อย่างกับในซีรีส์! นักโทษขโมยชุดผู้คุมมาใส่ เนียนเดินออกเรือนจำเพชรบูรณ์ อ้างไม่อยากติดคุกนาน

รวบแล้ว ผู้ต้องขังหนีเรือนจำเพชรบูรณ์ ขโมยเครื่องแบบผู้คุมมาใส่ สวมหน้ากากอนามัย ทำทีถือแฟ้มเอกสาร แล้วเดินออกจากเรือนจำไปหน้าตาเฉย ก่อนหนีซุกตัวบ้านร้างริมถนน ห่างเรือนจำราว 4-5 กม. สารภาพไม่อยากติดคุก

ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าเรือนจำเพชรบูรณ์ จับภาพผู้ชายที่สวมเครื่องแบบผู้คุมของเรือนจำ สวมหน้ากากอนามัย สวมหมวก ถือแฟ้มเอกสาร เดินออกมาจากประตูเรือนจำ แท้จริงแล้วคือนายวุฒิชัย เดชสิทธิ์ธนวัฒน์ อายุ 35 ปี ผู้ต้องขังคดีลักทรัพย์ เจ้าหน้าที่เห็นภาพแล้วบอกว่า เป็นการอำพรางตัว หลบหนีออกจากเรือนจำ

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องขังได้ขโมยเครื่องแบบของผู้คุมคนหนึ่ง จากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าภายในเรือนจำมาใส่ ทำให้ผ่านประตูเรือนจำ ที่มีความเข้มงวดอย่างมากออกไปได้ โดยที่เจ้าหน้าที่เรือนจำก็ไม่ได้สงสัย ก่อนเดินออกไปทางด้านหน้าเรือนจำ และได้ทำการว่าจ้างรถสามล้อเครื่องที่จอดอยู่ด้านหน้าให้ไปส่งที่บ้าน เพื่อไปเอารถจักรยานยนต์ PCX สีดำ แล้วใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี

กระทั่งเจ้าหน้าที่นำกำลังออกติดตามตัวผู้ต้องขัง สืบทราบว่าได้หลบไปอยู่ที่บ้านร้างหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 10 ต.ชอนไพร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเจ้าของใช้เก็บผลผลิตทางการเกษตร และไม่มีผู้อยู่อาศัย จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว เมื่อไปถึงก็พบผู้ต้องขังหลบอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่มาได้ถูกซุกซ่อนเอาไว้ภายในไร่ข้าวโพด

โดยนายวุฒิชัย รับสารภาพว่า สาเหตุที่ต้องหลบหนีจากเรือนจำ เพราะกลัวจะถูกขังเป็นเวลานาน จึงคิดแผนโดยรอจังหวะที่ผู้คุมเผลอ ได้แอบเข้าไปในห้องพักผ่อนของผู้คุมและขโมยเสื้อผ้าสวมใส่ ใส่หมวก หน้ากากอนามัย และใส่แว่นตาที่ใช้ในโรงงานในเรือนจำใส่ปิดบังใบหน้า ทำทีถือแฟ้มเอกสารเดินออกมาทางประตู

ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าประตูเห็นว่าเป็นผู้คุมจึงเปิดให้ หลังจากนั้นเดินออกมาทำตัวให้ปกติที่สุด และมากบดานอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว เพื่อให้รอมืดเสียก่อน จึงจะหลบหนีโดยตั้งใจไว้ว่าจะหลบหนีข้ามไป สปป.ลาว เพราะมีเพื่อนที่รู้จักอยู่ที่นั่น แต่ก็มาถูกจับได้เสียก่อน

ด้านคนขับสามล้อหน้าเรือนจำ เล่านาทีพาผู้ต้องขังหนีโดยไม่รู้ตัวว่า ช่วงเกิดเหตุ ผู้ต้องขังได้เดินออกมาจากเรือนจำ โดยผู้ต้องขังได้ว่าจ้างให้ตนไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งระหว่างทางผู้ต้องขังก็เร่งให้ตนรีบขับไวๆ กระทั่งถึงช่วงทางแยก รถตนขึ้นไม่ไหว ผู้ต้องขังก็รีบกระโดดลงจากรถ และวิ่งหนีไปอย่างเร็ว โดยไม่จ่ายตังค์ค่าโดยสาร

ขณะที่แม่ค้าขายลูกชิ้น ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ผู้ต้องขังหลบหนีเรือนจำ ได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามา ก็เริ่มผิดสังเกตุ เนื่องจากมีการนำกระสอบมาปิดบังตามประตู หน้าต่าง จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ กระทั่งพบผู้ต้องขังหลบหนีเรือนจำดังกล่าว