ฉาวอีก! แฉครูสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ หักนิ้วเด็ก-เอาดินสอจิ้มแขน ครูยอมรับทำจริง ก่อนเขียนใบลาออก

ฉาวอีก ผู้ปกครองแฉเมื่อ 2 ปีก่อน ครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ลงโทษเด็กด้วยการหักนิ้ว หยิกหลังเป็นแผล เอาดินสอปลายแหลมจิ้มแขน จับเด็กไปขังในห้องมืด จนต้องย้ายเด็กหนีไปเรียนที่อื่น โดยครูยอมรับทำจริงก่อนเขียนใบลาออก ผอ.โรงเรียน ขออย่าให้เอาเรื่องกลัวเสียประวัติ

อีกเคสครูประจำชั้นสารสาสน์วิเทศธนบุรี ปัดทำร้าย หลังแม่เด็กอนุบาล 2 พบรอยฟกช้ำจากก้นมาถึงน่อง ลั่น "พร้อมจะพิสูจน์ในทุก ๆ เรื่อง ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้ทำร้ายเด็ก"      

จากกรณีครูและพี่เลี้ยงทำร้ายเด็กนักเรียนรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จนผู้ปกครองทยอยเข้าแจ้งความดำเนินคดี ขณะที่กลุ่มผู้ปกครองของเด็กนักเรียนในโรงเรียนสาขาอื่น เกิดความวิตกกังวลพากันไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เพราะเกรงว่าบุตรหลานจะถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน      

ล่าสุด ผู้ปกครองของเด็กอนุบาลซึ่งเคยเรียนอยู่ที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ออกมาเปิดเผยว่า ตนมีลูกฝาแฝดเมื่อปี 2561 ทั้งคู่เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 ห้องเดียวกัน ถูกครูน้ำ ครูประจำชั้นอนุบาลห้อง iEP ห้องอินเตอร์ ทำร้ายร่างกาย โดยให้เด็กทำมือเป็นรูปปืนแล้วหักนิ้วเด็ก จับเด็กไปขังในห้องมืด เอาดินสอปลายแหลมจิ้มตามแขนเวลาเขียนหนังสือ หยิกเด็กที่หลังจนเป็นแผลเป็นจนทุกวันนี้  

แม่ของเด็ก เล่าว่า ช่วงแรก ๆ ที่เรียนลูกของตนจะโดนครูนี้ตี ไม่รู้ตีแรงแค่ไหน ซึ่งทุกครั้งที่ตี ครูน้ำจะบอกกับผู้ปกครองว่าได้ลงโทษเด็กด้วยการตี ทีแรกไม่ได้คิดอะไรไม่ได้ถามว่าใช้อะไรตี พักหลังเริ่มตีบ่อยขึ้น ลูกมาเล่าให้ฟังว่าครูตีแรงกว่าพ่ออีก ถ้าตีแรงกว่าพ่อถือว่าหนัก ตนจึงสอบถามไปยังครูน้ำอ้างว่าเด็กซน ตนคิดว่าลูกมีอาการไฮเปอร์หรือไม่เพราะโดนครูตีบ่อย จึงพาไปพบจิตแพทย์เพื่อดูอาการ แพทย์ระบุไม่มีอาการไฮเปอร์  

ต่อมามีการใช้ดินสอแหลมทิ่มแทงที่แขนของลูกชายเป็นรอย ตนไปรับลูกกลับจากโรงเรียน ครูน้ำก็บอกว่าได้ทำโทษลูกชาย ระหว่างที่ครูน้ำพูด ลูกชายก็ร้องไห้ จึงรีบพาเด็กกลับบ้าน และไม่ได้ถามว่าทำโทษอย่างไร

พอถึงบ้านลูกบอกว่า "วันนี้เช่อทายาให้" ตนจึงถามลูกว่าทาทำไม เป็นอะไร ลูกยื่นแขนให้ดูเป็นรูเล็ก ๆ ที่แขน ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็น ลูกบอกบอกว่าโดนครูทำโทษ เอาดินสอมาจิ้มๆๆๆๆ วันรุ่งขึ้นตนได้ไปคุยกับครูน้ำ ไม่โอเคที่ทำกับลูกของตนแบบนี้  หลังจากนั้นลูกไม่อยากโรงเรียนอีกเลย นอนละเมอทุกวัน ร้องไห้ทั้งคืน ตนเองคุยกับครูน้ำตลอด เขาก็ไม่ได้บอกอะไรนอกจากว่าลูกซนเท่านั้น 

จากนั้นลูกชายก็มาบอกอีกว่าโดนครูน้ำหักนิ้วมือ เจ็บมาก เช่อบอกว่าทำแบบนี้มันไม่มีแผลมีรอย แม่จะได้ไม่เห็น ตนได้ยินก็ใจเสีย ตนมองว่าเด็กอนุบาล 2 พูดแบบนี้ไม่ได้หรอกถ้าเขาไม่ได้ยินอะไรมา จึงไปคุยกับครูน้ำอีกครั้งแต่ไม่ยอมเจอ คุยกันทางโทรศัพท์ เขาบอก "แม่มีอะไรแม่ พูดมาเลย" ตนถามไปว่าทำไมทำแบบนี้ แต่ครูน้ำไม่ยอมรับ ตนจึงไปคุยกับ ผอ.โรงเรียน ได้ทำการตรวจสอบ ซึ่งครูน้ำก็ยอมรับว่าทำจริง

"ทางโรงเรียนให้ครูน้ำเขียนใบลาออกเอง ไม่อยากให้ประวัติเสีย ตนเองก็ไม่ได้แจ้งความเอาเรื่องอะไรมากมาย แค่อยากแจ้งให้โรงเรียนทราบว่า ครูน้ำมีพฤติกรรมแบบนี้ กลัวจะไปทำกับเด็กคนอื่นอีก สำหรับแม่ขณะนั้นตัดสินใจเอาลูกออกจากโรงเรียนกลางคัน ไปเรียนโรงเรียนอื่น ในชั้นอนุบาล 3 สภาพจิตใจลูกแย่มาก ปรับสภาพแวดล้อมเดิมไม่ได้ ไม่อยากไปโรงเรียน

ปัจจุบันลูกของตนทั้ง 2 คน เรียนอยู่ชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง อยากฟื้นฟูจิตใจให้ลูกกลับมาเหมือนเดิม เพราะเขาเป็นเด็กร่าเริง เด็กหลายคนโดนครูกระทำรุนแรง ผู้ปกครองย้ายเด็กไปเรียนที่อื่นกว่า 10 คน กระทั่งโรงเรียนดังกล่าวตกเป็นข่าวดังอีกยครั้ง"

ขณะที่พ่อของเด็ก เผยว่า ตอนนั้นทางโรงเรียนยังไม่มีการติดตั้งวงจรปิดเหมือนในปัจจุบัน ตนไปทำเรื่องขอเอาลูกลาออก โรงเรียนขออย่าให้ทางตนเอาเรื่อง และเพิ่งจะมาติดกล้องหลังจากเคสของลูกชายนี้เพื่อสังเกตพฤติกรรมของครู

"ผมไม่ได้อยากจะตามกระแส แต่ผมทนเห็นสิ่งแบบนี้ไม่ได้ อยากจะให้จัดการกับทางโรงเรียนแห่งนี้ให้เด็ดขาด อาการของลูกผมทั้ง 2 คน ช่วงที่เรียนอยู่นั้น โดนกระทำรุนแรงคล้ายกับเคสเด็กในปัจจุบัน ผมอยากจะเป็นกระบอกเสียงอีกทางซึ่งจะได้เพิ่มน้ำหนักให้เอาผิดกับโรงเรียนนี้"

ส่วนกรณีที่แม่ของเด็กชาย อายุ 4 ปี นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี โพสต์ภาพรอยเขียวช้ำเป็นแนวยาวที่ก้นและน่องขาด้านซ้ายของลูกชายตนเอง พร้อมใบแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.หลักสอง

ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ติดต่อไปยังครูประจำชั้น ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า "ยืนยันว่าเช่อไม่ได้ทำร้ายเด็กตามที่ผู้ปกครองกล่าวหา เช่อไม่คิดจะทำอะไรรุนแรงกับเด็กเลย ไม่มีความคิดนั้น ยิ่งกระแสสังคมช่วงนี้แรงมายิ่งต้องระวังตัวเอง และดูแลเด็กเป็นพิเศษมากกว่าเดิมเป็นปกติ ไม่เคยใช้ความรุนแรงกับเด็ก บางทีเด็กมีแผลอาจจะล้มไม่ได้รุนแรงอะไรมาก ก็จะแจ้งผู้ปกครองให้ทราบ"

ครูประจำชั้นคนดังกล่าว ยังระบุอีกว่า ร่องรอยฟกช้ำที่ก้นของเด็ก ไม่รู้เกิดจากอะไร เด็กมาโรงเรียนก็ไม่ได้ไปทำกิจกรรมอะไรหรือไปทำอะไรที่ทำให้เกิดแผล เด็กเป็นปกติ ร่าเริง เช่อเข้าใจในส่วนของผู้ปกครอง ถ้าเป็นลูกหลานของเช่อก็คงคิดอย่างนั้น เพราะเราไม่มีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานให้ผู้ปกครองเชื่อมั่น

ตนได้แต่อธิบายเท่านั้นไม่ทราบว่าแผลเกิดจากอะไร วันศุกร์ที่ผ่านมาผู้ปกครองของเด็กมาหาที่โรงเรียนแต่ไม่ได้เจอกันเพราะตนหยุด เบื้องต้นผู้ปกครองได้คุยกับผู้บริหารโรงเรียนแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้เจอหน้าผู้ปกครองของเด็กเลย พร้อมจะพิสูจน์ในทุก ๆ เรื่อง ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้ทำร้ายเด็ก

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/IJbAJevlEuI