สังคม

โผล่แจ้งแล้ว! ผอ.ยันไม่ได้ลวนลาม นร. ตามครูภาษาไทยแจ้งความ ชี้ที่ถามมีเงินหรือไม่ เพียงจะให้ทุนการศึกษา

โดย

13 ต.ค. 2563

3.5K views

ขอนแก่น - ครูพานักเรียนชั้น ม.2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น รวม 5 คน เข้าแจ้งความกับตำรวจ หลังนักเรียนนักเรียนหญิงเข้ามาขอคำปรึกษาและขอความช่วยเหลืออ้างว่าถูกผู้อำนวยการโรงเรียนลวนลาม ขณะที่นักเรียนหญิงต่างต้องการให้ ผอ.ย้ายออกไปจากโรงเรียนโดยเร็ว เพราะใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนอย่างไม่มีความสุขและหวาดละแวง
วานนี้ (12 ต.ค. 63) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ครูภาษาไทย โรงเรียนบ้านโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น พานักเรียนหญิงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 จำนวน 5 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ประนอม มะลาหอม สว.(สอบสวน) สภ.บ้านไผ่ ว่า นักเรียนหญิงทั้ง 5 คน ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนลวนลาม จึงขอแจ้งความร้องทุกข์ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยเด็กหญิงทั้ง 5 คน ต่างให้การตรงกันว่า ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนมักจะมาโอบกอด ลูบไล้ที่แขน ที่หลัง และถามว่า มีเงินใช้หรือไม่ ถ้าไม่มีให้เข้าไปหาที่ห้องทำงาน และถามว่ามีแฟนกันหรือยัง ซึ่งทุกคนเชื่อว่า การกระทำดังกล่าว คือการลวนลาม ไม่ใช่ความเอ็นดูที่ครูมีต่อนักเรียน จึงนำเรื่องบอกผู้ปกครอง และบอกครูภาษาไทย ซึ่งผู้ปกครองมอบหมายให้ครูภาษาไทย เป็นตัวแทนพานักเรียนเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านไผ่ ดังกล่าว และจะไม่มีการยอมความ ทั้งยังขอเรียกร้องให้ย้ายผู้อำนวยการออกจากโรงเรียนโดยเร็วที่สุด
โดยครูภาษาไทย กล่าวว่า จริงๆแล้ว รับรู้เรื่องราวต่างๆจากนักเรียนหญิงชั้น ป.6 มาก่อน และทราบว่า มีนักเรียนหญิงระดับชั้น ม.1 ม.2 และ ม.3 ถูกกระทำด้วยพฤติกรรมเดียวกันคือ โอบกอด ลูบไล้ และ จับมือถือแขน และถามให้เงิน แต่นักเรียนไม่รับ ซึ่งเมื่อได้ยินสิ่งที่นักเรียนบอกเล่ามา ทีแรกไม่ได้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กระทั่งนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ทั้ง 5 คน มาฟ้องที่ห้องทำงานว่า ถูกผู้อำนวยการลวนลาม จึงได้สอบถามรายละเอียดต่างๆในสิ่งที่กล่าวหา 
ซึ่งนักเรียนทุกคนยืนยันว่า เป็นการลวนลามจริง ไม่ใช่ ผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก นักเรียนทุกคนไม่ชอบ และกลัวถูกกระทำซ้ำ กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย จึงต้องการให้ผู้อำนวยการออกจากโรงเรียน เมื่อทราบรายละเอียดดังกล่าว จึงเดินทางเข้าพบผู้ปกครองที่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่ พ่อ แม่ ไปทำงานต่างจังหวัด ต่างประเทศ จึงติดต่อกันทางโทรศัพท์ ซึ่งพ่อแม่ยืนยันจะเอาเรื่อง ขอให้ครูพาเข้าแจ้งความ จึงได้พานักเรียนมาแจ้งความให้มีการสอบสวนรายละเอียดตามขั้นตอนต่อไป
นางสาวภวรรค์อัมพร กล่าวอีกว่า สิ่งที่นักเรียนบอกเล่ามา ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง นักเรียนคงไม่พูด คงไม่ยืนยันเช่นนี้ เพราะโดยส่วนตัวเชื่อว่า นักเรียนคงไม่แต่งเรื่องมากลั่นแกล้งผู้อำนวยการ เพราะนักเรียนหญิงหลายคนมาเล่าให้ฟัง แต่ไม่กล้ามาแจ้งความ เพราะผู้ปกครองกลัวเรื่องราวอื่นๆจะตามมา เนื่องจากนักเรียนหญิงทั้ง 5 คน ถูกครูในโรงเรียนข่มขู่ว่า ถ้าแจ้งความจะย้ายให้ไปเรียนที่อื่น ทำให้นักเรียนรายอื่นๆไม่กล้าแจ้งความ ส่วนตัวเองในฐานะครู คิดว่า ขณะนี้เพียงแค่การลวนลามควรปกป้องลูกศิษย์ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น และไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ส่วนจะจริงไม่จริง ตำรวจต้องมีการตรวจสอบและสอบสวน
ล่าสุด (13 ต.ค.63)  ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้นยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่ครูภาษาไทยกล่าวหาแต่อย่างใด และมั่นใจว่าเป็นการถูกกลั่นแกล้งจากครูภาษาไทยคนนี้ โดยเสี้ยมสอนให้เด็กพูดใส่ร้ายตัวเอง
ซึ่งครูภาษาไทยคนดังกล่าวนี้มักจะหาเรื่องมาโจมตีตนเองอยู่เรื่อยๆ ทั้งเรื่องอาหารกลางวัน เรื่องโครงการต่างๆของโรงเรียน และก็มาเรื่องล่าสุด คือเรื่องที่กล่าวหาว่าตนเองไปลวนลามเด็กนักเรียนหญิง 
ยืนยันว่าตนเองไม่เคยมีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา และทั้งโรงเรียนมีกล้องวงจรปิดครบทุกมุม ไม่เคยไปแอบตามซอกมุมกับนักเรียนอย่างที่ครูกล่าวหาแต่อย่างใด
และในเรื่องเงินที่กล่าวหาว่าตนเองถามนักเรียนว่ามีเงินใช้ไหมอย่างนั้นอย่างนี้ ข้อเท็จจริงคือ พ่อกับแม่นักเรียนรายนี้แยกทางกัน ตนเองด้วยความเป็นครูก็เป็นห่วงลูกศิษย์จะหาทุนการศึกษามาให้ จึงถามข้อมูลจากเด็กว่าอยู่อย่างไรและเคยได้รับทุนการศึกษาหรือไม่ เด็กนักเรียนก็บอกว่าไม่เคยได้รับ ตนเองจึงนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อหาทางช่วยเหลือเด็กนักเรียนคนดังกล่าว 
ส่วนคนอื่นๆ ก็เป็นลักษณะเช่นเดียวกัน ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปในเชิงชู้สาวแต่อย่างใด แต่ตนเองก็ยังต้องใจเย็น และอดทน เพราะครูภาษาไทยก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ก็ต้องรอดูท่าทีไปก่อน หากมากเกินไปก็จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/xJP3z41RGJ4

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ