สังคม

เปิดเหตุผล 8 ข้อ 'น้องชมพู่' เดินขึ้นภูเหล็กไฟเองไม่ได้! ผบ.ตร. ยันมีคนร้ายทำน้องเสียชีวิต

โดย

3 ต.ค. 2563

1.8K views

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ได้มีการสัมภาษณ์พยานบุคคล 384 ปาก และได้สอบปากคำเข้าสำนวนการสอบสวน 120 ปาก  สอบปากคำผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 13 ปาก 
เก็บวัตถุพยานที่เป็นหลักฐานสำคัญในคดีตรวจพิสูจน์แล้ว จำนวน 113 ชิ้น โดยเป็นหลักฐานบนที่เกิดเหตุ 16 ชิ้น เก็บตัวอย่าง DNA บุคคล จำนวน 154 ตัวอย่าง โดย ณ เวลานี้สำนวนการสอบสวนมีความหนา 918 หน้า
คณะพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนชันสูตรพลิกศพ พบว่าการสืบสวนสอบสวนยืนยันว่า น้องชมพูไม่สามารถเดินขึ้นไปบนจุดพบศพบนภูเหล็กไฟได้ด้วยตนเองได้ มีเหตุผลสรุป 8 ข้อ น้องชมพู่ไม่สามารถเดินขึ้นภูเหล็กไฟไปเองได้ 1. เส้นทางขึ้นเขามี 4 เส้นทาง แต่ยากลำบากเกินความสามารถเด็ก เพราะมีความลาดชันเกิน 60 องศา 
2. นักโภชานาการชี้อาหารเช้าที่น้องชมพู่ทานเข้าไปมีเพียงไข่เจียว 3 คำ น้ำส้ม 1 ขวด ไม่น่าให้พลังงานมากพอจะเดินขึ้นไป
3. ชาวบ้านบอกว่าเด็ก 3 ขวบ เดินไปด้วยตัวเองได้ หากหลงทางก็คงไปได้แค่ชั้นที่ 2 ไม่ถึงจุดที่พบศพน้องชมพู่
4. เทียบกับการหายตัวไปของนาง ทิณ เชื้อคมตา หายไปเป็นระยะทาง 2 เท่าของน้องชมพู่ ชาวบ้านระดมตามหายังเจอได้ในคืนเดียว 
5. ผู้ชำนาญการยืนยัน จากบ้านเกิดเหตุถึงจุดที่พบศพ เด็กวัย 3 ขวบไม่สามารถเดินขึ้นไปได้ กุมารแพทย์ชี้แม้เด็กหลงทาง แต่หากเดินห่างบ้านไป 200 เมตร ก็ยังเห็นบ้านเพราะเป็นพื้นราบไม่น่าจะหลงทาง ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นแพทย์ชันสูตร
6. ศพอยู่ในสภาพเปลือย ซึ่งพ่อแม่ยืนยันน้องชมพู่ถอดเสื้อผ้าเองไม่ได้ 
7. พบเส้นผม 36 เส้น เป็นผมของน้องชมพู่ที่ถูกตัด เชื่อว่าเป็นฝีมือคนร้าย
8. น้องกลัวสวนยางพารา กลัวที่มืด ไม่เคยไปเล่นที่อื่น และพ่อแม่ไม่เคยพาขึ้นภูเหล็กไฟสรุปน้องชมพู่ไม่ได้เดินขึ้นไปเอง แต่เชื่อว่ามีคนพาขึ้นไป ไม่ว่าทั้งทางตรงหรือทางอ้อม แต่จะต้องถูกดำเนินคดีตามข้อหาที่ตั้งขึ้น แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับใคร
ส่วน เส้นผมที่พบในที่เกิดเหตุไม่มีรากผม ทำให้ไม่สามารถตรวจ DNA แบบระบุคนได้ ทราบเพียงว่าเป็น DNA ของบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับน้องชมพู่ทางฝ่ายหญิงเท่านั้น เช่น ยาย /เเม่ /ป้า/น้า/น้อง รวมถึงไม่ได้หมายความว่า เส้นผมที่พบจะเป็นของคนร้ายเสมอไป
ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/kRHKpm_jDk4

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ