สังคม

สามีร้อง ภรรยาเพิ่งคลอดลูก 4 วัน หมอทำหมันแล้วให้กลับบ้าน ทั้งที่ร่างกายยังไม่แข็งแรง สุดท้ายชักเกร็งเสียชีวิต รพ.ยันไม่เกี่ยวกับการทำหมัน

โดย

4 ก.ย. 2563

6.6K views

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายคิว (สงวนชื่อ-นามสกุล) อายุ 26 ปี ว่าภรรยา ตั้งครรภ์ได้ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง หลังจากคลอดลูกชายเพียง 4 วัน ให้หมอทำหมัน แล้วหมอก็สั่งให้กลับไปพักที่บ้าน ทั้งที่ร่างกายของภรรยายังไม่ค่อยแข็งแรง ก่อนจะเกิดอาการชักเกร็งเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตอนนี้ลูกน้อยยังอยู่ที่โรงพยาบาล
สามีของผู้ตาย เล่าว่า เมื่อศุกร์วันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. ได้พาภรรยาไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลเอกชนเเห่งหนึ่ง ซึ่งภรรยาได้คลอดในเวลา 16.45 น. เป็นลูกชาย น้ำหนัก 3.5 กิโลกรัม โดยคลอดก่อนกำหนด 1 เดือน ซึ่งเป็นลูกคนที่ 4 ของภรรยา โดยก่อนหน้านั้นภรรยามีลูกกับสามีเก่า 3 คน 
ต่อมาวันจันทร์ ที่ 31 กันยายน เวลา 14.00 น. หมอได้ผ่าตัดทำหมัน เนื่องจากเป็นความต้องการของภรรยา เเต่หลังจากที่ทำหมันเสร็จ ปรากฎว่าหมอให้ภรรยากลับบ้านเพียงคนเดียว เเต่ให้ลูกอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน ซึ่งตนเป็นผู้เดินทางไปรับ กลับถึงบ้านเวลา 19.00 น. ระหว่างอยู่ที่บ้าน ภรรยายังดูปกติเเละนอนอยู่ข้างๆ 
ภรรยายังได้พูดเป็นลางเเปลก ๆ คือช่วงเวลา 20.00 น. ได้หันมากอดตนเเล้วพูดว่า "กูรักมึงนะ ถ้ากูนอนตายข้าง ๆ มึงมึงจะเป็นยังไง" ตนก็ตกใจว่าเหตุใดภรรยาจึงพูดเช่นนั้น จึงได้ถามกลับว่า "เป็นอะไรหรือเปล่า ไปหาหมอมั๊ย" เเต่ภรรยาก็ตอบว่า "ไม่ไป ไม่ได้เป็นอะไร" เเล้วก็นอนตามปกติ 
โดยช่วงเวลา 05.00 น. ของวันอังคารที่ 1 กันยายน ภรรยายังลุกมาห่มผ้าให้ตนด้วย จนกระทั่งเวลา 05.40 น. เเขนของภรรยาได้มาฟาดโดนหน้าอก ตนจึงลุกมาดู พบว่าภรรยาชักเกร็ง ลิ้นจุกปาก ตายังหลับ ซึ่งตนก็ได้ตะโกนเรียกพ่อให้ขึ้นมาดู เเล้ววิ่งลงไปเรียกญาติ ๆให้ช่วยโทรเรียกรถพยาบาล 
เมื่อวิ่งกลับมา พบว่าภรรยาหายใจเเรง 4 เฮือก เเล้วก็สิ้นใจ ซึ่งระหว่างที่หายใจเป็นเฮือกนั้น มีเลือดไหลออกมาทางปาก เลือดมีกลิ่นเหม็นเน่าเเละมีกลิ่นน้ำคาวปลา
จากนั้นเวลา 06.00 น. รถโรงพยาบาลก็มาถึง ซึ่งพยาบาลได้ทำการปั๊มหัวใจที่บ้าน สัญญาณชีพก็กลับมา 5 วินาที เเล้วก็เสียชีวิต ต่อมาได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ผลชันสูตรเบื้องต้นระบุว่าเส้นเลือดหัวใจฉีกขาด ทั้งนี้ต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
หลังจากนั้นตนได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลที่ทำคลอด เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับได้เเจ้งว่าภรรยาเสียชีวิตเเล้ว หมอก็ตกใจเเละเเสดงความเสียใจ โดยให้เหตุผลที่ให้ภรรยากลับบ้าน เนื่องจากเห็นว่าภรรยาเเข็งเเรงดี ซึ่งตนยังติดใจสาเหตุการตาย ว่าเกิดจากการทำหมันหรือไม่ เเละเหตุใดโรงพยาบาลจึงรีบให้ภรรยากลับบ้าน ไม่ให้นอนดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาบก่อน พร้อมขอให้โรงพยาบาลออกมาชี้เเจง
นายคิว ยืนยันว่าภรรยา ไม่มีโรคประจำตัวใด ๆ ตนรักภรรยามาก อยากให้ภรรยามาเอาตนไปอยู่ด้วย ส่วนภรรยาก็รักตนมาก เคยบอกว่าหากตายไปจะเอาตนไปอยู่ด้วย ตอนนี้ตนเป็นห่วงลูก ขอให้ภรรยาไปสบาย ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเพราะยังมีญาติพี่น้องหลายคน ที่จะคอยช่วยดูเเลลูก
ส่วนศพของน้องจุ๊บแจง ญาตินำร่างไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร  โดยนายสิทธิพงษ์ บรรโสภา พี่ชายของผู้ตาย เผยว่า ตั้งเเต่น้องสาวตั้งครรภ์ ไม่ได้พูดคุยกันเลย เนื่องจากน้องสาวอาศัยอยู่ที่บ้านของสามี มาทราบภายหลังว่าน้องเสียชีวิต หลังจากคลอดลูกได้ 4 วัน 
ตนสงสัยว่าหลังจากที่น้องสาวทำหมันเสร็จ เหตุใดหมอจึงรีบให้กลับบ้าน เพราะทำหมันยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำไมจึงไม่ให้น้องสาวพักฟื้นดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน  ตอนนี้ตนอยู่ในอาการช็อก เสียใจ อยากให้โรงพยาบาลออกมาชี้เเจง เเละไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เเบบนี้กับใครอีก
ตอนนี้สงสารหลานสาว ซึ่งเป็นลูกของน้องสาว 3 คน ที่เกิดกับสามีเก่า อายุ 4 ขวบ  3 ขวบ เเละ 1 ขวบ ร้องไห้ถามหาเเม่ตลอดเวลา ตอนนี้ญาติ ๆ กำลังหารือกันว่าจะช่วยกันดูเเล ส่วนลูกคนล่าสุดของน้องสาว ที่เกิดกับนายคิวนั้น นายคิวมีความต้องการจะนำไปเลี้ยงดูเอง ตอนนี้ตนมีความเป็นห่วงในเรื่องการเลี้ยงดู เเละความเป็นอยู่ของหลาน ๆเพราะหลังจากที่เเม่เสียชีวิตไปเเล้ว หลานทั้ง 4 จะอยู่อย่างไร ตอนนี้ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ เพราะน้องสาวเสียชีวิตกะทันหัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่น้องสาวเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลที่ทำคลอด ยังไม่ได้ติดต่อมาหาเเต่อย่างใด พร้อมระบุว่าหากโรงพยาบาลให้น้องสาวนอนดูอาการหลังทำหมัน น้องสาวก็อาจจะไม่เสียชีวิตก็ได้ เพราะโรงพยาบาลมีเครื่องไม้เครื่องมือ อาจช่วยชีวิตได้ทัน
ขณะที่เพื่อนของผู้ตาย กล่าวว่า เด็กน่ารักน่าชังน่าสงสารมาก คลอดมานมแม่ยังไม่ได้กินเลย หน้าแม่ก็ยังไม่ทันเห็นต้องเป็นเด็กกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิด ขอความเป็นธรรมและเรียกร้องให้ทางโรงพยาบาล ออกมาชี้แจงสาเหตุการตายของน้องจุ๊บแจง หากเกิดจากความบกพร่องของหมอ ก็อยากให้โรงพยาบาลแสดงความรับผิดชอบ
ด้านนายแพทย์ สุวินัย บุษราคัมวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดได้ อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตร สำหรับการทำหมันของคนไข้รายนี้นั้นเป็นการทำมันเปียก หรือการทำหมันภายหลังจากการคลอด ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย เทคนิคที่ใช้เรียกว่า ที.ไอ.วี.เอ. ซึ่งไม่ได้ดมยาสลบ ไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ เพียงแค่ฉีดยาให้คนไข้เคลิ้ม ไม่เจ็บไม่ปวด ใช้เวลาทำหมันประมาณ 30 นาที 
หลังจากทำเสร็จคนไข้รู้สึกตัวดี จากการตรวจร่างกาย วัดความดัน วัดชีพจร ทุกอย่างปกติ แพทย์จึงให้กลับบ้านในช่วงเย็น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการทำหมันทั่วไป ที่สามารถกลับบ้านได้เลยภายในวันนั้น ในกรณีที่ไม่มีภาวะเเทรกซ้อน
ส่วนอาการชักเกร็งและเสียชีวิตของคนไข้นั้น ทางโรงพยาบาลยืนยันว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการทำหมัน หรือกระบวนการของโรงพยาบาล เพราะหากตกเลือดหรือเสียเลือดมาก คนไข้จะต้องปวดท้องอย่างหนัก เเละต้องมาหาหมอภายในคืนนั้น แต่ก็กรณีนี้คนไข้ไม่ได้มีอาการผิดปกติใด ๆ เลย เป็นอาการเฉียบพลัน
ซึ่งอาการดังกล่าวเกิดจากภาวะบางอย่าง ที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นและทำให้ผู้ตายเกิดอาการชักเกร็ง และช็อกเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอผลชันสูตรเสียก่อน ซึ่งหากทราบผลแล้วทางโรงพยาบาลก็จะมีการพูดคุยกับญาติ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป ทางด้านของโรงพยาบาลก็มีมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปถึงผู้ที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ว่าอย่านำเรื่องราวไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เพราะอาจสร้างความเสียหายต่อโรงพยาบาล รวมถึงสร้างความเสียหายแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต 
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Nw7AJiP8HUo

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ