สังคม

พ่อแม่คาใจลูกตาย ซ้ำถูกสลับศพไปเผา ร้องทนายอัจฉริยะ รพ.จ่อแถลงช่วงบ่ายวันนี้

โดย

3 ส.ค. 2563

1.8K views

จากกรณีพ่อแม่คาใจ ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร แล้วลูกคลอดออกมาเสียชีวิต ทั้ง ๆ ที่อายุครรภ์ 9 เดือน ฟังหัวใจลูกเต้นปกติ ลูกแข็งแรง แต่เมื่อปวดท้องจะคลอด พยาบาลไม่ให้เบ่ง ให้กินยาแก้ปวดแล้วฉีดยาให้ง่วง สุดท้ายลูกคลอดออกมาไม่มีลมหายใจ
พ่อแม่จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อจะนำศพลูกส่งชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริง หลังก่อนหน้าโรงพยาบาลส่งศพไปผ่าพิสูจน์แต่ยังไม่ทราบผล แต่ต่อมาเมื่อไปรับศพลูกจะนำร่างไปชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ กลับได้คำตอบที่ทำให้เจ็บปวดซ้ำ ศพลูกถูกสลับตัวไปทำพิธีเผาแล้ว
วานนี้ (2 ส.ค.) เวลา 10.00 น. น.ส.กฤษณา ขวัญศรี อายุ 23 ปี และนายอณวัฒต์ เปี่ยมศิริ อายุ 27 ปี แม่และพ่อของทารกที่เสียชีวิตหลังคลอด ได้มารับเถ้ากระดูก ที่เมรุวัดศรีวิชัยวัฒนาราม อ.เมืองชัยนาท ขณะที่ยังแคลงใจสงสัยกับสาเหตุของการเสียชีวิต และการสลับศพ ทำให้รู้สึกทำใจไม่ได้ เหมือนตายทั้งเป็น โดยได้นิมนต์พระทำพิธีเชิญวิญญาณกลับบ้าน แล้วจะนำเถ้ากระดูกไปทำพิธีฝัง และจะนำชิ้นส่วนส่งพิสูจน์ดีเอ็นเอ
ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า แม่ข้องใจสลับตัวได้ยังไง ข้อมือของลูกก็มีชื่อแม่ติดอยู่ว่าเป็นลูกของใคร ตอนนี้สับสนกันไปหมดแล้ว เรื่องมันเกิดอะไรขึ้น ที่แม่คลอดลูกมาเสียชีวิตเรื่องยังไม่จบเลย แล้วยังมาเอาลูกไปเผาอีก รับไม่ได้  
ด้าน สัปเหร่อวัดศรีวิชัยวัฒนาราม ผู้ทำการเผาร่างเด็กทารก เล่าว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 9 โมงเช้า มีเจ้าหน้าที่จากห้องเก็บศพของโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร โทรมาหาบอกว่าประมาณ 11 โมงเช้า จะมีศพมาให้เผา แล้วเขาเอาเบอร์ผมให้หมอ โทรมาหาผมบอกว่าให้มาเผาศพให้หน่อย เขาบอกว่าเป็นศพเด็กประมาณ 3 ขวบ 
เมื่อถึงเวลาเขาก็นำศพมา โดยมีพ่อของเด็กมาด้วย ผมขอเอกสารบัตรประชาชนให้เขาถ่ายเอกสารมาให้และยืนยันว่ายินยอมให้เผา คนที่มานอกจากพ่อเด็กแล้วยังมีคนท่าทางเหมือนหมอ 4 คน และมีท่าทางเหมือนหมอใหญ่ 1 คน แต่แต่งตัวธรรมดาลักษณะเหมือนหมอ แต่พ่อของเด็กมาคนเดียว แม่ไม่มา ไม่มีญาติคนอื่น ๆ ที่มาทั้งหมดรวม 5-6 คน เด็กถูกห่อผ้าใส่โลงมา คนเป็นพ่อเขาก็ร้องห่มร้องไห้
ผมถามว่าจะเอากระดูกไหม แต่ไม่มีกระดูกนะมีแต่ขี้เถ้า พ่อเด็กบอกว่าไม่เอา แต่มีคนโทรมาจากห้องเก็บศพโรงพยาบาลให้เก็บเถ้ากระดูกไว้จะมีคนไปรับ ผมก็มาเปิดเมรุเก็บรวบรวมให้ คนที่เอาศพเด็กมาให้เผาไม่มีมาสักคน มีแต่ชุดนี้มารับเถ้ากระดูกไป โดยพิธีได้ทำเหมือนกับศพคนโต แต่ไม่ได้รดน้ำศพ เขาห่อผ้าไว้มองไม่เห็นร่างเด็ก แต่ดูไม่ใช่เด็กแรกเกิด เวลาเขี่ยตอนเผายังเห็นกระดูก ถ้าเป็นทารกจะไม่เหลือกระดูกเลย
นายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 37 ปี พ่อของเด็กอีกคนที่สลับตัวกัน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ภรรยามีอาการน้ำเดินผิดปกติจึงพาไปโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ช่วงเช้า และตอนเย็นหมอให้ไปนอนที่ห้องคลอด ต่อมาวันที่ 28 ก.ค. อาการไม่ดีมีเลือดไหลจึงให้หมอผ่าคลอด ผมได้เซ็นใบอนุญาตให้ผ่า และได้ผ่าตัวเล็กออกตอนกลางคืน
หมอบอกว่าแฟนเสียเลือดมาก ต้องส่งเข้าห้อง ICU ด่วน แม่ยายบอกว่าอย่าไปมองหน้าลูกเดี๋ยวจะทำใจไม่ได้ เพราะผ่าคลอดออกมาช่วยฟื้นคืนชีพไม่นานก็เสียชีวิต มารู้ตอนหลังว่าเป็นลูกสาว ตรงนี้ไม่ติดใจการเสียชีวิตเพราะลูกไม่ครบกำหนด เพิ่งได้ 7 เดือน
จนเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ได้กำหนดแฟนจะกลับบ้านตอนเที่ยง จึงติดต่อหมอเพื่อรับเด็กไปทำพิธีเผา หมอนัด 10.30 น. ให้ไปรับลูกที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาล พนักงานให้ผมเซ็นชื่อรับศพ แล้วเขาก็อุ้มเด็กมาใส่โลงให้ ผมจึงขอดูหน้าลูกหน่อยนะ เขาเปิดให้ดู แล้วก็ปิด แล้วนำไปเผา 11.00 น. ตอนนั้นเขาบอกว่าเป็นลูกของเราจึงไม่ได้คิดอะไร ไม่รู้ว่าจะมีการสลับลูกกันแบบนี้ มารู้ตอนเย็นหมอเรียกไปคุยแล้วให้ยืนยันว่าเผาลูกจริง ตอนนี้ลูกผมยังอยู่ในห้องเก็บศพของโรงพยาบาล รอให้เรื่องซาแล้วจะไปรับลูกมาทำพิธีเผา
ตอนนี้อึดอัดใจมาก ทุกคนมองผมว่าเอาลูกเขาไปเผาทำไม เรื่องนี้ผมไม่รู้เรื่องเลย เพราะทางโรงพยาบาลเขาจัดการให้ ถ้าผมรู้ผมไม่ทำ ผมจะทำไปทำไม ตอนนี้ผมเครียดมาก ทำไมโรงพยาบาลทำแบบนี้ ตอนเก็บต้องมีป้ายชื่อ ลูกใคร ชื่ออะไร ติดที่หน้าตู้เก็บ แต่นี่เขาหยิบมาให้ผมแบบนี้ ตอนนี้ตกหนักที่ผม ผมถูกกล่าวหาอย่างนั้นอย่างนี้ เครียด และทางโรงพยาบาลเองก็ไม่มีคำอธิบายอะไรให้สบายใจเลย
ล่าสุด วันนี้ (3 ส.ค.) พ่อแม่เด็กทารกที่เสียชีวิตหลังคลอด ได้ร้องทุกข์ไปยัง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โดยจะเดินทางไปพบทนายอัจฉริยะ ที่กรุงเทพฯ ในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.63) เพื่อให้ช่วยดำเนินการเดินเรื่องเกี่ยวกับคดีทั้งหมดให้ ขณะที่ยังไม่ได้รับคำชี้แจงที่ชัดเจนจากโรงพยาบาลแต่อย่างใด
โดยทางโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ได้เชิญสื่อมวลชน และญาติผู้เสียหาย รับฟังการแถลงข้อมูล พร้อมแสดงความเสียใจ และแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในวันนี้ (3 ส.ค.63) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมบุษราคัม ชั้น 6 อาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/voWl9sPxQeE

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ