อาชญากรรม

#บอสอยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง หลุดคดีซิ่งชนตำรวจดับ อัยการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา

โดย

24 ก.ค. 2563

16.3K views

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงอัยการสั่งไม่ฟ้องบอส กระทิงแดงขับรถชนตำรวจ ระบุบอสสามารถเข้าประเทศได้หลังถอนหมายจับแล้ว
พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงชี้แจงกรณีที่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทกระทิงแดงในทุกข้อกล่าวหา โดยที่คณะกรรมการตำรวจไม่คัดค้านความเห็นของอัยการ และดำเนินการเพิกถอนหมายจับนายวรยุทธ ว่าที่ผ่านมาตำรวจและพนักงานอัยการมีการสอบเพิ่มเติมมาตลอด จนกระทั่งล่าสุดอัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง เมื่อคณะกรรมการตำรวจพิจารณากับฝ่ายกฎหมายแล้ว ก็เห็นพ้องตามอัยการสั่งไม่ฟ้องด้วย ส่วนเหตุผลไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามกฎหมาย ถอนหมายจับนายวรยุทธในไทย และให้ตำรวจกองการต่างประเทศ ประสานตำรวจสากลถอนหมายจับอินเตอร์โพลด้วย ให้เสมือนเป็นผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง ทำให้นายวรยุทธ สามารถกลับเข้าประเทศได้ตามปกติ แต่น่าจะต้องใช้เวลาซักระยะ
นอกจากนี้ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังยืนยันอีกว่าคดีนี้เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปกติ มีหลายคดีที่ตำรวจมีความเห็นแย้ง ซึ่งยึดตามพยานหลักฐาน ไม่ใช่เรื่องสองมาตรการใด ๆ โดยที่ผ่านมาพนักงานอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติมในหลายประเด็น และพนักงานสอบสวนก็ส่งความเห็นเพิ่มเติมไปหลายครั้ง จนถึงที่สุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พนักงานอัยการก็มีความเห็นเป็นเด็ดขาดออกมา ซึ่งไม่มีใครจะสามารถก้าวล่วงได้ ยืนยันว่าการเห็นแย้งหรือไม่แย้งต้องอยู่ที่พยานหลักฐาน ไม่ได้ทำตามกระแสสังคมส่วนประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่ามีการเข้าข้างทำสำนวนนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็เปิดโอกาสให้ตรวจสอบมาโดยตลอด การสั่งไม่ฟ้องข้อหาใด ก็มีเหตุผลความจำเป็นและพยานหลักฐานสนับสนุนอยู่แล้ว และก็มีการดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องซึ่งบกพร่องในการทำสำนวนคดีนี้ในอดีตไปแล้ว และสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เสียใจกับความสูญเสีย ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ตำรวจก็อยากจะจับกุมให้ได้และดำเนินคดี แต่คดีเป็นเรื่องของการรวบรวมพยานหลักฐาน
เมื่อถามถึงกรณีที่ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ ผู้เสียชีวิต กลับมีชื่อเป็นผู้ต้องหาที่ 2 ด้วย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบเอกสารแล้วพบว่า เดิมตั้งแต่ปี 2555 ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจที่เสียชีวิตในข้อหาขับขี่รถโดยประมาท จึงมีชื่อเป็นผู้ต้องหาร่วม แต่เนื่องจากตำรวจเสียชีวิต ทำให้คดีส่วนนี้ระงับไปแล้ว ไม่ใช่การฟ้องร้องเรื่องใหม่ แต่เป็นชื่อที่ติดอยู่ในสำนวนแต่เดิม เพราะโดยปกติกรณีรถชนกัน เมื่อยังตัดสินไม่ได้ว่าใครผิดใครถูก ตำรวจก็จะแจ้งข้อหาทั้ง 2 ฝ่ายไว้ก่อน จนกว่าจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสั่งฟ้อง ซึ่งพยานหลักฐานนี้จะเป็นตัวบ่งบอกว่าจะฟ้องฝ่ายใด แต่เป็นที่น่าสงสัยว่าตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา สื่อมวลชนกลับไม่เคยทราบเรื่องดังกล่าว เป็นเพราะว่าข้อมูลไม่ถูกเปิดเผย หรือสื่อมวลชนเข้าไม่ถึงข้อมูล

ส่วนกรณีที่สังคมมองว่าคุกมีไว้ขังคนจนเท่านั้น รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอร้องว่าสังคมอย่าสร้างวลีเช่นนั้น ตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ ก่อนที่พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ย้ำว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตำรวจก็สูญเสีย ไม่ใช่มองแต่ว่าเป็นเรื่องของคนรวยคนมีเส้นมีสาย ถ้ามีพยานหลักฐานใหม่ก็สามารถที่จะกลับมาฟ้องใหม่ได้สำหรับคดีนี้นายวรยุทธถูกระบุว่า อยู่ในรถเฟอร์รารีคันที่พุ่งชนดาบตำรวจวิเชียร ที่ปฏิบัติหน้าที่บนรถจักรยานยนต์ บริเวณถนนสุขุมวิท จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 และแต่เดิมนายวรยุทธถูกแจ้งข้อหาทั้งหมด 5 ข้อหา 1.ข้อหาเมาแล้วขับ ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง  2.ขับรถเร็วเกิน หมดอายุความไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556  3.ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย หมดอายุความไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556  4.ชนแล้วหนี หมดอายุความไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2560  และ 5.ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีกำหนดจะหมดอายุความในวันที่ 3 กันยายน 2570 หรืออีกประมาณ 7 ปี แต่สุดท้าย อัยการกลับไม่ฟ้องในข้อหานี้เช่นกัน




สามารถรับชมทางยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/1Cs7sNorWqk

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ