สังคม

รถพ่วงชนท้ายรถเทรลเลอร์ เกิดระเบิด ไฟไหม้วอดทั้งคัน คนขับรอดตายปาฏิหาริย์

โดย

27 ก.ย. 2563

692 views

อ่างทอง-หวิดดับรถพ่วงชนท้ายรถเทรลเลอร์ ไฟลุกไหม้วอดทั้งคัน คนขับรอดตายราวปาฏิหาริย์ ด้านคนขับเผยกำลังจะแซงแต่มีรถจากด้านหลังวิ่งมา ทำให้เบรคไม่อยู่ชนเข้าอย่างจัง
เมื่อเวลา 04.40 น. วันที่ 27 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชโย ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงชนท้ายรถเทรลเลอร์ จนเกิดเพลิงลุกไหม้ บริเวณถนนสายเอเชียขาเข้ากรุงเทพฯ หลักกิโลเมตรที่ 59 + 400 ต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุบริเวณช่องทางด้านซ้าย พบรถพ่วงบรรทุกปูน ยี่ห้ออีซูซุ สภาพชนอัดอยู่กับท้ายรถเทรลเลอร์หัวลากบรรทุกน้ำ ยี่ห้ออีซูซุ จนหัวเก๋งกระเด็นหลุดลงมาที่พื้นถนน มีเพลิงลุกไหม้ที่หัวเก๋งและท้ายรถเทรลเลอร์อย่างรุนแรง เนื่องจากรถบรรทุกพ่วงติดแก๊ส ประกอบกับมีเสียงระเบิดของถังแก๊ส ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าควบคุมเพลิง เพราะเกรงว่าถังแก๊สจะเกิดระเบิดขึ้นมาอีก โดยใช้เวลาในการควบคุมเพลิงประมาณ 40 นาที เพลิงจึงสงบ
จากการสอบถาม นายบรมินทร์ ทองยุทธ อายุ 33 ปี คนขับรถเทรลเลอร์หัวลาก เล่าให้ฟังว่า ตนเองขับรถเทรลเลอร์บรรทุกน้ำดื่มเต็มคันรถ มาจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ โดยได้จอดพักรถที่ปั๊มน้ำมันในเขตอำเภอไชโย หลังจากขับออกมาเพียงไม่นานได้มีรถพ่วงวิ่งเข้ามาชนท้ายและเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นมา ตนเองคิดว่าคนที่อยู่ในรถคงจะเสียชีวิตในซากรถอย่างแน่นอน
ในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่พบ นายนิพนธ์ อินทรวิเศษ อายุ 39 ปี คนขับรถพ่วงบรรทุกปูน ยืนตั้งสติอยู่หน้าปั๊มน้ำมัน ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 50 เมตร ให้การว่า ตนเองขับรถพ่วงบรรทุกปูนมาเพียงคนเดียว ออกจากอำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ มุ่งหน้าไปอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างทางได้ขับตามรถเทรลเลอร์บรรทุกน้ำ
พอมาถึงที่เกิดเหตุตนเองกำลังจะเร่งเครื่องแซงรถเทรลเลอร์ แต่มีรถขนผักที่อยู่ด้านหลังแซงขึ้นมาเสียก่อน จึงเบรกไม่ทันพุ่งเข้าชนท้ายรถเทรลเลอร์เข้าอย่างจังไปไกลกว่า 50 เมตร หัวเก๋งหลุดลงไปอยู่ที่พื้นถนน ส่วนตนเองก็ต้องรีบตะเกียกตะกายออกจากรถรีบวิ่งหนีมาตั้งหลัก เพราะถังแก๊สที่รถเกิดระเบิดจนเพลิงลุกไหม้รถอย่างรุนแรง ตนเองได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลเพียงเล็กน้อย รอดตายราวปาฏิหาริย์
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบบันทึกภาพเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และทำการสอบสวนผู้ขับขี่รถทั้ง 2 คัน เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้ตามขั้นตอนของกฎหมาย และเร่งดำเนินการนำรถทั้ง 2 คัน ที่เกิดอุบัติเหตุออกจากพื้นที่ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ใช้เส้นทางได้ตามปกติต่อไป
ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/8iFEi7tI80s

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ