สังคม

หมอแจง กรณีหนุ่มตายแล้วฟื้นในห้องน้ำ ยอมรับผิดพลาดตรวจไม่ละเอียด

โดย

14 ส.ค. 2563

3.2K views

กาญจนบุรี-มีเรื่องแปลก เมื่อหนุ่มวัย 20 ปี เสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำ แพทย์ทำการชันสูตรไม่พบชีพจร กู้ภัยกำลังห่อศพ ปรากฎว่าต้องตะลึง เพราะผู้เสียชีวิตกลับลืมตาฟื้นคืนชีพขึ้นมา ล่าสุด หมอออกมาขอโทษ ระบุว่าเป็นการตรวจที่ผิดพลาด
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 63 เวลาประมาณ 1 ทุ่ม พันตรำวจโทอาคม โฉมศรี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุมีคนหมดสติอยู่ในห้องน้ำ ภายในบ้านหลังหนึ่ง ต.ท่ามะขาม อ.เมือง กาญจนบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ และแพทย์เวรโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เดินทางเข้าตรวจสอบ 
พบร่างของนายรเมศ จันทะโก อายุ 20 ปี นั่งอยู่บนโถชักโครก สภาพไม่สวมเสื้อ กางเกงถูกถอดลงไปอยู่ที่ปลายเท้า ศีรษะพิงยู่กับกำแพงห้องน้ำ กู้ภัยทำการตรวจสอบชีพจรเบื้องต้น ไม่พบชีพจร และเมื่อแพทย์ทำการชันสูตร ก็ไม่พบชีพจรและไม่พบบาดแผลตามร่างกาย จึงให้เจ้าหน้าที่ส่งร่างไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด
แต่ในระหว่างที่กู้ภัยกำลังใช้ผ้าห่อร่างของนายรเมศ ทางพันตำรวจโทอาคม สังเกตเห็นว่านายรเมศได้ลืมตาขึ้นและเริ่มกลับมาหายใจ จึงแจ้งแพทย์ทำการตรวจสอบอีกครั้ง และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน 
ขณะที่ความคืบหน้า วานนี้ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านเกิดเหตุ พบว่านายรเมศออกจากโรงพยาบาลแล้ว โดยได้เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุช่วงประมาณบ่ายโมง ได้มาเข้าห้องน้ำแต่ถ่ายไม่ออก จึงนั่งอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง จากนั้นรู้สึกเหนื่อย ลุกไม่ขึ้น เลยนั่งพิงกำแพงสักพัก จากนั้นก็หมดสติไป จำอะไรไม่ได้ มารู้สึกตัวอีกที ก็ได้ยินเสียงคนเยอะแยะ แต่ไม่สามารถขยับหรือส่งเสียงร้องได้ ตอนนั้นพอลืมตาขึ้นมาได้ตัวเองก็อยู่ในห่อผ้าแล้ว 
ทั้งนี้ยอมรับว่า ตนเองร่างกายไม่แข็งแรง ป่วยด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว เคยผ่าตัดมาแล้ว ที่ผ่านมาก็มีเหนื่อย ลืมตาไม่ขึ้นบ้าง แต่ไม่เคยเป็นแบบนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองก็รู้สึกงงๆ และตนได้คุยกับแม่ไว้ว่าอาจจะบวชในปีหน้า
ซึ่งทางนายแพทย์สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบและสอบถามแพทย์ที่เป็นผู้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ทำให้ทราบว่า แท้จริงแล้ว นายรเมศ ไม่ได้ตายแล้วฟื้นอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการที่แพทย์ ไม่ได้ทำการตรวจสอบร่างกายของนายรเมศอย่างละเอียด 
เนื่องจากในวันเกิดเหตุ ทางโรงพยาบาลได้รับแจ้งจากทางตำรวจและมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ว่ามีผู้พบศพชายวัย 20 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ ของบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ตำบลท่ามะขาม เมื่อเดินทางไปตรวจสอบ ก็พบกับญาติของนายรเมศ ซึ่งเคยทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนามาก่อน ให้ข้อมูลกับแพทย์ที่ลงพื้นที่ว่า ได้ตรวจชีพจรแล้วแต่ไม่พบทีชีพจรของนายรเมศ ประกอบกับทางแพทย์ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นแพทย์จบใหม่ ยังขาดประสบการณ์ จึงไม่ได้ทำการตรวจสอบรูม่านตา และตรวจสอบชีพจรอย่างละเอียด มีเพียงการถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานและตรวจวัดชีพจรเบื้องต้นเท่านั้น 
โดยสาเหตุที่นายรเมศมีลักษณะคล้ายกับคนเสียชีวิตนอนหมดสติแน่นิ่งอยู่หลายชั่วโมงนั้น น่าจะมาจากอาการหลับลึก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายของนายรเมศไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ประกอบกับ นายรเมศ เคยมีประวัติการผ่าตัดบายพาสหัวใจทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อรวมเข้ากับการที่นายรเมศทำงานจนดึกและไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการหลับลึกได้ 
ซึ่งความผิดพลาดของแพทย์ในครั้งนี้ ทางโรงพยาบาล ขอน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และขอโทษที่ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งต่อจากนี้ จะได้มีการเน้นย้ำแพทย์ผู้ปฏิบัติงานให้มีการตรวจสอบ ให้ละเอียดมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำ และทำให้สังคมเข้าใจผิดเหมือนเช่นกรณีที่เกิดขึ้นนี้
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/K1UVXDviarU

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ