อาชญากรรม

รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่จี้คดียิงตำรวจ ปทส.ดับ ฟันธงคนร้ายเป็นคนรู้จักกับผู้เสียชีวิต

โดย

10 ต.ค. 2563

2K views

นครศรีธรรมราช - กรณีคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงถล่มใส่ร่าง ด.ต.สุเชษฐ นาคนาศักดิ์ อายุ 45ปี ผบ.หมู่ กก.5บก.ปทส.หรือตำรวจป่าไม้ ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราชและเป็นหลานชายของนายชินกร นาคนาศักดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลท่างิ้ว เสียชีวิตคาที่หน้าบ้านของตนเอง เมื่อดึกวันที่ 7ตค.ที่ผ่านมา ขณะนั่งกินบะหมีกึ่งสำเร็จรูปหน้าบ้านพักเพียงลำพังคนเดียว แล้วคนร้ายอาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไป 
โดยเบื้องต้นทางตำรวจยังไม่ทราบสาเหตุแต่คาดว่าน่าจะมาจากเรื่องส่วนตัวกับคนรู้จักกันหรือเรื่องหน้าที่การงานในพื้นที่ ตามข่าวนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 ต.ค. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) ได้เดินทางบินด่วนไปตรวจที่เกิดเหตุ ซึ่งที่บ้านที่เกิดเหตุทางญาติๆได้จัดงานบำเพ็ญกุศลศพของ ด.ต.สุเชษฐ ท่ามกลางญาติๆที่เดินทางมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพจำนวนมากด้วยความอาลัย
โดยเมื่อ พล.ต.อ.สุชาติ ได้เดินทางไปถึงบ้านที่เกิดเหตุแล้ว ได้มี พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8,พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.มณเฑียร เบ้าทอง ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค8 และจนท.ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีที่เกี่ยวข้องมาร่วมให้การต้อนรับและพา พล.ต.อ.สุชาติ เดินทางไปตรวจบริเวณเกิดเหตุซึ่งอยู่หน้าโลงศพของ ด.ต.สุเชษฐ อย่างละเอียดทุกจุด โดยทาง พล.ต.อ.สุชาติได้มีการสอบถามข้อสงสัยและรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับคดีและวิถีกระสุนของคนร้ายที่ยิงเข้าใส่หน้าอกและลำคอของ ด.ต.สุเชษฐและหลักฐานต่างๆที่พบในที่เกิดเหตุ โดยมี พ.ต.อ.มณเฑียร คอยบรรยายสรุปเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด พร้อมรูปที่เกิดเหตุในคืนเกิดเหตุ
จากนั้น พล.ต.อ.สุชาติ ได้เดินทางไปยังห้องประชุมขุนพันธรักษ์ราชเดช บก.ภ.นครศรีธรรมราช เพื่อร่วมประชุมเร่งรัดคดีฆ่า ด.ต.สุเชษฐ ร่วมกับตำรวจชุดพนักงานสอบสวนและตำรวจชุดคลี่คลายคดีและจนท.ตำรวจกองปราบปรามที่ลงพื้นที่มาร่วมคลี่คลายคดีในครั้งนี้ด้วย และมี พ.ต.อ.ศรานุ โสมทัต ผกก.กก.5บกปทส.ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.สุเชษฐ์และ พ.ต.อ.สมภพ พุฒศรี ผกก. รก.ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐานเขต 8สุราษฎร์ธานี โดยพล.ต.อ.สุชาติ ได้ใช้เวลาประชุมอย่างเคร่งเครียดอย่างละเอียดทุกแง่มุมใช้เวลานานประมาณเกือบ 3ชม.ถึงประชุมเสร็จสิ้น โดย พล.ต.อ.สุชาติ ได้เดินทางลงมาจากห้องประชุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและมั่นใจใจความคืบหน้าของคดี
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังประชุมถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า คดีนี้เรายังไม่รู้ตัวผู้กระทำผิดว่าใครเป็นคนร้ายแต่น่าเชื่อว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องมากกว่า 1คน อันนี้มีวัตถุพยานจากในที่เกิดเหตุเป็นเรื่องทางนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งรายละเอียดอยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้ บอกได้เพียงเท่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุมาจากเรื่องอะไร พล.ต.อ.สุชาติ ตอบว่าในชั้นนี้ยังตอบไม่ได้ แต่ทางตำรวจได้ตั้งปมประเด็นไว้3ประเด็น คือเรื่องส่วนตัว เรื่องหน้าที่การงานและก็ความขัดแย้งเกี่ยวกับธุรกิจอะไรบางอย่าง ซึ่งเรายังไม่รู้ว่าธุรกิจนี้มันถูกต้องหรือไม่ถูกต้องแต่น่าจะมีมูลเหตุความขัดแย้งของภายในท้องถิ่นนั่นแหละ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเครือญาติเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.ต.อ.สุชาติ ตอบว่ายังไม่ยืนยัน เพราะมันยังไม่มีหลักฐานหรือมีข้อมูลใดๆว่ามีเครือญาติเข้ามาเกี่ยวข้อง ตนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้ตาย อันนี้เราดูจากวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ มีการมานั่งพูดคุยกันก่อน และมีการสูบบุหรี่หรือดื่มน้ำอะไรกัน ใช้เวลานานอยู่สักครู่ ก่อนที่จะมีเหตุยิงกัน และเรื่องชนิดอาวุธปืนเราก็พอจะรู้แล้วว่าเป็นอาวุธปืนลูกซอง
สำหรับความคืบหน้าของคดีมีความคืบหน้าไปพอสมควรแล้ว มีการสอบสวนพยานไปได้หลายปากแล้ว และเรื่องการรวบรวมวัตถุพยานทั้งที่เกิดเหตุและทั้งนิติวิทยาศาสตร์และกล้องวงจรปิดเส้นทางต่างๆ ก็มีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ยังได้หลักฐานไม่ครบ ระหว่างนี้กำลังให้เขารวบรวมและวิเคราะห์ก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ตายมีความขัดแย้งกับใครบ้างก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุชาติ ตอบว่ายังหาข้อมูลไม่ชัดเจน แต่ประเด็นนี้ทางท้องที่กำลังดำเนินการหาข้อมูลอยู่แล้ว
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบวัตถุพยานในที่เกิดเหตุคนร้ายน่าจะมานั่งสูบบุหรี่ดื่มน้ำได้เป็นขวดๆ ก็แสดงว่านั่งคุยกันนาน คงไม่ได้มากินกันแปปเดียวแน่ ก่อนคนร้ายจะก่อเหตุ โดยนิสัยแล้วผู้ตายชอบอาศัยอยู่แบบสันโดษคนเดียว อาจจะมีความเครียดส่วนตัวหรืออาจจะมีปากเสียงกับคนละแวกใกล้เคียงหรือเปล่าเราก็กำลังตรวจสอบอยู่ ตอนนี้เราสอบทุกประเด็นทั้งเรื่องส่วนตัว หน้าที่การงานและเรื่องธุรกิจไม่เปิดเผย ตำรวจขอเวลาทำงานสักนิดก่อน เรื่องธุรกิจไม่เปิดเผยเรายังตอบไม่ได้ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้มากน้อยเพียงไหนอยู่ระหว่างการตรวจสอบของตำรวจชุดคลี่คลายคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีพฤติกรรมของผู้ตายชอบยิงปืนขึ้นฟ้าประจำนั้น พล.ต.อ.สุชาติตอบว่า เป็นการหวาดระแวงของอาการป่วยทางโรคทางประสาทที่ผู้ตายมีประวัติอยู่ระหว่างการรักษาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งในส่วนปลอกกระสุนปืน11มม.ที่พบในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบแล้วเชื่อว่าน่าจะเป็นของผู้ตายที่ชอบยิงปืนเล่นนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบของตำรวจในขณะนี้ พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีตำรวจชุดสืบสวนมือดีหลายนายจากกองปราบปราม และตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 และตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ลงพื้นที่หาข่าวอย่างเข้มข้นเพื่อเร่งคลี่คลายคดีติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้ โดยทาง พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก.สั่งให้ตำรวจต้องจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ โดยแนวทางการสืบสวนของตำรวจกองปราบรามพบว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนรู้จักกันดีกับผู้ตาย ได้เข้าไปนั่งคุยและนั่งสูบบุหรี่ดื่มน้ำกับผู้ตายอยู่นานก่อนก่อเหตุยิง ด.ต.สุเชษฐ์จนตายคาบ้านแล้วหลบหนี โดยคนร้ายน่าจะเดินหลบหนีไปกับความมืด ระยะยิงน่าจะไม่เกิน3เมตร ด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว ยิงใส่คอก่อน1นัดแล้วยิงซ้ำที่หน้าอกก่อนหลบหนี ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะมีความใจเย็นหยิบปลอกกระสุนปืนลูกซอง2ปลอกหนีไปด้วย โดยสาเหตุเชื่อว่าน่าจะมาจากความขัดแย้งในเรื่องส่วนตัวกับคนที่รู้จักกันดีซึ่งตำรวจพอจะรู้ตัวคนร้ายแล้ว อยู่ระหว่างการวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อนจับกุมต่อไป
ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/2QO7-1ONq-A

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ