สังคม

เปิดใจทีมแพทย์ในเหตุการณ์วัยรุ่นบุกห้องฉุกเฉิน รับ "เสียขวัญ แต่ไม่เสียกำลังใจ"

โดย

21 ก.ค. 2563

2.8K views

กรณีแก๊งวัยรุ่นที่สมุทรปราการ ยกพวกตีกันในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล และทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์ วันนี้ผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวเพิ่มอีก 4 รวมเป็น 15 คนตำรวจคุมตัวฝากขัง พร้อมคัดค้านประกันตัว โดยหนึ่งในผู้ต้องหา รับสารภาพ ชนวน เหตุเริ่มจากเข้าไปส่งยาบ้า แต่ระหว่างทางเจอแก๊งเจ้าถิ่น บานปลายจนถึงขั้นมีคนเจ็บและเสียชีวิต ส่วนแพทย์-พยาบาล ขอให้โรงพยาบาลเป็นที่ปลอดภัยของทุกคน 
วงจรปิดห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า บันทึกเหตุการณ์ขณะแก๊งอริคู่แค้น เปิดศึกฟาดฟันใส่กันแบบไม่ยั้ง บานปลายจนผู้ป่วยบนเตียงซึ่งไม่เกี่ยวข้อง ต้องค่อย ๆ ขยับถอยห่างหาที่หลบ 
แม้แต่พยาบาลที่พยายามห้ามปราม ก็เกือบโดนไปด้วย ทรัพย์สินในห้องพังเสียหาย ยังดีที่อุปกรณ์การแพทย์ชิ้นสำคัญ เช่น เครื่องปั๊มหัวใจ เครื่องวัดชีพจร ยังใช้การได้ 
พยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า กลุ่มวัยรุ่นมาจากทุกทิศทาง ไม่สนว่าใครจะเป็นหรือตาย จุดมุ่งหมายเดียวก็คือ ต้องล้างแค้นและเอาคืนให้ได้ ยอมรับว่าเสียขวัญ แต่ไม่เสียกำลังใจ 
นายแพทย์รังษี ธีระศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาล เปิดใจกับข่าว 3 มิติ ยอมรับว่าบุคลากรเสียขวัญ แต่ไม่เสียกำลังใจ และอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าโรงพยาบาล ควรเป็นที่ที่ปลอดภัยของทุกคน 
ส่วนแก๊งวัยรุ่น วันนี้เข้ามอบตัวเพิ่มอีก 4 รวม เป็น 15 พนักงานสอบสวนสภ.สำโรงใต้ คุมตัวไปฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมคัดค้านประกันตัว 
ในจำนวนนี้มี 13 คน ถูกแจ้ง 2 ข้อหา คือ บุกรุกสถานพยาบาลในเวลากลางคืน และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น อันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ
ส่วนนายแฮ็ก แก๊งมหาวงษ์คนต้นเรื่อง ซึ่งรับสารภาพ อ้างว่าชนวนเหตุเริ่มจากไปส่งยาบ้าข้ามเขต แต่ระหว่างทางเจอเจ้าถิ่นซอยโรงเหล็ก จึงมีปากเสียงบานปลายตามไปเอาเรื่องกันถึงโรงพยาบาล ล่าสุด ตำรวจแจ้งเพิ่มอีก 1 ข้อหา มียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย รวมเป็น 3 ข้อหา 
ในขณะที่พ่อและแม่ของนายคิวผู้เสียชีวิต วันนี้นิมนต์พระไปเชิญวิญญาณ ระหว่างนั้นได้เจอกับแม่ของวัยรุ่นคู่อริ 
เหตุการณ์ลักษณะนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก เป็นอีกครั้งที่สถานพยาบาล กลายเป็นสมรภูมิความรุนแรง ถือเป็นบทเรียนที่หลายฝ่าย อยากให้ทบทวนบทลงโทษ และกำหนดมาตรการความปลอดภัยให้รัดกุมมากขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ