เลือกตั้งและการเมือง

'มงคลกิตติ์' แนะ 'ชวน' แก้ระเบียบสภา ส.ส.-ส.ว.ชกบนสังเวียน 'เอ๋' ขอเคียงข้าง 'สิระ' ยื่นสอบจริยธรรม 'เต้'

โดย

22 ส.ค. 2563

2.2K views

จากกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์พิเศษสื่อมวลชนอยู่ที่รัฐสภา ได้เห็นนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พลังประชารัฐเดินเข้ามาพอดี หลังไปแจ้งความที่สน. ทุ่งสองห้อง จึงได้ปรี่เข้าไปจับแขนนายสิระ ถามด่าผมทำไม นายสิระได้ขอให้ผู้ที่อยู่บริเวณดังกล่าว ช่วยบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานก่อนจะสะบัดมือออกทันทีและพูดว่า อย่ามาจับผม จับตัวผมไม่ได้ คุณเป็นนักเลง แล้วพยายามเดินหนีนายมงคลกิตติ์ที่พยายามเดินตาม และขอให้ตำรวจสภามาพาตัวนายมงคลกิตติ์ออกไป และระบุว่าให้ภาพฟ้องคนทั้งประเทศว่า ส.ส.กระทำผิด มาหาเรื่องในสภาอันทรงเกียรติ ขณะที่นายมงคลกิตติ์ สวนกลับว่าทำไมเวลาพูดไม่คิด ใครเป็นคนเริ่มทำให้นายสิระตอบกลับว่า คิดแล้ว และบอกว่าไม่ต้องมาพูดกับผมพร้อมเรียกร้องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ช่วยสั่งให้เจ้าหน้าที่ ดูแลความปลอดภัย เพราะเดินไปทางไหนถูกนายมงคลกิตติ์เข้ามาก่อกวน รังควาน คุกคาม ในระหว่างเข้ามาทำหน้าที่ในสภาฯ
จากนั้นนายสิระได้ขึ้นมาพบนายชวน หลีกภัย เพื่อรายงานถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที พร้อมเปิดเผยว่า ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรจึงขอให้นายชวนดูแลความปลอดภัย ส.ส.ที่ทำงานเพื่อประชาชน ไม่ให้มีใครมาคุกคาม หรือมาท้าตีท้าต่อย ซึ่งเมื่อวานนี้และวันนี้ ตนถูกคุกคามจากการทำหน้าที่ ส.ส.
 ทั้งนี้นายสิระได้โชว์ข้อความที่นายนายมงคลกิตติ์ โพสต์ ในเฟสบุ๊กส่วนตัว ข้อความว่า “ไอ้สิระ กูเจอมึงที่ไหน กูจะเอาให้ฟันร่วงหมดปาก รู้จักกูน้อยไป” มาแสดงให้เห็นว่า นายมงคลกิตติ์มีพฤติกรรมเช่นใด ซึ่งเมื่อกราบเรียนนายชวนแล้ว ว่าไม่ควรมีเรื่องดังนี้เกิดขึ้นในสภา
และระหว่างที่นายสิระออกมาให้สัมภาษณ์นั้น นายแพทย์สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มาพาตัวนายมงคลกิตติ์ ที่รออยู่หน้าห้องเข้าพบนายชวน เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับนายสิระ
จากนั้นนายมงคลกิตติ์ ใช้เวลาพบนายชวนประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ว่า มาพบนายชวน เพราะเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายชวนทราบอยู่แล้ว และเข้าใจว่าสิ่งที่นายสิระทำกับตน แรงมาก
 ทั้งนี้นายชวนได้ขอว่า ในสภาฯอย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น และอยากให้นายสิระมาขอโทษ ซึ่งได้รับปากนายชวนแล้วว่า จะไม่เกิดเรื่องใดๆในสภาฯ และในฐานะลูกผู้ชาย หากมาขอโทษเรื่องก็จบ ตนไม่ใช่พวกลอบกัดใครเพราะไม่ใช่หมา แต่ไม่รับปากว่าเจอข้างนอกจะเป็นอย่างไร และขอเดินคนละทางกับนายสิระ ทางใครทางมัน และไม่กังวงกรณีที่ถูกแจ้งความเพราะไม่ได้มีโทษหนักเพราะเป็นการบันดาลโทสะ แต่กรณีของนายสิระถือว่าหมิ่นประมาทตนถึง2ครั้ง
“และสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ตนไม่ได้ทำอะไรเพียงต้องการสอบถามว่าสิ่งที่นายสิระพูดคิดก่อนหรือไม่ ที่ต่อว่ามาว่าคนอื่นลับหลังแล้วไปฟ้องผู้ใหญ่เค้าเรียกว่าอะไร ปกติเวลามีอะไรเคลียร์กัน ตกลงกันไม่ได้ก็นอกห้องเรียน ไม่ต้องเอาครูบาอาจารย์มายุ่งเกี่ยวฟ้องผู้ใหญ่ หรือฟ้องพ่อฟ้องแม่ ผมเป็นลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ ปกติผมเป็นคนอ่อนน้อม เพียงแต่ว่าเจอคนมีการศึกษาเราก็มีการศึกษา ลูกผู้ชาย ทำผิดตองรับผิด ผมไม่ใช่คนอันธพาล ผมเป็นลูกผู้ชายที่หยามไม่ได้ เราผิดตรงไหน ไม่ดีตรงไหนยอมรับ แต่นี่มาว่าลับหลัง ผมไม่ชอบ”
แต่ทั้งนี้หากยังไม่ขอโทษ ตนก็จะมอบหมายให้ทนายความไป ฟ้องร้องดำเนินคดีที่ศาลอาญาฐานหมิ่นประมาทในวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคมนี้ 
ยืนยันว่า ที่ตนโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว แค่คำว่า ‘สิระ’ แต่ไม่ได้ระบุนามสกุล และการโพสต์นั้นก็ไม่ได้มุ่งหวังจะเอาชีวิต ที่นายสิระไปแจ้งความตน 2 ข้อหานั้น ตนก็ได้ศึกษากฎหมายเพราะเคยโดนดำเนินคดีมาเยอะ จึงเข้าใจความผิด แต่ที่โพสต์ไปเมื่อวานแค่บันดาลโทษะ โทษก็ลดลง 2 ใน 3 อยู่แล้ว ขนาดยิงคนตายยังได้ลดโทษติดคุกแค่ 2 ปี ใครโดนแบบตนก็ต้องรู้สึกก็ต้องรู้สึกเหมือนกัน คุมอารมณ์ไม่อยู่ 
ยอมรับว่าเมื่อวานโกรธมากหลังนายสิระแถลงข่าวที่มีถ้อยคำดูถูกตัวเอง เพื่อน ส.ส. ที่นั่งอยู่ก็เห็นหมด และขอให้ตนเอาผิดกับนายสิระ แต่พฤติกรรมของนายสิระ มันเกินไป ปกติตนเองจะเป็นคนที่ไม่ถือสาพวกเดียวกัน แต่ตนเป็นหัวหน้ากลุ่มพรรคเล็ก ทำแบบนี้เหมือนหยามศักดิ์ศรีและดูถูกทุกคนในพรรคเล็กไปด้วย ทุกคนจึงขอร้องให้โทรหานายสิระตั้งแต่เมื่อวาน ถ้าสิระรับสายเคลียร์กัน ขอโทษทุกอย่างก็จบ แต่นายสิระไม่ได้รับสาย
เรื่องที่ตนแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเกี่ยวกับ พล.อ.ปรนะยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตนพูดในฐานะแกนนำพรรคเล็กที่ร่วมรัฐบาล เป็นห่วงบ้านเมืองกับเหตุการณ์ที่จะเกิดข้างหน้า และประโยคที่ตนโกรธเลือดขึ้นหน้าคือ “ตักน้ำใส่กระโหลก ,บริจาคเงินจนหมดให้มาขอนายสิระได้และกล้วยหมด” ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องการแสดงความเห็นทางการเมือง พร้อมย้ำว่า ถ้าไม่จำเป็นตนก็ไม่แสดงความเห็นอะไรมาก สิ่งที่พูดไปคือความหวังดีกับรัฐบาลและประเทศ
ส่วนที่นายสิระบอกว่าไม่ใช่บันดาลโทษะ แต่เป็นที่สันดาน นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ปกติกมลสันดานในตัวเองเป็นคนดีก็ได้เป็นคนเลวก็ได้ เป็นโจรก็ได้ เป็นใครก็ได้ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ เพราะแต่ละคนมีอารมณ์ที่แตกต่างกันไป
นายมงคลกิตติ์ ยังชี้แจงถึงกรณีการลบโพสต์ก่อนหน้านี้ว่า ไม่ได้ลบ แต่บังเอิญว่านิ้วก้อยไปกดโดนลบไม่รู้ ลบไปแล้วก็เสียดายเพราะกดไลค์เยอะ ส่วนที่ตนเองโพสต์เรื่องบัญชีทรัพย์สิน นายมงคลกิตติ์ยืนยันว่าไม่ได้สื่อถึงใคร ใครมีก็ไปชี้แจงเพิ่ม
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสิระกล่าวหาว่าเป็น ส.ส. พฤติกรรมถ่อย นายมงคลกิตติ กล่าวว่า ส.ส. พฤติกรรมถ่อย ให้ย้อนดูว่าระหว่างเหตุการณ์ที่ภูเก็ตกับของตนเองใครถ่อยกว่ากัน เมื่อวานที่ทำไปไม่ใช่อารมณ์ ส.ส. แต่เป็นอารมณ์เด็กช่าง
ส่วนหลังจากนี้จะมองหน้ากันติดหรือไม่ หรือจะมีคนกลางมาไกล่เกลี่ย อยากเช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ฝากไปบอก พล.อ.ประวิตร ว่า “ให้คุมลูกพรรคอย่าให้ไปเที่ยวไล่กัดชาวบ้านแบบนี้” พร้อมย้ำว่าไม่เคลียร์ ถ้าจะเคลียร์ก็ต้องมาขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชน
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายสิระ กับนายมงคลกิตติ์ ว่า ภาพพจน์ของสภาได้รับผลกระทบ แต่ขออย่าต้องแยกระหว่างคนส่วนใหญ่กับ คน2 คน ออกจากกัน ซึ่งตนพยายามที่จะเชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาคุยกัน แต่ทั้งคู่ไม่ยอม มาคุยกัน และนายสิระ ก็ยืนยันว่าจะส่งเรื่องให้กรรมการจริยธรรม นายชวน กล่าวด้วยว่าตนได้ขอร้องอย่าให้เกิดความรุนแรงขึ้น ส่วนการกระทบกระทั่งด้วยวาจาเชื่อสามารถพูดกันได้
เมื่อถามว่า หากมีการต่อยหรือตีกันในสภาฯจริงๆจะมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง นายชวน กล่าวย้ำว่า ยังไงก็อย่าให้เกิดขึ้น ดีที่สุดและทั้ง2ฝ่ายรับปากจะไม่ให้เกิดความรุนแรง
ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา นายมงคลกิตติ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ฝากท่านชวน แก้ ระเบียบสภาให้ ส.ส.-ส.ว.สามารถต่อยกันได้ การต่อยเป็นการออกกำลังกาย สามารถลดงบประมาณ สปสช.ได้ เป็นการดูแลสุขภาพ สมาชิกรัฐสภา ในภาวะที่รัฐบาลจัดเก็บภาษีเข้ารัฐได้ปี 63 ลดลงไป 2.14 ส.ลบ #ต่อยเพื่อสุขภาพ#"
นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ยื่นเรื่องต่อสภาผู้แทนราษฎรให้สอบจริยธรรม นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์  หลังมีการโพสต์ข้อความลงใน เฟสบุ๊กส่วนตัวข่มขู่ คุกคาม นายสิระ เจนจาคะ เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นพฤติการณ์ที่ขาดวุฒิภาวะ ผิดจริยธรรม และผิดกฏหมายเพราะเป็นการข่มขู่ผู้อื่นให้เกิดความกลัว พฤติกรรมเช่นนี้ไม่สมควรเป็น ส.ส.จึงขอให้สภาตั้งกรรมการตรวจสอบ
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/6RPNltWWoHg

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ