สังคม

ผลชี้โควิด-19 ที่พบในผู้ต้องขังเป็นสายพันธุ์ G ด้านนักวิจัยไทยเร่งพัฒนาวัคซีนจากใบยาสูบ

โดย

11 ก.ย. 2563

1K views

ความคืบหน้ากรณีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ ขณะนี้สามารถระบุได้แล้วว่าเชื้อไวรัสที่ได้รับเป็นสายพันธุ์ใด ขณะที่จุฬาลงกรณ์มหาวทิยาลัยได้แถลงความคืบหน้าความสำเร็จของการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากใบยาสูบ ซึ่งคาดว่าจะพร้อมใช้ในช่วงกลางปีหน้านี้
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยืนยันพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 7 คน เดินทางกลับจากต่างประเทศ และ เข้ากักตัวในสถานกักตัวของรัฐ  จนถึงขณะนี้ไทยมีผู้ป่วยสะสม 3,461 คน รักษาอยู่ 91 คน หายป่วยแล้ว 3,312 คน เสียชีวิตสะสม 58 คน 
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เปิดเผยผลการตรวจสอบสายพันธุ์ไวรัสของกรณีผู้ต้องขังชายที่ติดเชื้อภายในประเทศ พบว่าเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ G ที่กำลังระบาดในยุโรป และ เอเชียในช่วงหลัง ไม่ใช่สายพันธุ์ดั้งเดิม คือ L และ S จากอู่ฮั่น และ ที่เคยระบาดในไทย โดยกรณีกรมควบคุมโรคระบุว่า กรณีนี้เป็นการติดเชื้อภายในประเทศแบบไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบเชื้อในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยง
ขณะที่ในวันนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกาศความสำเร็จโครงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากใบยาสูบ ของใบยาไฟโตฟาร์ม ซึ่งเป็นวัคซีนต้นแบบชนิดแรกในชื่อ Baiya SARS-CoV-2 Vax1 ด้วยกระบวนการสกัดสารพันธุกรรมจากโปรตีนพืชที่จับคู่กับ DNA ของไวรัส
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เภสัชกรณ์หญิง ดร.สุธีรา เดชคุณวุฒิ ผู้ร่วมคิดค้นวัคซีนระบุว่า ขณะนี้เสร็จสิ้นขั้นตอนทดสอบในสัตว์ 2 ชนิด คือ หนูขาวและลิง ซึ่งได้ผลในที่น่าพอใจ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในสัตว์ทดลองได้ ต่อจากนี้จะทดสอบวัคซีนในหนูอีกครั้งเพื่อทดสอบความเป็นพิษ และ จะตรวจสอบภูมิคุ้มกันในลิงอีกครั้งหลังผ่านไป 6 เดือนเพื่อตรวจสอบภูมิคุ้มกันว่ายังมีอยู่หรือไม่ หากสำเร็จก็จะยืนยันได้ว่าวัคซีนชนิดนี้กระตุ้นภูมิคุ้มกันในระยะยาวได้ ขณะที่ปัญหาสำคัญในขณะนี้คือโรงงานผลิตวัคซีนที่ยังไม่มีในไทย ทำให้คาดว่าวัคซีนตัวนี้จะพร้อมใช้ในช่วงกลางปีหน้า

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ