สังคม

สธ.เร่งกู้ระบบข้อมูลโรงพยาบาลสระบุรี ถูกแฮกเกอร์ส่งไวรัสเรียกค่าไถ่ 63,000 ล้าน

โดย

9 ก.ย. 2563

4.8K views

แฮ็กเกอร์ส่งไวรัสเรียกค่าไถ่โรงพยาบาลสระบุรี 63,000 ล้านบาท ส่งผลปั่นป่วนทั้งโรงพยาบาล
มีรายงานว่าระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลถูกไวรัสที่เรียกว่า แรนซัมแวร์ (Ransomeware) ซึ่งเป็นไวรัสเรียกค่าไถ่เข้าโจมตี ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลต่างๆของโรงพยาบาลได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเรื่องประวัติคนไข้ หรือข้อมูลการจ่ายยา ซึ่งการโจมตีครั้งนี้เรียกค่าไถ่เป็นเงินบิทคอยน์ 200,000 บิทคอยน์ หรือตีมูลค่าปัจจุบันถึง 63,000 ล้านบาท
จากเรื่องนี้ส่งผลกระทบให้รพ.สระบุรีได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาลสำรองประวัติผู้ป่วย คือก่อนวันที่ 31 ม.ค.2560 ทำให้การทำงานต้องกลับมาใช้ระบบเดิม คือการเขียนด้วยมือ และไม่สามารถจำการจ่ายยาแต่ละชนิดให้กับผู้ป่วยได้
และเช้าวันนี้มีประชาชนจำนวนมาก มารอเข้าคิวตรวจรักษาซึ่งใช้เวลานาน เพราะในแต่จุดต้องลงทะเบียนใหม่ และกรอกข้อมูลใหม่ทั้งหมด ก่อนจะตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และส่งไปตรวจตามแผนกต่างๆ ทุกขั้นตอนจากเดิมที่ต้องรอคิวนานก็จะใช้เวลานานขึ้นอีก 1-2 ชั่วโมง รวมถึงการจ่ายยาด้วย โดยทางโรงพยาบาลได้ขอให้ผู้ที่จะมารับการรักษานำบัตรประชาชน และยาที่เคยกินมาแสดงด้วยเพื่อความสะดวกในการให้บริการ
นายวิชัย ไทยสกุล ญาติผู้ป่วยเปิดเผยว่าไม่ทราบมาก่อนว่า ทาง รพ. สระบุรี มีปัญหาเรื่องคอมพิวเตอร์ วันนี้รู้สึกวุ่นวายมาก ดีว่า บิดา และแม่ยาย นำบัตรประชาชนติดตัวมาด้วย ส่วน ยา ที่หมอเคยให้ไปนั้น บางตัวก็มีเหลืออยู่บ้างแต่บางตัว ก็ไม่มี ทำให้วุ่นวาย
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ประสานงานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมให้หาต้นตอและดำเนินการป้องกันแล้ว
นายศุภเดช สุทธิพงศ์คณาศัย ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ให้ข้อมูลว่า แรนซัมแวร์เรียกค่าไถ่เป็นซอฟท์แวร์ประเภทหนึ่งที่แฮ็กเกอร์ส่งมาตามระบบออนไลน์ และไม่เฉพาะเจาะจงว่าจะโจมตีใคร แต่หากใครหรือองค์กรไหนไปเปิดเข้า ไวรัสจะเข้าไปบล็อกการเข้าถึงข้อมูลในทันที และสร้างรหัสขึ้นมา โดยรหัสจะมีสูงถึงกว่า 100 ตัว ทำให้ไม่สามารถถอดได้ ซึ่งหากต้องการจะเข้าถึงข้อมูลได้ ก็ต้องจ่ายค่าไถ่ ตามแต่แฮ็กเกอร์จะเรียกร้อง และที่ใช้สกุลเงินบิทคอยน์ก็เพราะไม่สามารถหาต้นทางได้
โดยในกรณีนี้คาดว่าเป็นไวรัสตัวเก่่าที่สร้างขึ้นมานานแล้ว และสร้างสมัยที่บิทคอยน์ยังไม่ได้รับความนิยม และมีมูลค่าขนาดนี้ คาดว่าน่าจะทำในสมัยแรกเริ่มทีมีมูลค่าเพียงบิทคอยน์ละ 1 บาท แต่มาวันนี้กลายเป็นมูลค่ารวม 63,000 ล้านบาท โดยเขาเสนอว่าหากทำได้ก็หาต้นตอพร้อมบอกว่านี่เป็นโรงพยาบาล ขอให้งดเว้นการเรียกค่าไถ่ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีการทำสำเร็จมาแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีแนะวิธีการป้องกันจากไวรัสเรียกค่าไถ่ว่า ฝ่ายไอทีต้องวางระบบป้องกันที่รัดกุม / ใช้โปรแกรมซอฟแวร์แท้ / ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสของแท้ /และที่สำคัญอย่าคลิกเว็บแปลกๆ หรือเว็บที่มีเนื้อหาล่อแหลม
ชมผ่านยูทูบที่นี่ : https://youtu.be/DR1IUPWzIe8

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ