สรุปข่าว

ประเด็นข่าวรอบวัน 25 มิ.ย.63 - เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาคดีหวย 30 ล้าน / กลุ่มผู้เสียหายร้อง ถูกหลอกขายมือถือราคาถูก สูญเงินกว่า 16 ล้าน

โดย

25 มิ.ย. 2563

820 views

- เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาคดีหวย 30 ล้าน
ดีหวย 30 ล้านบาท วันนี้มีการนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ลุงจรูญและทนายตั้ม มาศาลแต่เช้า ยิ้มมั่นใจเชื่อคดียืนตามศาลชั้นต้น
โดยศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 วันนี้เวลา 09.00 น. คดีที่ครูปรีชา ใคร่ครวญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์รับของโจร ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า ครูปรีชา ไม่ใช่เจ้าของลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล 
ซึ่งนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมด้วยร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล และภรรยา เดินทางมาถึงศาลตั้งแต่เช้าตรู่ ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า คำพิพากษาวันนี้คาดว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากศาลชั้นต้น เนื่องจากทางฝ่ายของตนได้มีพยานหลักฐาน พยานบุคคลรวมถึงเอกสารต่างๆ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลุงจรูญอย่างชัดเจน
เช่นเดียวกับลุงจรูญ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า วันนี้ไร้ความวิตกกังวลใดๆ และโดยส่วนตัวเชื่อว่าศาลอุทธรณ์น่าจะยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และเชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไรเหนือความหมายหมายไปมากกว่านี้ 
- จับ 'เบนซ์ เรซซิ่ง' ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกซิ่งยามวิกาล แต่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ได้รวมตัวแข่งรถ
เบนซ์ เรซซิ่ง อดีตสามี แพท ณปภา รวมแก๊งซิ่งรถจักรยานยนต์กลางดึก โดนตำรวจจราจรกลางจับฐานฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน
ตำรวจจราจรกลาง สน.วิภาวดี ควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่น 8 คน ที่ขี่รถจักรยานยนต์ภายในช่องทางด่วนถนนวิภาวดี-รังสิต มุ่งหน้าแยกหลักสี่ เมื่อช่วงตี 2 ที่ผ่านมา ซึ่งในนั้นมี นาย อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง อดีตสามีของแพท ณปภาด้วย 
พันตำรวจโท พันษา อมราพิทักษ์ รองผู้กำกับการ สน.วิภาวดี เปิดเผยว่า เบนซ์ ขี่รถจักรยานยนต์มากับพวกรวม 8 คน รวม 6 คัน ออกจากถนนเทวฤทธิ์พันลึก ใกล้คลังสินค้าดอนเมือง แล้วเข้าไปในช่องทางด่วนที่ห้ามรถจักรยานยนต์วิ่ง แล้วยังใช้ความเร็วสูง ตำรวจจึงสกัดจับ พบมีเยาวชนอายุ 14 ปี รวมอยู่ด้วย แต่เบื้องต้นเบนซ์ให้การปฏิเสธ 
คืนที่ผ่านมาเบนซ์ และเพื่อนต้องถูกคุมตัวอยู่ภายในห้องควบคุม สน.ทุ่งสองห้อง ฐานร่วมกันฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน มั่วสุมกระทำกิจกรรมให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค และความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ฐานขับรถโดยประมาทหวาดเสียว และถูกนำตัวมาสอบปากคำ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา
เบนซ์ รับสารภาพว่า ขี่ในช่องทางหลักจริง แต่ไม่ได้รวมกลุ่มซิ่ง และก่อนหน้านี้เพิ่งไปกินข้าวกันมาและกำลังแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยขณะนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำและนัดขึ้นศาลแขวงดุสิตพรุ่งนี้
- กลุ่มผู้เสียหายร้องกองปราบ หลังถูกหลอกขายมือถือราคาถูกผ่านเฟซบุ๊ก รวมเสียหายกว่า 16 ล้าน
กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวร้องเอาผิดหญิงอายุ 29 ปี หลอกขายโทรศัพท์มือถือ อ้างซื้อได้ราคาถูกกว่าท้องตลาด เพราะใช้สิทธิ์พนักงานซื้อ มีผู้เสียหายกว่าสิบราย สูญเงินกว่า 16 ล้านบาท 
ตัวแทนผู้เสียหาย เดินทางเข้าร้องเรียนต่อกองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนางสาวกลอย อายุ 29 ปี หลังรู้จักจากเพื่อนที่ทำงาน ที่เคยติดต่อซื้อโทรศัพท์มือถือผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยอ้างเป็นพนักงานฝ่ายบริการลูกค้า customer service หลอกขายโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน คอมพิวเตอร์แมคบุ๊ก และโทรศัพท์ซัมซุงผ่านทางเฟซบุ๊ก 
โดยอ้างสามารถซื้อได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด มากกว่าครึ่ง อ้างว่าเป็นสินค้ามีตำหนิเล็กน้อย โดยซื้อได้ในราคาพนักงาน ซึ่งนางสาวกลอย มักออกโปรโมชั่นจูงใจให้คนมาซื้อ 
โดยผู้เสียหายเล่าว่า ตนเริ่มสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือกับหญิงดังกล่าวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งในระยะแรกได้รับสินค้าจริง โดยรอประมาณ 3-4 สัปดาห์ จากนั้นจึงสั่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น จนช่วงเดือนเมษายน นางสาวกลอยมีการบ่ายเบี่ยง และไม่ส่งสินค้าให้ โดยอ้างว่าเป็นช่วงโควิด-19 ร้านจำหน่ายโทรศัพท์ปิด จึงไม่สามารถส่งสินค้าให้ได้ 
จากนั้นผู้เสียหายจึงมีการทวงถามถี่ขึ้น แต่ก็ขาดการติดต่อ จึงรวมตัวกับผู้เสียหายรายอื่นกว่า 10 ราย เข้าแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น เมื่อวันที่ 20 เมษายนรวม มูลค่าความเสียหายกว่า 16 ล้านบาท และมีการเซ็นรับสภาพหนี้ แต่นางสาวกลอยกลับไม่จ่ายเงินคืน และเงียบหายไป จึงมารวมตัวร้องแจ้งความร้องทุกข์อีกครั้งที่กองปราบปราม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัว 
เบื้องต้น ผู้เสียหายได้พูดคุยกับนางสาวกลอย อ้างว่าที่ไม่สามารถส่งสินค้าให้กับผู้เสียหายได้ เพราะซื้อสินค้ามาในราคาสูง และมาขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด 
วันนี้จึงได้นำเอกสารหลักฐานการแจ้งความใน สน. พื้นที่เกิดเหตุ เอกสารการสนทนาการสั่งซื้อ และการโอนเงิน มามอบให้กับตำรวจกองปราบปราม เพื่อติดตามตัวนางสาวกลอย และป้องกันไม่ให้ผู้อื่นตกเป็นเหยื่อ
- เตรียมสอบพยานเพิ่มอีก 1 ปาก คดีบรรยิน
กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวร้องเอาผิดหญิงอายุ 29 ปี หลอกขายโทรศัพท์มือถือ อ้างซื้อได้ราคาถูกกว่าท้องตลาด เพราะใช้สิทธิ์พนักงานซื้อ มีผู้เสียหายกว่าสิบราย สูญเงินกว่า 16 ล้านบาท
ตัวแทนผู้เสียหาย เดินทางเข้าร้องเรียนต่อกองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับ นางสาวกลอย อายุ 29 ปี หลังรู้จักจากเพื่อนที่ทำงาน ที่เคยติดต่อซื้อโทรศัพท์มือถือผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยอ้างเป็นพนักงานฝ่ายบริการลูกค้า customer service หลอกขายโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน คอมพิวเตอร์แมคบุ๊ก และโทรศัพท์ซัมซุงผ่านทางเฟซบุ๊ก 
โดยอ้างสามารถซื้อได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด มากกว่าครึ่ง อ้างว่าเป็นสินค้ามีตำหนิเล็กน้อย โดยซื้อได้ในราคาพนักงาน ซึ่งนางสาวกลอย มักออกโปรโมชั่นจูงใจให้คนมาซื้อ 
ผู้เสียหายเล่าว่า ตนเริ่มสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือกับหญิงดังกล่าวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งในระยะแรกได้รับสินค้าจริง โดยรอประมาณ 3-4 สัปดาห์ จากนั้นจึงสั่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น จนช่วงเดือนเมษายน นางสาวกลอยมีการบ่ายเบี่ยง และไม่ส่งสินค้าให้ โดยอ้างว่าเป็นช่วงโควิด-19 ร้านจำหน่ายโทรศัพท์ปิด จึงไม่สามารถส่งสินค้าให้ได้ 
จากนั้นผู้เสียหายจึงมีการทวงถามถี่ขึ้น แต่ก็ขาดการติดต่อ จึงรวมตัวกับผู้เสียหายรายอื่นกว่า 10 ราย เข้าแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น เมื่อวันที่ 20 เมษายนรวม มูลค่าความเสียหายกว่า 16 ล้านบาท และมีการเซ็นรับสภาพหนี้ แต่นางสาวกลอยกลับไม่จ่ายเงินคืน และเงียบหายไป จึงมารวมตัวร้องแจ้งความร้องทุกข์อีกครั้งที่กองปราบปราม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัว 
เบื้องต้น ผู้เสียหายได้พูดคุยกับนางสาวกลอย อ้างว่าที่ไม่สามารถส่งสินค้าให้กับผู้เสียหายได้ เพราะซื้อสินค้ามาในราคาสูง และมาขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด 
วันนี้จึงได้นำเอกสารหลักฐานการแจ้งความใน สน. พื้นที่เกิดเหตุ เอกสารการสนทนาการสั่งซื้อ และการโอนเงิน มามอบให้กับตำรวจกองปราบปราม เพื่อติดตามตัวนางสาวกลอย และป้องกันไม่ให้ผู้อื่นตกเป็นเหยื่อ
- เตรียมสอบพยานเพิ่มอีก 1 ปาก คดีบรรยิน
ความคืบหน้าในคดีพันตำรวจโท บรรยิน ตั้งภากรณ์ วางแผนแหกคุก ที่กรมราชทัณฑ์แจ้งข้อมูลแก่กองบังคับการปราบปราม ให้ช่วยสืบสวนและเฝ้าระวังความปลอดภัย จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่มีความเกี่ยวข้องกับแผนของพันตำรวจโทบรรยินได้ และให้การซัดทอดมาถึง
พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวน จะเข้าไปสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 1 ปาก โดยพยานคนดังกล่าว เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้อง และรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการวางแผนแหกคุกของพันตำรวจโทบรรยิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า บุคคลดังกล่าวเป็นใคร แต่ถือว่าเป็นพยานปากสำคัญที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
และเมื่อวานนี้ก็มีการสอบพยานที่เกี่ยวข้องรายอื่นๆไปอีก 2 ปาก ซึ่งให้การสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับผู้ต้องหา 2 คนที่มีส่วนร่วมในแผนการดังกล่าว และตำรวจได้สอบปากคำเป็นพยานในคดี ทั้งนี้จากการสอบสวนในเบื้องต้นยังไม่พบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และขบวนการวางแผนแหกคุกในครั้งนี้ก็มีจำนวนผู้ร่วมขบวนการไม่มาก
ส่วนกรณีที่มีแนวคิดว่า จะเชิญภรรยาของผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาเป็นผู้เสียหายร่วม พันตำรวจเอกเอนก ชี้แจงว่า เบื้องต้นจากการพิจารณาพบว่าการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น เป็นความผิดที่เกิดกับผู้บัญชาการเรือนจำ และเป็นความผิดต่อเจ้าพนักงานของรัฐ จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องเชิญตัวมาสอบสวนในฐานะผู้เสียหายร่วม แต่หากพนักงานสอบสวนเห็นว่า สำนวนคดียังต้องมีส่วนใดเพิ่มเติม ก็อาจเรียกตัวมาสอบปากคำให้เป็นผู้เสียหายร่วมได้
- เกาหลีเหนือประกาศระงับส่งทหารประชิดพรมแดนสองเกาหลี
สถานีโทรทัศน์เคอาร์ทีของทางการเกาหลีเหนือ เผยแพร่แถลงการณ์ผู้นำสูงสุด คิม จองอึน หลังประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการกลางทางทหารเกาหลีเหนือ ระบุว่าเกาหลีเหนือตัดสินใจระงับแผนเพิ่มแรงกดดันทางทหารต่อเกาหลีใต้ ที่รวมถึงการส่งกองกำลังทหารเข้าไปยังพื้นที่ภูเขากึมกัง (Mount Kumgang) และนิคมอุตสาหกรรมร่วมแกซอง (Kaesong) บริเวณพรมแดนสองเกาหลีแล้ว 
แต่ไม่ได้ระบุเหตุผลที่แน่ชัดของการตัดสินใจครั้งนี้แต่อย่างใด สำหรับความตึงเครียดคาบสมุทรเกาหลีระลอกล่าสุด เกิดขึ้นหลังเกาหลีเหนือระเบิดอาคารสำนักประสานงานร่วมสองเกาหลีในเมืองแกซองทิ้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า ไม่พอใจที่เกาหลีใต้ไม่จัดการการโปรยใบปลิวโจมตีเกาหลีเหนือของกลุ่มเกาหลีเหนือแปรพักตร์ ที่เกิดขึ้นบริเวณพรมแดนฝั่งเกาหลีใต้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ