สรุปข่าว

ประเด็นข่าวรอบวัน 31 ก.ค. 63 - กมธ.แก้ รธน. เสนอแก้ ม. 256/ ยอดลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน พุ่งกว่า 4 ล้านราย

โดย

31 ก.ค. 2563

1.3K views

- นายกฯ สั่งคุมเข้ม จับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบกลับไทย 
นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการในที่ประชุม ให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้มงวดในการป้องกันแรงงานต่างด้าว ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกองกำลังชายแดน ดำเนินการเชิงรุกในการสกัดกั้น เฝ้าตรวจและกวาดล้างปราบปราม โดยเฉพาะการหลบหนีผ่านเข้าช่องทางธรรมชาติ ทั้งทางบกและทางน้ำ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในระบบสาธารณสุข และเศรษฐกิจ ให้ใช้กลไกความร่วมมือคณะกรรมการชายแดน ในการควบคุมการแพร่ระบาด ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่ไม่ได้ผ่านการคัดกรองตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
- กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญฯ เสนอแก้ ม.256 
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า คืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 90 และตั้งใจจะประชุมให้แล้วเสร็จภายใน 19 สิงหาคมนี้ ก่อนสรุปเนื้อหาทั้งหมด เพื่อเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
พร้อมย้ำว่า ได้นำข้อเสนอจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน นักเรียน นักศึกษา มาพิจารณา ส่วนเมื่อขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎรเสร็จแล้ว ก็จะเป็นการพิจารณาของรัฐบาล ว่าจะแก้ไขอย่างไรหรือไม่ต่อไป แต่ขณะนี้ นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ มายังกรรมาธิการฯ
- 3 ผู้ก่อเหตุยิงกลางเมืองพัทลุงติดต่อขอมอบตัวแล้ว 
 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทลุง ได้มีการออกหมายจับ 3 คนร้ายแล้ว ประกอบด้วย  1 นายวีรยุทธ หอยทรัพย์ / 2.นายศรชัย ทับครุฑ /  3. นายภูวเนศวร์ ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกับพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธปืน ร่วมกันซ่อนเร้นเคลื่อนย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการเกิดเหตุแห่งการตาย 
ล่าสุด 3  ผู้ก่อเหตุได้มีการติอต่อขอเข้ามอบตัวที่ สภ.พัทลุงแล้ว หลังถูกดดันอย่างหนัก 
- ตร.จับข่าวปลอมอ้างพืชกระท่องรักษาโควิด-19 ได้ 
ตำรวจแถลงจับกุมผู้โพสต์ข่าวปลอมได้อีก 12 ราย ที่โพสต์ข้อความอ้างมีสมุนไพร และพืชกระท่อมรักษาโรคโควิด-19 ได้ จนมีผู้นำไปแชร์ต่อเป็นจำนวนมากพลตำรวจตรีพันธนะ นุชนารถ ในฐานะหัวหน้าเพื่อประสานความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส.ตร. แถลงผลการตรวจค้นดำเนินคดีผู้ต้องหาที่โพสต์ข่าวปลอมจำนวน 12 ราย ที่โพสต์ข้อความในช่วงระหว่างวันที่ 13 กรกฎาคมถึงปัจจุบัน
โดยมีข้อความอ้างถึงยาสมุนไพรช่วยรักษาโรคโควิด-19 ได้ และพืชกระท่อมช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ซึ่งฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวกับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว พบว่าไม่เป็นความจริง
เบื้องต้นฝ่ายสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาส่งไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ ในหลายจังหวัด เช่น กรุงเทพฯ , ปทุมธานี , นครปฐม , นครราชสีมา , สกลนคร , ฉะเชิงเทรา , นราธิวาส , นครศรีธรรมราช , สงขลา ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ต้องหา และรับปากว่าจะลบข้อความดังกล่าวทันทีทั้งนี้ 
- คืบหน้าลูกช้างป่าห้วยขาแข้งที่รอแม่มารับ 
ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12  เผยคืบหน้า กรณีลูกช้างป่า อายุ 6 เดือนหลงกับแม่ช้างมานานเกือบ 50 วัน ที่ป่าห้วยขาแข้ง จ. อุทัยธานี ล่าสุดมีโขลงแม่ช้าง 18 ตัว เริ่มเข้ามาใกล้บริเวณคอกลูกช้างป่าตัวดังกล่าวแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เชื่อว่าเแม่ช้างจะวนมารับลูกแต่ต้องใช้เวลา แต่หากภายใน 1- 2 สัปดาห์นี้หากลูกช้างยังไม่กลับโขลง เจ้าหน้าที่เตรียมหาแม่เลี้ยงให้ 
- "นกแอร์" ยื่นล้มละลายขอฟื้นฟูกิจการ 
 ประธานคณะกรรมการบริษัท สายการบินนกแอร์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดวาระพิเศษ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ในฐานะลูกหนี้ ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการและให้เสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ต่อศาลล้มละลายกลาง ภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 โดยบริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องดังกล่าว ต่อศาลล้มละลายกลางในวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว โดยนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 27 ต.ค.2563 
- คืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน 
ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สสค. เปิดเผยถึงคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ล่าสุดมีผู้ชลงทะเบียนผ่าน เว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com แล้ว 4.67 ล้านคน  มียอดคนลงทะเบียนสำเร็จแล้วกว่า 4.43 ล้านคน ส่วนที่เหลืออีก 2.4 แสนรายสามรถลงทะเบียนใหม่ได้ 
- กูเกิ้ล-เฟซบุ๊ก ถูกเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ข่าวในออสเตรเลีย
นายจอร์ช ฟราเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังออสเตรเลียแถลงในวันนี้ว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะให้เวลากูเกิ้ลและเฟสบุ๊ก 3 เดือน เพื่อเจรจากับบรรดาธุรกิจสื่อออสเตรเลีย เรื่องการจ่ายค่าลิขสิทธิ์เนื้อหาข่าว ซึ่งกูเกิ้ลและเฟสบุ๊กจะเป็นดิจิตอล แพลตฟอร์มแรกที่ออสเตรเลียจะดำเนินการทางกฏหมาย ขณะที่ดิจิตอล แพลตฟอร์มอื่นจะเป็นรายต่อไป
ฟราเดนเบิร์ก ย้ำว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่เพียงแต่คุ้มครองธุรกิจสื่อออสเตรเลีย ที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นและดิจิตอล ดิสรัปชั่นเท่านั้น แต่สื่อออสเตรเลียจะได้ค่าตอบแทนที่ยุติธรรมสำหรับเนื้อหาต้นฉบับของตนด้วย
จนถึงขณะนี้เฟสบุ๊กและกูเกิ้ลยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ ในเรื่องนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ