เปิดใจหนุ่มตายแล้วฟื้น หมอชี้เพลียหนัก-หลับลึก แม่เตรียมให้บวชหลังได้ชีวิตใหม่

กาญจนบุรี-นายรเมศ จันทะโก อายุ 20 ปี ที่ถูกญาติมาพบเสียชีวิตในห้องน้ำภายในบ้าน ลักษณะนั่งพิงอยู่กับกำแพงห้องน้ำ ซึ่งแพทย์ทำการชันสูตรไม่พบชีพจร ขณะที่กู้ภัยกำลังห่อศพ ปรากฎว่าผู้เสียชีวิตกลับลืมตาฟื้นคืนชีพขึ้นมา ท่ามกลางความตกใจ ของทั้งแพทย์ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ก่อนจะช่วยกันนำตัวนายรเมศส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาอย่างเร่งด่วน

โดยนายรเมศ เปิดเผยว่า ตนได้มาเข้าห้องน้ำแต่ถ่ายไม่ออก นั่งอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง จนรู้สึกเหนื่อย หายใจไม่ออก และลุกไม่ขึ้น จากนั้นก็หมดสติไป มารู้สึกตัวอีกที ตัวเองก็อยู่ในห่อผ้าแล้ว ช่วงที่หมดสติไม่ได้ฝันหรือเห็นสิ่งใด ที่ผ่านมาไม่เคยมีอาการวูบแบบนี้มาก่อน อาจจะมีเหนื่อยล้าจนลืมตาไม่ขึ้นบ้าง แต่ครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุด และรู้สึกโชคดีมากที่ได้ฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ขณะที่แม่ของนายรเมศ เล่าว่า วันเกิดเหตุญาติได้โทรมาแจ้งให้ตนทราบว่าลูกชายของตนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ เมื่อทราบข่าวตนจึงรีบขับรถจากอำเภอสังขละบุรี เพื่อจะมาให้ทันได้กอดลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะนำศพส่งโรงพยาบาล ขณะกำลังขับรถมุ่งหน้ามายังตัวเมืองกาญจนบุรี ท่ามกลางฝนที่ตกหนัก ต้นได้ตั้งจิตอธิษฐานกับพ่อปู่เขาใหญ่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ให้ช่วยเหลือลูกของตนด้วย

จากนั้น ป้าก็โทรกลับมาบอกว่าลูกชายของตนได้ฟื้นคืนชีพกลับมา ทำให้ตนรู้สึกตกใจและงุนงงเป็นอย่างมาก ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่ในใจลึกๆ ก็รู้สึกดีใจอย่างมาก ตนจึงพยายามขอที่จะพูดคุยกับลูก แต่ยังไม่สามารถทำได้เนื่องจากลูกอยู่ในการดูแลของแพทย์

สำหรับนายรเมศนั้น มีอาการป่วยด้วยโรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วตั้งแต่เกิด และได้ทำการผ่าตัดรักษาเมื่อตอนอายุ 5 ขวบ ทำให้มีสุขภาพร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง ประกอบกับช่วงก่อนเกิดเหตุ นายรเมศพักผ่อนน้อย เพราะว่าใช้เวลาในการเล่นเกมและทำคอนเทนต์ยูทูป ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

จากนี้เตรียมที่จะพาลูกไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลพระมงกุฏอีกครั้ง และจะให้ลูกบวชให้ได้ 1 พรรษา เพราะลูกก็มีอายุถึงเกณฑ์บวชแล้ว จึงอยากให้ลูกได้บวชให้สมกับที่ได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง

ด้านนายแพทย์สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติ ผอ.โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ความจริงแล้ว นายรเมศ ไม่ได้ตายแล้วฟื้น แต่แพทย์ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นแพทย์จบใหม่ ยังขาดประสบการณ์ ไม่ได้ตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียด ทำเพียงตรวจชีพจรเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้ทำการตรวจสอบรูม่านตา ส่วนสาเหตุที่มีลักษณะคล้ายกับคนเสียชีวิตอยู่หลายชั่วโมง น่าจะมาจากอาการหลับลึก สาเหตุมาจากการที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ประกอบกับนายรเมศ เคยมีประวัติผ่าตัดบายพาสหัวใจ ร่างกายจึงไม่แข็งแรง

ซึ่งความผิดพลาดของแพทย์ในครั้งนี้ ทางโรงพยาบาลขอน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และขอโทษที่ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งต่อจากนี้ จะได้มีการเน้นย้ำแพทย์ผู้ปฏิบัติงานให้มีการตรวจสอบ ให้ละเอียดมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำ และทำให้สังคมเข้าใจผิดเหมือนเช่นกรณีที่เกิดขึ้นนี้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/uGEgRRYfM0s