สังคม

วิเคราะห์โค้ง 100 ศพรัชดา หาสาเหตุเกิดอุบัติเหตุ ปรากฎเจอรถชนต่อหน้า จนท.

โดย

2 ต.ค. 2563

2.6K views

เมื่อวานนี้ (1 ต.ค.63) ศาสตราจารย์พิชัย ธานีรณานนท์ ประธานคณะอนุกรรมการสาขาป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและการเสียชีวิต เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) พร้อมนายธนันท์ชัย เมฆประเสริฐ ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนงาน สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ร่วมกับสำนักการโยธา และสำนักการจราจรและขนส่ง กทม.ลงพื้นที่ตรวจสอบโค้งศาลอาญา หรือโค้ง 100 ศพ ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังเกิดอุบัติเหตุจนเกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินหลายครั้ง

ศาสตราจารย์พิชัย กล่าวว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุบริเวณเดียวกันนี้ ถึง 3 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 4 ราย วสท.จึงนำทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ลงพื้นที่ตรวจวิเคราะห์ทางวิศวกรรมบริเวณโค้งที่เกิดเหตุ ซึ่งลักษณะทางกายภาพของถนนรัชดาภิเษกเป็นถนนแปดเลน แบ่งเป็นฝั่งและฝั่งขาออกฝั่งละ 4 เลน ซึ่งช่วงโค้งถัดจากอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ผ่านซอยรัชดา 36 (ซอยเสือใหญ่อุทิศ) ถึงซอยรัชดา 32 มีรัศมีโค้งกว้างมาก รวมความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร

พบว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเวลากลางคืนหรือในขณะฝนตก ทำให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่เดิมอุบัติเหตุมักเกิดบนถนนฝั่งขาออก แต่หลังจากที่มีอุโมงค์ลอดแยกดังกล่าว ทำให้อุบัติเหตุไปเกิดที่ฝั่งขาเข้า เนื่องจากรถขับมาจากอุโมงค์ด้วยความเร็วโดยไม่มีกลไกชะลอความเร็วรถ จนทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถควบคุมรถได้

ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่

1.ทางโค้งรัชดาเป็นโค้งหลังหัก คือทางโค้งที่มีสองลักษณะเชื่อมด้วยเส้นตรงสั้น ทำให้ผู้ขับขี่ไม่คิดว่าต้องปรับพวงมาลัย ขณะขับเข้าโค้ง ควรติดตั้งเครื่องหมายจราจรสะท้อนแสงนอกแนวขอบโค้งและติดป้ายบังคับความเร็วให้ผู้ขับขี่เห็นได้อย่างชัดเจน

2.ไม่มีการยกโค้ง ทำให้รถที่วิ่งเข้าสู่ทางโค้งด้วยความเร็วสูงกว่ากำหนดไม่สามารถควบคุมรถให้วิ่งตามแนวเส้นทางได้ ควรยกโค้งด้านนอกให้สูง เพื่อให้บังคับล้อรถให้วิ่งเข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย หรือปูผิวด้วยหินเล็ก เพื่อลดความเสี่ยงการเสียหลักหลุดโค้งออกไป

3.พื้นผิวจราจรในช่วงโค้งไม่เรียบ มีการสึกกร่อนของยางมะตอย เศษหินแตกออกมา ฝนตกจะมีหลุมน้ำขัง ทำให้รถที่วิ่งมาล้อแฉลบ ควรปรับผิวจราจรให้มีสภาพดีและเรียบตามมาตรฐาน ส่วนมาตรการอื่นๆ นอกจากนี้ต้องประสานกับตำรวจเพื่อติดตั้งกล้องจับความเร็วให้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มค่าปรับให้ผู้ขับขี่เกิดความตระหนัก

นายธนันท์ชัย กล่าวว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีโค้งอันตรายอีกหลายจุดแถบชานเมือง ซึ่งได้พิจารณาการแก้ไขตามหลักการ อาทิ ต้องปรับปรุงลักษณะทางกายภาพของถนน แต่เนื่องจากถนนในเมืองมีข้อจำกัดในการยกพื้นสูง ต่างจากทางหลวง ทางเชื่อมเมือง และทางพิเศษ แต่อาจติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มเติม

ทั้งนี้ข้อมูลด้านสถิติพบว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายนที่ผ่านมารวม 300 ครั้ง เหตุรุนแรงทที่สุดช่วงเดือนสิงหาคม

อย่างไรก็ตาม ขณะการแถลงข่าวปรากฎว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคลชนกันที่ช่องทางขวาสุด บนถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาออก ตรงข้ามศาลอาญา 2 คัน เบื้องต้นเกิดความเสียหายกับตัวรถยนต์ไม่มากนัก มีเพียงท้ายรถผู้ถูกชนบุบยุบ ส่วนรถที่ชนมีฝากระโปรงยุบเสียหาย ส่งผลให้การจราจรติดขัดเล็กน้อย

สำหรับสถิติในรอบ 9 เดือน ตั้งแต่มกราคม - กันยายน 2563 เกิดอุบัติเหตุ 293 ครั้ง เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 152 ราย นอกจากนี้สถิติเฉพาะในเดือนกันยายน เกิดอุบัติเหตุ 41 ครั้ง เสียชีวิต 4 ราย

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/2sgzk1TSb0Q

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ