สังคม

สุดช้ำ! ลุงป้าช่วยค้ำประกันรถให้เพื่อนของเพื่อน ทั้งที่ไม่สนิท สุดท้ายถูกยึดบ้าน

โดย

23 มิ.ย. 2563

1.6K views

นายสามารถ โพธิประสิทธิ์ อายุ 58 ปี นางอำไพ โพธิประสิทธิ์ อายุ 60 ปี เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ช่วยเหลือหลังจากสามีไปเซ็นค้ำประกันซื้อรถให้กับเพื่อนของเพื่อนแล้วเจ้าของรถไม่ผ่อนส่งจนตนและสามีถูกยึดบ้านที่อยู่ในปัจจุบันขายทอดตลาดไปและเจ้าของใหม่ให้ย้ายภายเร็ววัน

นายสามารถ เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนทำงานเป็นพนักงานแผนกดับเพลิงอยู่ที่ อบต.ท่าค้อ ได้รับการขอร้องจากผู้ใหญ่ที่นับถือกันให้ช่วยค้ำประกันในการซื้อรถปิคอัพ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์เทา โดยผูเช่าซื้อคือนายภาดา ลิมรุ่งเรือง ทำงานดี มีหลักประกัน ไม่ทำให้เสียหาย ด้วยความที่สงสารเลยเซ็นค้ำประกันให้กับนายภาดาไปเมื่อปี 2555 แต่เขาก็ขาดส่งค่างวดจนรถถูกยึด ตนเองและนายภาดาถูกฟ้องในส่วนต่างที่ขาดหายไปในตัวรถอีก 80,000 บาท เมื่อปี 2561

จนกระทั่งมาเมื่อวันที่ 30 ม.ค.63 ตนเองแทบช็อค เมื่อจู่ๆได้มีทนายชื่อตั้มขับรถมาที่บ้านบอกว่า บ้านตนเองเขาซื้อขายทอดตลาดมาแล้วนะ ถ้าจะอยู่ต่อให้ซื้อคืนในราคา 800,000 บาท ตนเองบอกไปว่าไม่มีเงิน ทนายทราบเพียงชื่อตั้มเลยบอกว่าจะช่วยเหลือขายให้ 300,000 บาท แต่ต้องภายในเดือนนี้นะ ไม่งั้นต้อง 500,000 บาท ตนเองเครียดมากไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนมาจนบางครั้งอยากฆ่าตัวตาย ภรรยาจึงชวนให้มาร้องขอความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์

ขณะที่นางอำไพ กล่าวเพิ่มเติมว่า สามีไปเซ็นค้ำประกันโดยที่ตนเองไม่รู้เรื่องและสามีก็ไม่รู้จักคนเช่าซื้อ บ้านไม้สองชั่นและที่ดิน 96 ตารางวาหลังนี้เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษและเป็นชื่อของตนเอง วันนี้ถูกขายทอดตลาดและต้องมาถูกไล่ออกจากบ้านทั้งๆ ที่เป็นบ้านตัวเองแท้ๆทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับและเสียใจมากที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ต่อจากนี้ไปตน สามี ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลาน จะไปอยู่ที่ไหนกันก็ยังไม่รู้เลย

ทางด้านนายรณณรงค์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีทนายคอยดูแลอยู่แล้วและมีการยื่นเรื่องคัดค้านการขายทอดตลาดตาม ป.วิแพ่ง ในเรื่องของการส่งหมายที่ไม่มีการส่งหมายมาให้เจ้าของทรัพย์ทราบก่อน ส่วนในขั้นตอนการบังคับคดีหากเจ้าหนี้พบว่าลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกันมีอสังหาริมทรัพย์ก็จะต้องตั้งเรื่องอายัดบังคับคดีทันที่ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่าจะค้ำประกันใคร ควรคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนไม่ใช้คิดแต่ว่าค้ำๆไปก็จะเกิดปัญหาเหมือนกับกรณีนี้ที่ลุงกับป้าจะต้องมาเสียบ้านที่อยู่มาทั้งชีวิต หลังจากนี้จะดูข้อกฎหมายว่าจะช่วยเหลือในเรื่องใดได้บ้าง

ต่อมาทนายรณณรงค์ได้ให้นางอำไพ ต่อสายโทรศัพท์หานายภาดา ผู้เช่าซื้อ ซึ่งนายภาดาได้กล่าวมาตามสายว่ากำลังหาเงินอยู่ แต่เงินจำนวนมากแบบนี้ และสภาวะที่เศรษฐกิจตกสะเก็ดข้าวยากหมากแพงตนเองคงหาไม่ทัน

ทางนายสามารถจึงตอบสวนไปว่าทำไมตอนซื้อรถไม่เห็นพูดแบบนี้ ทำไมไม่สงสารตนกับภรรยาบ้างที่บ้านต้องมาถูกยึดเพราะไปค้ำประกันให้ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ ทางปลายสายคือนายภาดาได้แต่นิ่งอึ้งบอกเพียงเสียงอ่อยๆว่าจะพยายาม ก่อนจะวางสายไป

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/D8mwaHUYx0c

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ