เลือกตั้งและการเมือง

บรรยากาศ 2 ม็อบ ชุมนุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย - นายกฯ ขอบคุณ จนท.ดูแลม็อบ ขอให้อดกลั้นห้ามใช้ความรุนแรง

โดย

17 ส.ค. 2563

6.2K views

สำหรับการชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยวานนี้ (16 ส.ค. 63) มีกลุ่มผู้ชุมนุม 2 ฟากฝั่งทยอยเดินทางมารวมตัวกัน ทั้งกลุ่มคณะประชาชนปลดแอก และกลุ่มศูนย์กลางประสานงานนักศึกษาอาชีวะปกป้องสถาบัน ขณะที่ตำรวจใช้กำลัง 600 นายดูแลความเรียบร้อย
โดยที่ด้านหน้าร้านแมคโดนัลด์ เริ่มมีมวลชนจากกลุ่มเลือกข้างประชาธิปไตย มารวมตัวกัน โดยขออนุญาตกับทาง สน.ชนะสงคราม ในการขอจัดการชุมนุมตั้งแต่ 10.00 น.-15.00 น. มารวมตัวแลดงออกทางการเมืองแล้ว ก่อนที่ในเวลา 15.00 คณะประชาชนปลดแอกจะเริ่มการชุมนุม โดยเริ่มมีมวลชนทยอยเดินทางมาบ้างแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กมากั้นไว้ เพื่อให้มวลชนใช้พื้นที่บริเวณริมทางเท้าในการแสดงออกทางการเมือง 
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ปิติพันธ์ กฤดากร ณ อยุธยา รองผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม ได้มาทำความมเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม ให้ชุมนุมอย่างสงบ และอนุญาตให้ชุมนุมได้บนทางเท้าเท่านั้น ซึ่งได้มีการจัดกำลัง ตร. 4 กองร้อยดูแลความเรียบร้อย 
ขณะที่อีกฟากฝั่ง หน้าร้านอาหารศรแดง กลุ่มที่ใช้ชื่อว่าศูนย์กลางประสานงานนักศึกษาอาชีวะปกป้องสถาบัน (ศอปส.) ได้นัดหมายรวมตัวจัดกิจกรรมเพื่อแสดงจุดยืน และสังเกตการณ์การชุมนุมของเลือกข้างประชาธิปไตย และกลุ่มคณะประชาชนปลดแอก โดยกิจกรรมของกลุ่มนี้จะเริ่มประมาณ 11.00 น. ทั้งนี้แกนนำของกลุ่มคือ ระบุว่า จะเป็นการชุมนุมบนทางเท้า ไม่เคลื่อนย้ายพื้นที่ไปไหน และจะเฝ้าดูสถานการณ์ของกลุ่มคณะประชาชนปลดแอก หากมีการพูดถึงพาดพิงสถาบัน ก็จะใช้วิธีการกดดัน และยืนยันว่าจะไม่มีการปะทะ หรือสร้างความเดือดร้อนให้เจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน โดยกลุ่มนี้ได้ยกเลิกการชุมนุมไปในเวลา 15.30 น.
ส่วนกลุ่มประชาชนปลดแแอก มีคนหลั่งไหลมาร่วมชุมนุมนับหมื่นคน มีการเริ่มชุมนุมตั้งแต่ช่วงบ่าย จนเวลา 16:30 น. เริ่มตั้งเวทีปราศรัยใหญ่บริเวณเกาะกลางหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาร่วมจนเต็นถนนราชดำเนินไปจนถึงสี่แยกคอกวัว จนเจ้าหน้าที่ ต้องปิดเส้นทางถนนราชดำเนินทั้ง 2 ฝั่ง
โดยบรรยากาศบนเวทีปราศรัย มีแกนนำผลัดเปลี่ยนกันปราศรัยอย่างต่อเนื่อง เรียกร้อง 3 ข้อ คือ หยุดคุกคามประชาชน ยุบสภา และรื้อรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ทั้งกลุ่มนักเรียนเลว ที่ได้จำลองเหตุการณ์คุกคามนักเรียนภายในสถานศึกษา ทั้งการกล้อนผม ไถหัว และเฆี่ยนตี พร้อมประกาศไม่เอาเผด็จการ และเรียกร้องรัฐบาลยุบสภาฯ นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจากไอลอว์ ขึ้นปราศรัยในหัวข้อกฎหมาย โดยระบุว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ออกแบบมาเพื่อคนกลุ่มเล็กๆ ซึ่งนำมาสู่สภาวะแบบนี้ ซึ่งบางคนชอบรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่มีการกล่าวอ้างว่ามาจากประชามติ โดยคสช. ผ่านมาตรา 44 และเรียกร้องให้ประชาชนขอเข้าชื่อจำนวน 50,000 รายชื่อ ตั้ง สสร. เพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนญทั้งฉบับ เพื่อให้ประเทศมีทางออก และไม่จำเป็นต้องมีการรัฐประหาร 
จากนั้น 18.30 น. บรรยากาศการชุมนุม ยังมีประชาชน ทยอยมาสมทบในช่วงหัวค่ำกันต่อเนื่อง ขณะกลุ่มผู้ชุมนุมยิงเลเซอร์ไปยังอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย #ขีดเส้นใต้ไล่เผด็จการ พร้อมเรียกร้องสื่อ นำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา
เวลา 19.40 น. กลุ่มผู้ชุมนุม ยังคงชุมนุมอย่างหนาแน่น เต็มพื้นที่ถนนราชดำเนินทั้งสองฝั่งถนน ท่ามกลางเครือข่ายประชาชนปลดแอก ที่ขึ้นผลัดเปลี่ยนปราศรัยอย่างดุเดือด แกนนำยืนยันแจ้งการชุมนุมไว้ถึงเที่ยงคืนวันนี้ ส่วนจะปักหลักยืดเยื้อหรือไม่ ขอประเมินอีกครั้งหนึ่ง
โดยการชุมนุมครั้งนี้มี นายอานนท์ นำพา, นายภาณุพงศ์ จาดนอก และเพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ เดินทางมาร่วมชุมนุมด้วย ซึ่งทั้ง 3 คนนี้เพิ่งได้รับการประกันตัวออกมา เนื่องจากก่อนหน้านี้โดนคดี ม.116 ข้อหายุยงปลุกปั่น โดยล่าสุดทาง ตร.ได้ยื่นขอถอนประกันตัวนายอานนท์และนายภาณุพงศ์ ศาลจะนัดไต่สวนวันที่ 3 ก.ย.นี้ 
ซึ่งการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอกมีการยุติไปเมื่อเวลาประมาณ 22.40 น. โดยการชุมนุมในครั้งนี้พบปัญหา 2 ข้อ ข้อแรกคือ เรื่องสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานติดตามการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน เปิดเผยว่า ตนเองได้เข้ามาสังเกตการณ์การชุมนุมตั้งแต่ช่วงบ่าย พบว่าสถานการณ์ทั่วไปเรียบร้อยดี ไม่มีสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด แต่พอช่วงเย็นเมื่อมีผู้ชุมนุมทะยอยมาร่วมการชุมนุมมากขึ้นปรากฏว่าการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ทั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์เริ่มมีปัญหา ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะการที่มีผู้ชุมนุมมารวมกันในพื้นที่เป็นจำนวนมาก 
จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ในฐานะคณะทำงานจะรายงานให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องทุกคณะได้รับทราบ และเรียกผู้ให้บริการ กสทช. กระทรวงดีอี และผู้เกี่ยวข้อง มาสอบถามและตรวจสอบในเรื่องนี้ต่อไปว่ามีการกระทำที่ริดรอนสิทธิของผู้ใช้บริการที่มาร่วมชุมนุมหรือไม่ต่อไป
ส่วนปัญหาอีกข้อคือ เรื่องการใช้โดรนถ่ายภาพ โดย ตร.ตัดสินใจเอาเครื่องตัดสัญญาณยิงโดรน เนื่องจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นพื้นที่ที่อยู่ในพื้นที่ของการห้ามใช้โดรนบิน
ขณะที่อีกฝั่ง รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล  เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ดูความสงบเรียบร้อยร้อยในการจัดการชุมนุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยให้กำลังใจ และขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ใช้ความอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ ห้ามใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมเด็ดขาด 
โดยให้เข้าใจว่าความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติของการเมือง จึงต้องเปิดโอกาสให้เยาวชน คนหนุ่มสาวได้แสดงออกอย่างเต็มที่ แต่ต้องไม่เกินเลยกรอบของกฎหมาย และไม่กระทบต่อสิทธิของผู้อื่น
น.ส.ไตรศุลี กล่าวด้วยว่าว่า พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับบทบาทของคนรุ่นใหม่ จึงมีนโยบายให้ส่งเสริมกระบวนการสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน ลดช่องว่างทางความคิดระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ เสริมสร้างความรักและความสามัคคีในการที่จะช่วยกันขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศไปข้างหน้าด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน คนไทยทุกๆ รุ่นต้องร่วมกันสร้างชาติไทยไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบนโยบายให้คณะรัฐมนตรีไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/1s0i2NpHQV8

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ