อุทาหรณ์ ด.ญ. 9 ขวบ นั่งท้ายกระบะถูกเชือกเอ็นปริศนาพันคอจนตาเหลือก หวิดขาดอากาศดับสลด

บุรีรัมย์ - แม่เด็กหญิงวัย 9 ขวบนำภาพลูกสาวของตัวเองมาโพสต์ผ่านเฟชบุ๊ก ว่าลูกสาวเกือบเอาชีวิตไม่รอด หลังถูกเชือกเอ็นปริศนาพันคอระหว่างนั่งท้ายระกระบะ จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

จากการตรวจสอบ พบนายประกอบ พวงพันธ์ อายุ 28 ปี อาของเด็ก 9 ขวบ เล่าว่า เมื่อเวลา 13.00 น ตนขับรถกระบะ จะกลับบ้าน โดยมีหลานกับแม่หลาน นั่งท้ายกระบะมาด้วย เมื่อขับผ่านในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นถนนเส้นนี้ซึ่งเป็นทางลัดไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุก่อนถึงประตูวัด ประมาณ 200 เมตร ได้ยินเสียงกรีดร้องอยู่ท้ายกระบะ จึงจอดรถลงมาดู

พบว่า หลานสาว อายุ 9 ขวบ ตาเหลือกเหมือนขาดอากาศหายใจ ตนแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อสังเกต เห็นสายอะไรบางอย่างพันคอหลานจนแทบหายใจไม่ออก จึงใช้ฟันกัดเชือกที่โยงจากบนต้นไม้ให้ขาด และพบเชือกเอ็นพันรอบคอถึง 3 รอบ มีเลือดซึมออก

ด้านนายบุญช่วย ชาวนา อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.จระเข้มาก อ.ประโคนชัย เล่าว่า เมื่อเดือนที่แล้วมีประเพณีทำบุญหมู่บ้าน ต้องมีสายสิจญจน์ล้อมรอบหมู่บ้าน

แต่เป็นช่วงโควิด-19 ไปหาซื้อด้ายสายสิญจน์ไม่มี จึงใช้เชือกไนล่อนเส้นเล็กสีขาวมาผูกบนต้นไม้ล้อมรอบหมู่บ้านแทน เมื่อเสร็จงานก็ไม่ได้เก็บ เพราะถ้าเป็นสายสิญจน์ด้ายจะเปื่อยไปเอง ส่วนเหตุการณ์นี้ที่เชือกไนล่อนมาพันคอเด็ก คาดว่าเชือกขาดและห้อยลงมาจากต้นไม้ เมื่อลมพัดทำให้เชือกพันกัน ประจวบกับเด็กหญิงผ่านมาพอดีจึงคล้องคอเด็กดังกล่าว

เบื้องต้น ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่หมู่บ้านช่วยกันเก็บเชือกแล้ว และต่อไปจะไม่ใช้เชือกอีกรวมทั้งฝากเตือนหมู่บ้านอื่นๆ อย่าทำแบบนี้

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/dXEkBp22OyU