สังคม

วุ่น! รอคิวแน่นเปลี่ยนสิทธิ์บัตรทอง สปสช.ชี้ไม่เสียค่าบริการ แนะทำทางออนไลน์ สะดวกกว่า

โดย

24 ก.ย. 2563

3.1K views

จากกรณีสำนักงานงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ตรวจพบการทุจริตของคลินิกชุมชนอบอุ่น หรือ คลินิกบัตรทอง และโรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพมหานครหลายแห่ง โดยมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล และประวัติผู้ป่วย จนนำมาซึ่งการยกเลิกสัญญาถึง 145 คลินิก ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 18 ก.ย. จนสร้างความปั่นป่วน โดยมีผู้ถือบัตรทองจำนวนมากไปรับการรักษา แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะคลินิกถูกยกเลิกสัญญา ผู้ถือบัตรทองได้รับผลกระทบกว่า 1 ล้านคน

เมื่อวานนี้ (23 ก.ย.63) มีประชาชนที่ถือบัตรทองที่ได้รับผลกระทบ เดินทางไปยังสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ เป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะจองคิวรับสิทธิ์การเปลี่ยนสถานพยาบาลรับบริการสิทธ์บัตรทอง เนื่องจากลงทะเบียนทางออนไลน์ไม่ได้ จึงเดินทางมาด้วยตัวเอง บางรายมารอต่อคิวตั้งแต่เวลา 04.00 น. ถึงขึ้นถอดรองเท้าวางเป็นแถวยาวเพื่อจองคิว เนื่องจากเขตเริ่มแจกบัตรคิว 07.00 น.

เมื่อวานนี้เป็นวันที่ 3 ที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอย้ายสิทธิ์ จำนวน 400 คิว แบ่งเป็นภาคเช้า 200 คิว ภาคบ่าย 200 คิว จนทำให้สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ เต็มไปด้วยประชาชนตั้งแต่เช้า โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจัดระเบียบให้ประชาชนที่ทยอยมารอลงทะเบียนขอย้ายสิทธิ์การรักษาพยาบาล พร้อมทั้งให้คำแนะนำแก่ผู้ถือบัตรทอง

โดยประชาชนที่มารับบริการ จะต้องกรอกแบบคำร้องลงทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า พร้องสำเนาเอกสารส่วนตัวของผู้ลงทะเบียนโดยผู้ถือบัตรทองที่มารับบริการส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ บางคนเพิ่งทราบว่าสามารถทำผ่านแอปพลิเคชั่น สปสช. ได้ แต่บางคนก็ทำไม่เป็น เพราะไม่ทราบว่าต้องกรอกรายเอียดอะไรบ้าง จึงเลือกที่จะมารับบริการที่สำนักงานเขต

นางชุติมณฑ์ สภาพันธ์ ชาวบ้านเขตทุ่งครุ กทม. กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบว่าบัตรทอง ไม่สามารถใช้บริการกับสถานพยาบาลเดิมได้ เมื่อช่วงวันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้แล้ว และให้ไปหาสถานพยาบาลใหม่ จึงให้ลูกหลานช่วยกันหาข้อมูล และโทรถามสายด่วน แต่ก็ไม่มีความชัดเจน

“เพื่อนแนะนำให้มาทำที่สำนักงานเขตฯ จึงมาตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. แต่คิวเต็มจึงต้องกลับบ้านไป และมาใหม่เช้าวานนี้ มารอคิวตั้งแต่ตี 5 ได้คิวที่ 220 ถ้าไม่มีบัตรทองคงลำบากเพราะค่าใช้จ่ายเยอะ  ตอนนี้ย้ายสิทธิ์บัตรทองไปสถานพยาบาลแห่งใหม่ใกล้บ้าน ซึ่งอยากให้บริการดี ๆ ดูแลให้ทั่วถึง ไม่ใช่ให้ผู้ป่วยไปนั่งแออัดกัน”   

นางหนูปิ่น จันทร์สุทธิพันธุ์ ชาวบ้านเขตราษฎร์บูรณะ กทม. กล่าวว่า ตนไปรับยาป่วยไขมันในเลือดสูง โดยได้ใช้สิทธิ์บัตรทองสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ไม่สามารถรับบริการได้ มาทราบภายหลังว่าสถานพยาบาลดังกล่าวถูกยกเลิกบัตรทอง ซึ่งยกเลิกกะทันหัน จึงเดินทางมาติดต่อที่สำนักงานเขตฯ เปลี่ยนสถานพยาบาลใหม่

ทั้งนี้มีผู้ถือบัตรทองหลายคน บอกว่า เมื่อทำการย้ายสถานพยาบาลแล้ว ต้องกลับไปเอาประวัติการรักษาที่สถานพยาบาลแห่งเดิม แต่ต้องเสียเงินค่าดำเนินการเอาประวัติรายละ 150 บาท บางรายก็ 300 บาท ทำให้ชาวบ้านหลายคนกังวลใจ เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนสูงสำหรับชาวบ้าน

ด้านนายโสรัชต์ โสดา เจ้าหน้าที่ สปสช. เขต 13 กรุงเทพมหานคร อธิบายว่า เมื่อสถานพยาบาลเดิมถูกยกเลิกสัญญาการให้บริการสิทธิ์บัตรทองแล้ว นั่นหมายความว่าเมื่อมีการดำเนินการต่าง ๆ หรือค่าส่วนต่าง ทางประชาชนจะต้องเป็นผู้ชำระส่วนต่างดังกล่าวเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลนั้น ๆ 

อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้ถือสิทธิ์บัตรทองแห่มาเปลี่ยนสถานพยาบาลใหม่นั้น เนื่องจากเคว้งและกลัวว่า หากเจ็บป่วยขึ้นมาอาจต้องไปรักษาเสียค่าใช้จ่ายแพง เนื่องจากสถานพยาบาลเดิมถูกยกเลิกสัญญากับ สปสช. แล้ว   สำหรับท่านใดที่ต้องไปรับยาหรือรักษาต่อเนื่อง สามารถเดินเข้าไปยังโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง ขอประวัติเก่าเพื่อทำการรักษาต่อเนื่องได้เลย ไม่ต้องกังวล

ขณะเจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนที่มาลงทะเบียน สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น สปสช. แทน ทั้งระบบ แอนดรอยด์ และ IOS แทน หรือ ไลน์ @UCBKK แทน เพื่อเลี่ยงการต้องเดินทางมาที่จุดให้บริการ สามารถทำที่บ้านได้เลย หากต้องการมาสามารถรับบริการได้ตาม 19 จุดให้บริการ ระหว่างวันจันทร์ ถึงวันศุกร์

ทันตแพทย์อรรถพร  ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษก สปสช. ระบุถึง การเรียกเก็บเงินค่าประวัติการรักษาของผู้ป่วยในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการย้ายสิทธิ์บัตรทอง ว่าผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องไปขอประวัติการรักษาจากที่เดิม แต่หากแพทย์จากสถานพยาบาลใหม่ที่ย้ายสิทธิ์ จำเป็นต้องใช้ประวัติการรักษาของผู้ป่วย  ผู้ป่วยจะต้องเซ็นเอกสารยินยอมให้กับสถานพยาบาลที่ใหม่ ในการเปิดเผยประวัติการรักษา

ซึ่งทางสถานพยาบาลใหม่นั้น ก็สามารถดึงข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยจากสปสช.ได้เลย ทั้งนี้หากผู้ป่วยมีการไปขอประวัติการรักษาจากสถานบริการเดิม ทางหน่วยบริการมีสิทธิ์ที่จะเรียกเก็บค่าบริการในการออกประวัติการรักษา เพราะหน่วยบริการเหล่านั้นที่ถูกยกเลิกสิทธ์บัตร ทองไม่ได้เป็นคู่สัญญากับทางสปสช.แล้ว

ขณะที่ นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระบุว่า การขอ ประวัติการรักษาของผู้ป่วยเป็นสิทธิที่ผู้ป่วยสามารถดำเนินการขอได้ แต่อาจจะมีค่าดำเนินการเพิ่มเข้ามา เช่น ค่าถ่ายเอกสาร  แต่ค่าบริการต้องอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ที่ไม่กระทบต่อ ประชาชน หากประชาชนหรือผู้ป่วยพบการเรียกเก็บขอประวัติการรักษาที่สูงเกินควร สามารถโทรแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 1667 ได้

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/df98Yc1-OYM

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ