สังคม

อึ้ง! ครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ 411 มีใบประกอบวิชาชีพแค่ 98 คน - ปธ.สารสาสน์ เดือดคนให้สั่งปิดรร.ใช้ 'หัวแม่เท้า' คิดหรือ?

โดย

1 ต.ค. 2563

2.7K views

วานนี้ (30 ก.ย. 63) เลขาธิการคุรุสภา เผยผล ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ มีครูไทยและต่างชาติ รวมทั้งบุคลากร 411 คน พบครูที่มีใบประกอบวิชาชีพ 98 คน โดยครูประจําชั้น และครูพี่เลี้ยง 4 คน ที่ถูกดําเนินคดีทําร้ายร่างกายเด็กอนุบาล ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู และไม่พบการยื่นเรื่องขอใบอนุญาตตามที่ได้แจ้งไว้ ส่วนบุคลากรที่เหลือกว่า 300 คน เร่งรัดให้โรงเรียนจัดหาเอกสารมาให้ครบ หากพบว่าไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู ให้ฝ่ายกฎหมายเอาผิดผู้บริหารโรงเรียนและผู้แอบอ้างต่อไป
ประธานผู้อำนวยการในเครือโรงเรียนสารสาสน์ ยันแก้ไขปัญหาครูทำร้ายเด็กตรงจุดแล้ว ถามกลับหากปิดแผนกอนุบาลเด็กจะไปเรียนที่ไหน
นายพิบูลย์ ยงค์กมล ประธานผู้อำนวยการในเครือโรงเรียนสารสาสน์ เปิดใจในรายการโหนกระแสของคุณหนุ่ม กรรชัย เรื่องครูทำร้ายเด็กที่เกิดขึ้น เป็นความผิดของครูและผู้อำนวยการ ไม่เกี่ยวข้องกับตนและลูกสาวที่เป็นเจ้าของโรงเรียน และ หากโรงเรียนไม่ดีจริงก็คงไม่สามารถเปิดได้ถึง 49 สาขา ยืนยันว่า ขณะนี้ได้ไล่ครูประจำชั้น และ ครูพี่เลี้ยงที่เกี่ยวข้องออกแล้ว และยินดี จะเยียวยาตามความเป็นจริง แต่ผู้ปกครองบางรายเรียกค่าทำขวัญ 2 ล้านบาท ซึ่งเกินความเป็นจริง
สำหรับครูที่มาสอน ต้องมีใบประกอบวิชาชีพครู หากไม่มีก็ขอผ่อนผันกับกระทรวงศึกษาธิการอย่างถูกต้อง ส่วนครูพี่เลี้ยง ก็จะคัดจากหน้าตาที่สะอาดสะอ้าน  ให้ครูขูดหินปูนฟรี  เพราะครูจะต้องสะอาด เพื่อดูแลเด็ก ส่วนข้อเรียกร้องให้ปิดแผนกชั้นอนุบาล ยืนยันว่าแล้วแต่ผู้ปกครอง แต่อยากถามว่าแล้วเด็กจะเรียนที่ไหน
ขณะที่ ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวขอบคุณคุณพิบูลย์ ที่ทำให้ทราบแนวทางการบริหารของโรงเรียน โดยเฉพาะข้อมูลของบุคลากร ซึ่งทำให้สามารถตัดสินใจดำเนินการในเรื่องนี้ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ ยังแฉว่าครูสอนดนตรีใช้ไม้กวาดตีนักเรียนในห้องถึง 39 คนจนไม้กวาดหัก โดยอ้างว่าเด็กคุยเสียงดัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม แต่ทางโรงเรียนขอให้ปิดข่าวโดยเสนอให้เด็กเรียนพิเศษฟรี 3 เดือน
ขณะที่ทางด้าน ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ รุดตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพ ครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ หลังพบมีครูอีกหลายคนที่ทำร้ายเด็ก โดยตั้งแต่ช่วงเช้า ดร.สุญาดา สุนทรศาลยูล ผอ.สำนักจรรยาบรรณ วิชาชัพ และนิติการ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา พร้อมคณะกว่า 10 คน เดินทางมาถึง และพบกับคณะผู้บริหารของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ทั้งหมดก็ได้เดินเข้าไปยังห้องประชุมทันที โดยให้สื่อสังเกตุการณ์อยู่ด้านนอกเท่านั้น
ซึ่งการเดินทางมาของคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ มีประเด็นหลักๆ คือ ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาครูที่มีพฤติกรรมทำร้ายเด็กนักเรียน และตรวจสอบกรณีให้ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตมาเป็นครูสอนหนังสืออยู่กี่คน
นอกจากนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังระหว่างวันที่ 16-23 กันยายน พบว่า พี่เลี้ยงจุ๋มทำร้ายเด็กมากถึง 31 ครั้ง คือ วันที่ 16 ก.ย. = 2 ครั้ง // วันที่ 17 ก.ย. = 4 ครั้ง // วันที่ 21 ก.ย. =2 ครั้ง // วันที่ 22 ก.ย. = 8 ครั้ง // วันที่ 23 ก.ย. = 15 ครั้ง
จนถึงตอนนี้ มีครูและพี่เลี้ยงที่ทำร้ายเด็กทั้งหมด 6 คน คือ
อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือพี่เลี้ยงจุ๋ม อนุบาล 1 ตี กระชาก ผลักศีรษะ ยาดมป้ายตา
ครูมาร์วิน ครูผู้ช่วยอนุบาล 1 ผลักเด็ก กระชากแขน
อนรรฆอร พานบัว ครูแพร อนุบาล 1 กระชากเด็ก ตีท้อง
ครูอิ้ว อนุบาล 1 ดึงหู ผลักหัว
ครูบลู อนุบาล 1 ดึงหัว ผลักหัว และ ครูแพรว เนอสเซอร์รี่ หยิกอวัยวะเพศเด็ก 
ต่อมานายพิสุทธิ์ ยงค์กมล ลูกชายของผู้ก่อตั้งโรงเรียนในเครือสารสาสน์ พร้อมผู้บริหารของโรงเรียนในเครือ เข้าชี้เเจงแนวทางการเเก้ปัญหาเรื่องครูทำร้ายนักเรียน ก่อนทำข้อตกลงเป็นหนังสือแจงรายละเอียด หลังหารือกันได้ข้อตกลง ดังนี้
กรณีฝ่ายผู้ปกครองในห้องเรียนของบุตรหลานที่ถูกกระทำและยังประสงค์จะให้บุตรหลานเรียนที่โรงเรียนต่อ
 - โรงเรียนพร้อมคืนค่าธรรมเนียมในทุกกรณี ของปีการศึกษา 2563
 - โรงเรียนเร่งติดตั้งกล้องวงจรปิดและมีจอมอนิเตอร์ในโรงอาหาร เพื่อให้ผู้ปกครองสังเกตการณ์ และหลังจากนั้นจะทำเป็นออนไลน์ให้ดูกล้องได้
- ทำป้ายชื่อ รูปภาพ และตำแหน่ง ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ครูทุกคน ติดหน้าห้องเรียนทุกห้อง และเผยแพร่ในเว็บไซต์ของโรงเรียน
- โรงเรียนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ทั้งร่างกายและจิตใจของนักเรียนที่ถูกกระทำและได้รับผลกระทบเต็มจำนวนที่จ่ายจริง
- จัดนักจิตวิทยาประจำโรงเรียน เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูจิตใจให้กับนักเรียนที่ได้รับผลกระทบและประเมิน พร้อมส่งให้ผู้ปกครองทราบทุกภาคเรียน
- อนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าตรวจสอบสุขอนามัยของนักเรียนในโรงเรียน แต่ต้องไม่รบกวนการเรียนการสอนและการใช้ชีวิตของนักเรียน
- จัดอาหารกลางวันตามหลักโภชนาการ โดยแจ้งรายการอาหารให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้า 1 สัปดาห์ และเพิ่มเวลากินอาหารจากเดิม 30 นาที เป็น 40 นาที
- จัดให้มีการคัดกรองด้านสุขภาพจิตให้แก่ครูไทยและครูต่างชาติ
- จัดระบบรถรับ-ส่งนักเรียนให้มีที่นั่งเพียงพอ และจะติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในรถ ดูแลความปลอดภัย และรายงานจำนวนเด็กนักเรียนที่ขาด ลา มาสาย เป็นรายวัน
- จัดประชุมผู้ปกครองทุกระดับชั้น ทุกปีการศึกษา โดยเริ่มเดือนตุลาคมนี้
กรณีผู้ปกครองประสงค์จะขอย้ายบุตรหลานไปเรียนต่อที่อื่น
- โรงเรียนจะอำนวยความสะดวกในการจัดทำเอกสารส่งตัวนักเรียนให้แล้วเสร็จภายใน 1 วัน
-  คืนค่าเทอมและค่าธรรมเนียมอื่น ในปีการศึกษา 2563
- โรงเรียนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ทั้งร่างกายและจิตใจของนักเรียนที่ถูกกระทำและได้รับผลกระทบเต็มจำนวนที่จ่ายจริง
- ค่าชดเชย และค่าบำรุงขวัญ โรงเรียนจะเร่งดำเนินการพิจารณาโดยแจ้งความคืบหน้าทันที
ขณะเดียวกัน นางกนกวรรณ ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหา โดยมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้แทนจากกรมสุขภาพจิต ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน นิติกรสำนักงานปลัดกระทรวง ตัวแทนผู้ปกครอง ตัวแทนศึกษาธิการจังหวัด โดยมีอำนาจหน้าที่ในการติดตามแก้ไขปัญหาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง ตามบันทึกข้อตกลงร่วมระหว่างโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ และกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมให้รายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/pEH0UTE2ha0

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ