เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ ปัดเผด็จการ ขออย่าก้าวล่วงสถาบันฯ ย้อนสื่อนอก "ประเทศเจ้าตัวก็มีปัญหาเหมือนกัน"

โดย

20 ส.ค. 2563

1.6K views

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่าในวันนี้รัฐบาลได้มีการประชุมในเรื่องของเศรษฐกิจ ที่ตนเองถือว่ามีความสำคัญเป็นอันดับแรกในขณะนี้ เนื่องจากทั้งไทยและทุกประเทศต่างได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยนายกรัฐมนตรี ได้พูดกับสื่อสาธาณะของประเทศอังกฤษ ที่มารวมฟังแถลงข่าวนายกรัฐมนตรี ว่าประเทศอังกฤษก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน แต่ขณะเดียวกันประเทศไทยก็มีปัญหาทางการเมืองด้วย ดังนั้นยืนยันว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาทั้ง 2 มิตินี้ให้ดีที่สุด
ส่วนการประชุมสภาความมั่นคงที่เสร็จสิ้นไปนั้น คงไม่ได้หารทอเฉพาะประเด็นการชุมนุมที่มีอยู่ในขณะนี้เท่านั้น เพราะเราต้องมองถึงการเดินหน้าเศรษฐกิจ การป้องกันด้านสุขภาพของประชาชน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขับเคลื่อนประเทศในระยะที่ 2 ตามมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 7 ซึ่งได้มีการสอบถามเรื่องนี้กับฝ่ายความมั่นคง ว่ามีความพร้อมอยู่ในระดับใด
นายกรัฐมนตรี ยังระบุ ถึงการดูแลการชุมนุมว่า ตนเองเข้าใจในเรื่องนี้ เพราะถือว่าเป็นหลักการของประชาธิปไตยในทุกประเทศ ซึ่งหลายคนอาจมองถึงที่มาของตนเอง โดยเฉพาะการพูดถึงเรื่องของเผด็จการ จึงต้องย้ำว่าวันนี้ รัฐบาลมาด้วยกระบวนการประชาธิปไตย ในส่วนขอรัฐธรรมนูญที่จะเสนอแก้ไขนั้น ก็เป็นเรื่องที่จะต้องพูดคุยกันต่อไป ขอเพียงอย่าก้าวล่วงสถาบัน แต่เชื่อว่าหลายประเทศก็คงเคยเผชิญปัญหาต่างๆมาเหมือนๆ กัน แต่สิ่งที่กังวลในขณะนี้ คือ ไม่ว่าจะมีคนอยู่เบื้องหลังหรือไม่ แต่ก็เกรงเรื่องของความวุ่นวายที่เกิดขึ้น และหากมีคนที่ต้องการให้เกิดสถานการณ์และเจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฏหมาย จนทำให้เกิดความไม่สงบทุก อย่างก็จะวนกลับไปเหมือนสถานการณ์ที่เคยผ่านมา ดังนั้นขอให้ทุกคนมองถึงอนาคตของชาติเป็นหลัก
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า เด็กคือผู้บริสุทธิ์ แต่บางส่วนอาจถูกชักนำ ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนให้แก่อนาคตของเด็กด้วย ทั้งนี้ ตนเองเห็นว่าข้อเรียกร้อง มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่า เรื่องใดที่ทำได้ จะดำเนินการให้ แต่เรื่องใดที่เป็นไปไม่ได้ เช่น ยกเลิกไหว้ครู หรือ การไม่เครพผู้ใหญ่สังคม ก็เชื่อว่าจะทำให้สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา และสถาบันอื่นๆ ได้ผลกระทบจึงตั้งข้อสังเกตุว่า หากคนอื่นเป็นรัฐบาลในขณะนี้จะทำอย่างไร
พร้อมทั้งขอให้สื่อใช้วิจารณญาณในการนำเสนอข่าวเหล่านี้ เพื่อไม่ให้ถูกมองว่ามีการขยายวงกว้างออกไป เพราะที่จริงแล้ว รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแสดงความเห็น ไม่ว่าจะเป็นเพียงคนเดียว หรือ การรวมเป็นกลุ่ม และไม่ต้องการให้กลุ่มที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ใช้สถานการณ์นี้เป็นประโยชน์ จนทำให้เด็กต้องกลายเป็นกันชน ดังนั้นจึงย้ำว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะจะไม่ใช้กฏหมายพิเศษดูแลการชุนนุม แต่จะใช้เพื่อดำเนินการด้านสาธารณสุขเท่านั้น พร้อมย้ำว่าจะให้ประเทศเกิดความขัดแย้ง ถึงไปในระดับครอบครัวไม่ได้ เพราะนั้นหมายถึงประเทศจะล่มสลาย จะเกิดการจราจน ซึ่งไม่อยากให้ประเทศเดินไปถึงจุดนั้น สื่อและประชาชน ต้องช่วยกันในเรื่องนี้
นายกรัฐมนตรี ยังได้ตอบคำถามสื่อต่างประเทศ ทั้งกรณีที่นายกฯ ระบุว่ารับฟังความเห็นของทุกฝ่าย แต่บนเวทียังยืนยัน ว่าไม่รับฟัง และยังกล่าวถึงขอเรียกร้องหลายๆ ข้อ ที่ทั้งเรื่องของการปฏิรูป ด้วยว่า ในเรื่องของสถาบันนั้น ขอให้เข้าใจว่า สถาบันมีความผูกพันธ์กับประเทศไทย มาโดยตลอด ขณะที่ตนเองไม่เคยก้าวล่วง หรือ สนับสนุนการเคลื่อนไหวในไทยเพื่อต่อต้านประเทศอื่น โดยยืดหลักต่างประเทศที่สมดุล ขณะที่การปฏิรูปทั้ง 6 ด้าน ก็ดำเนินไปอยู่แล้ว และย้ำว่าแม้ไม่ได้ไปพบกันแต่ละกลุ่ม แต่ตนก็รับฟังความคิดเห็นทุกช่องทาง เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้บานปลาย ขอเข้าใจทุกการชุมนุมย่อมมีเป้าหมาย และเกิดขึ้นมากว่า 10 ปี และไม่ใช่ทุกคนจะมีแนวคิดเดียวกับการชุมนุม จีงต้องรับฟัง หาทางออก ตอบคำถามทุกคำถามของประชาชน
โดยนายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า ไม่อยากให้มีการแตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เครพนับถือของคนทั้งประเทศ จึงขอให้ทุกคนเครพอัตตาลักษณะของไทยด้วย ที่เป็นมานับหลาย 100 ปี จึงถือเป็นพื้นฐานของคนไทยทั้งประเทศ ทุกประเทศเคยมีสถาบันที่ก่อตั้งประเทศมาก่อน
ดูยูทูป :  https://youtu.be/bLIAF5iqfmA

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ