองดอง ไม่ควรมีถึง 7 ฝ่าย มาพูดคุยกัน ถ้าเป็น 7 ฝ่าย ส่วนใหญ่มีแต่ฝ่ายรัฐบาล ยิ่งพูดเยอะคนปัญหายิ่งเยอะ ควรพูดคุยกันแค่ 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายต้องการให้นายกฯออก ฝ่ายต้องการให้นายกฯอยู่ต่อ และมีคนกลางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับ เอาข้อเรียกร้องสองฝ่ายมาคุยกัน โดยเป็นการเอาเหตุผลมาพูดคุยกัน หาทางออกให้ประเทศ มิเช่นนั้นกังวลว่าเหตุการณ์จะบานปลาย

ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า ช่วงนี้ ศาลยุติธรรมทำงานหนัก หลายเรื่องคำสั่งศาลออกมาดีครับ เช่น การยกคำร้องฝากขังผู้ต้องหากรณีการชุมนุมประท้วงรัฐบาล หรือการอนุญาตให้ฝากขังได้ตามความจำเป็นแห่งการสอบสวน

ผมว่าศาลยืนตรงกลางเป๊ะเลย ระหว่างการคุ้มครองสิทธิของผู้ชุมนุม กับการละเมิดกฎหมาย ไม่ให้ใครเอาอิสรภาพของผู้ชุมนุมมากดดัน ขณะเดียวกันก็ไม่ให้มีการละเมิดกฎหมาย แต่ไม่ใช่ว่า ศาลจะทำอย่างนี้ได้นานนะครับ เมื่อคดีเข้าสู่การพิจาณาของศาลมันก็ต้องจบด้วยการแพ้ หรือ ชนะ การต่อสู้คดีไม่เหมือนการเล่นกีฬา กีฬาอาจมีเสมอกันได้ แต่คดีอาญาแพ้หรือชนะเท่านั้น

ผู้เล่นก็ต้องเสี่ยงเอาเอง และยอมรับผลจากการกระทำตามความเชื่อของตัวเอง การชุมนุมประท้วงในเมืองไทย ตามประวัติศาสตร์ ผู้ชุมนุมไม่เคยชนะรัฐบาลนะครับ ทหารต้องออกมาแทรกแซงในตอนสุดท้ายทุกครั้ง

ต่อมา นายนิพิฏฐ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ขอเตือนผู้ชุมนุมกำลังเล่นกับกฎหมายของรัฐต้องรอบคอบ ไม่เหมือนกับการเล่นกีฬาออกได้ทั้ง 3 หน้า คือ แพ้ ชนะ เสมอ แต่เป็นคดีความกับรัฐไม่มีเสมอ มีโอกาสแพ้มาก การชุมนุมของกลุ่มเด็กเยาวชนบางเรื่องมีเหตุผล แต่ทุกการประท้วงผิดกฎหมายต่างกรรมต่างวาระ ที่สุดแล้วการชุมนุมของประชาชน ไม่มีใครเคยชนะรัฐ สุดท้ายต้องจบที่การเจรจาพูดคุยเพื่อแก้ปัญหา

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/p3mcsajpOs8