อาชญากรรม

ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ชี้โชเฟอร์บัสผิดฐานขับรถตัดหน้ารถไฟ - ผู้ว่าการรถไฟฯ ยันช่วยเหลือเหยื่อทุกคนเต็มที่

โดย

11 ต.ค. 2563

6.4K views

ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ยืนยันให้การช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถบัสชนรถไฟอย่างเต็มที่ แม้ยังพิสูจน์ไม่ชัดว่าใครผิดหรือถูก ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ระบุว่า จากการสอบปากคำและภาพวงจรปิด พบว่า คนขับรถบัสขับรถตัดหน้ารถไฟ ส่วนคนขับรถไฟ ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างละเอียด ว่าขับรถด้วยความประมาทหรือไม่ 
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดตรงกับการสอบปากคำพนักงานขับรถไฟคันเกิดเหตุ ให้การว่า เวลา 08.05 น.มีฝนตกโปรยลงมา ทำให้มีทัศนวิสัยมองเห็นอยู่ที่ 300-400 เมตร พอมองเห็นรถบัสกำลังแล่นขึ้นเนิน จึงกดหวูดสัญญาณ แจ้งเตือน แต่รถบัสยังรับต่อจึงเบรกฉุกเฉิน แต่ด้วยน้ำหนักรถ และความเร็วที่แล่นมาประมาณ 70 กิโลเมตร จึงไม่สามารถหยุดรถได้ทัน รถบัสจึงชนกับรถไฟพลิกคว่ำในทันที
จากลักษณะที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 18 ราย แต่ยังต้องพิสูจน์ทราบ 1 รายเพราะมีชิ้นส่วนมนุษย์ 2 ชิ้น หากเป็นคนเดียวกันจะมีผู้เสียชีวิต 17 ราย มีผู้บาดเจ็บ 35 ราย และรอดชีวิต 12 ราย รวมแล้วมีผู้โดยสารในรถคันนี้ ไม่ต่ำกว่า 64 ราย จากคำให้การของหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ระบุว่า พบผู้เสียชีวิต ติดอยู่ในรถ 3 คน อยู่ใต้ท้องรถ 5 คน มี 1 คน ศพพติดไปกับขบวนรถไฟ ที่จอดห่างออกไป 1 กิโลเมตร ลักษณะการพลิกคว่ำที่ส่วนหลังคา ติดกับบวนรถไฟ จึงถูกชนซ้ำจากตู้คอนเทนเนอร์ ที่มาก 60 ตู้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการได้รับแรงกระแทกอย่างหนัก และร่างกายถูกตัดขาดออกจากกัน เนื่องจากขบวนรถไฟมีน้ำหนักถึง 2 พันตันด้วย 
ส่วนผู้บาดเจ็บ ยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุในรถบัส มีการเปิดเพลงเสียงดัง และมีการร้องเพลงเต้นกันอย่างสนุกสนาน ด้วยเหตุที่มีคนมาจำนวนมากกว่าทุกปี จึงมีบางส่วนต้องยืน ทำให้ไม่มีใครเห็นว่ากำลังข้ามทางรถไฟและไม่ได้ยินเสียงหวูดเตือน จนเกิดเหตุขึ้นและมารู้สึกตัวอีกทีพบว่ามีเพื่อนเสียชีวิตไปหลายคน และบางคนต้องช่วยนำเพื่อนที่บาดเจ็บออกมาจากรถ กลายเป็นเหตุการณ์ที่เศร้าเสียใจอย่างมาก
ในสวนของผู้เสียชีวิต 18 รายมีการชันสูตรและนำศพมาเก็บไว้ที่สุสานสถานสงเคราะห์การกุศล พบเป็นชาวเมียนมา 6 ราย ญาติต้องนำไปบำเพ็ญกุศลโดยที่ครอบครัวจากเมียนมาไม่สามารถมาได้เพราะติดสถานการณ์โควิด โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจะให้การช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บตามหลักมนุยธรรมไม่ว่าใครจะถูกหรือผิด
สำหรับจุดเกิดเหตุเป็นถนนทางลักผ่าน ที่ไม่ได้ขออนุญาตจากการรถไฟ ทำให้ไม่มีแนวกั้น แต่ใช้งานมากกว่า 20 ปีแล้ว และสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น เป็นเพียงสถานีป้ายหยุดพักที่รับผู้โดยสารได้ แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำ บริเวณทางข้ามรถไฟ มีป้ายแจ้งเตือน 3 ป้ายก่อนถึงทางรถไฟ 300 เมตร และสัญญาณไฟโซล่าเซลล์ ที่ไม่มีไฟมานานแล้ว และปัจจุบันกลายเป็นทางสายรองที่เป็นทางลัดไปกรุงเทพ และมีรถไฟฝ่ายจำนวนมาก ชาวบ้านจึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งรัดสร้างแนวกั้นและให้มีเจ้าหน้าที่ประจำจุดด้วย
ในคืนนี้ชาวบ้นคลองแขงกลั่น จัดอาสาสมัคร ช่วยให้สัญญาณบอกทางผู้ขับรถเพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย และในวันพรุ่งนี้จิตอาสาจะมาร่วมทำความสะอาดและทำบุญให้ผู้เสียชีวิต ที่ขณะนี้มีการเก็บกู้รถบัสเรียบร้อยแล้ว นอกจากมาตรการสร้างความปลอดภัยแนวกั้นรถไฟแล้ว เหตุเศร้าในครั้งนี้จะต้องตรวจสอบรถบัสโดยสารที่บรรทุกผู้โดยสารเกิน เพราะรถคันเกิดเหตุมีเบาะที่นั่งไม่เกิน 50 คน แต่บรรทุกมามากถึง 64 คน และมีการติดเครื่องเสียงจนเกิดเสียงดังเกินกว่าเหตุหรือไม่ด้วย 

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ