บันเทิง

บรรยากาศพระราชทานเพลิงศพ ‘ตั้ว ศรัณยู’ เปิดข้อความอาลัยครั้งสุดท้าย จาก 'เปิ้ล หัทยา'

โดย

19 มิ.ย. 2563

930 views

บรรยากาศพิธีพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ) ของนักแสดงและผู้กำกับมากฝีมือ ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ที่วัดนาคปรก เมื่อวานนี้  บรรยากาศที่วัดเต็มไปด้วยความโศกเศร้าท่ามกลาง ครอบครัว เพื่อน พี่ น้อง ในวงการบันเทิง อาทิ ‘คุณประวิทย์ มาลีนนท์ , พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ , พี่แดง ธัญญา , พี่ดี้ นิติพงษ์ , พี่นก สินจัย , พี่ตู่ นันทิดา , ต่าย เพ็ญพักตร์ , ผู้จัดละครช่อง 3 แม่หนู สรวงสุดา , พี่ไก่ วรายุฑ รวมถึงประชาชนและแฟนๆ ที่รัก ‘พี่ตั้ว’ ที่มาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายกันเป็นจำนวนมาก
โดยก่อนเริ่มพิธีการ ‘พี่เปิ้ล’ และ ‘พี่เอก’ ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าแม้จะเตรียมใจมาแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกใจหาย ‘พี่เปิ้ล’ บอกว่าทุกวันนี้ยังคุยกับ ‘พี่ตั้ว’ เหมือนเดิม เสมือนเค้ายังอยู่ไม่ได้จากไปไหน เพียงแค่เค้าตอบเราไม่ได้ พร้อมกับบอก ‘พี่ตั้ว’ ว่าเราจากกันแค่ร่างกาย แต่ความรัก ความผูกพัน ไม่เคยหายไป ทุกวันที่กลับบ้านหลังจากไม่มี ‘พี่ตั้ว’ ยอมรับว่ามันก็แปลกๆ ต้องคอยให้กำลังใจตัวเองว่าเราต้องอึด เพราะยังมีลูกสาวทั้งสองคน และยังมีหลายสิ่งที่ต้องทำ ถ้าน้ำตาจะไหลก็ไหลไป แล้วคอยบอกกับตัวเองว่าต้องสู้ ขณะที่ ‘พี่เอก’ ก็บอกว่าสิ่งที่จะทำให้น้องชายได้ ก็คือการดูแลหลานทั้งสองคน คือ ‘น้องหนุน’และ’น้องหนัง’ รวมถึง ‘พี่เปิ้ล’ จะคอยปลอบและให้กำลังใจเวลาหลานคิดถึงพ่อ
นอกจากนี้ ‘พี่เปิ้ล’ ยังเผยถึงข้อความที่ได้เขียนถึง ‘พี่ตั้ว’ คู่ชีวิตที่อยู่ด้วยกันมาถึง 26 ปี ในหนังสือที่ระลึกสำหรับแจกให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ‘พี่เปิ้ล’ บอกว่าเป็นการเขียนถึงความรักที่มีต่อ ‘พี่ตั้ว’ ที่ยากและใช้เวลาในการกลั่นกรองนานมาก โดยเปรียบเทียบว่าหากหยดน้ำตาสามารถเปลี่ยนเป็นน้ำหมึกหรือดินสอได้ มันก็คงเป็นตัวอักษรไปแล้ว
โดยคำอาลัยที่ ‘พี่เปิ้ล’ ได้เขียนถึง ‘พี่ตั้ว’ ในหนังสือที่ระลึก ได้เขียนไว้ว่า
“ถึงพี่ตั้วสุดที่รัก...ถ้าจะให้เขียนถึงพี่ตั้วในช่วงเวลานี้ คงมีแต่น้ำตาหยดออกมาเป็นตัวหนังสือ เพราะเรามีเรื่องราวมากมายที่ผ่านมาด้วยกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ได้คำตอบชัดเจนเสมอเวลาที่ถามพี่ตั้วว่า... อะไรสำคัญที่สุดในชีวิต พี่ตั้วตอบหมือนเดิมทุกครั้ง คำตอบนั้นคือ “ความรัก” แล้วก็จะคอยอธิบายให้ฟังว่า ถ้าเราทำทุกอย่างด้วยความรัก ด้วยความรู้สึกรัก เราจะเกิดพลัง มีความหวัง และตั้งใจ ถ้ามันไม่ใช่ เราก็จะไม่เสียใจเพราะเราทำมันไปด้วยใจรัก ในชีวิตพี่ตั้ว จึงทุ่มเท เรื่องการแสดง เพราะพี่ตั้วรักการแสดงมากถึงมากที่สุด และเมื่อรักมากจึงใส่ใจในส่วนสำคัญของการแสดงนั่นก็คือ “เรื่องบท” เปิ้ลเห็นพี่ตั้วอ่านบทช้ำแล้วซ้ำเล่า จึงเข้าใจเลยว่ามันมาจากความรัก จริงๆ และเมื่อเป็นผู้กำกับก็ยิ่งลงลึกในรายละเอียดแบบถี่ยิบ ในชีวิตพี่ตั้วจึงมักจะบอกกับเปิ้ลว่ามีอาชีพเดียวที่รักมาก คือ “การแสดง” เท่านั้น”
และเพราะความรักจึงทำให้เรื่องยากๆ ในครอบครัวกลายเป็นเรื่องง่ายๆ อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะพี่ตั้วบอกเสมอว่าเรื่องครอบครัวต้องใช้ความอดทน และความอดทนเป็นส่วนหนึ่งของความรัก ไม่เข้าใจอะไรกันต้องทนที่จะฟังและพูดกันให้เข้าใจให้กระจ่าง ถ้าเป็นเรื่องของคนสองคน คือ พี่ตั้วกับเปิ้ล คนสองคนก็ต้องนั่งคุยกันแค่สองคนให้รู้เรื่องชัดเจน แต่ถ้าเป็นเรื่องของลูก คือ หนุง-หนัง ก็ต้องมาฟังด้วยกันหมด พูดคุย แสดงความคิดเห็น แก้ปัญหา ปรับทัศนคติโดยใช้ความรักที่มีให้กันเป็นตัวเชื่อม ไม่ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ เปิ้ล จึงรู้สึกอุ่นใจเสมอที่มีพี่เป็นผู้นำในครอบครัว ตลอดเวลาที่รู้จักและใช้ชีวิตด้วยกันมา เรื่องหนักๆ ในครอบครัวก็ผ่านไปได้เสมอทุกครั้ง เพราะเราเชื่อในความรักที่มีให้กัน
“แม้วันนี้ พี่ตั้วจากไปเพียงร่างกาย ไม่ได้หมายความว่าสิ่งดีๆ ที่พี่ตั้วบอกไว้จะจากไปด้วย เพราะจวบจนก่อนพี่ตั้วจะหมดลมหายใจ พี่ตั้วยังเรียกเปิ้ลมาบอกว่า เปิ้ลต้องทำความฝันที่อยากทำให้ได้ แม้มันจะยากแค่ไหน ลำบากยังไงก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด”
“สนับสนุนความฝันของลูกด้วย... อย่าลืมว่าต้องทำทุกอย่างด้วยความรู้สึก...รัก”
“พี่ตั้วคะ ความรักที่มีอยู่จะไม่มีวันหายไปไหนค่ะ เหมือนกับเพลงที่พี่ตั้วชอบ “...จะรัก รักเธอตลอดไป เป็นลมหายใจของกันและกัน” การเขียนถึงพี่ตั้วครั้งนี้ คงยังไม่จบครบความในใจของเปิ้ลทั้งหมดหรอก เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันนะ แล้วเปิ้ลจะค่อยๆ เขียนถึงพี่เองทุกๆ วัน ให้เหมือนว่าพี่ยังมีชีวิตอยู่ใกล้ๆ เรา...”
“รัก ไม่มีวันตาย แม้ลมหายใจจะหมดไป .... เปิ้ล”
นอกจากนี้ในหนังสือที่ระลึกก็ยังมีคำอาลัยจากลูกสาวทั้งสองคนที่ยังคิดถึงคุณพ่อสุดหัวใจ รวมถึงประวัติและผลงานต่างๆ ของ ‘พี่ตั้ว’ ที่เคยสร้างความประทับไว้มากมาย
ขณะที่พิธีภายในงานก็มี ‘พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ท่านว.วชิรเมธี) มาแสดงธรรม จากนั้นก็มีการแสดงเพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อ ‘พี่ตั้ว’ ทั้งหมด  4 ชุด
โดยชุดแรก เป็นการขับร้องเพลง “ชมพูฟ้า อาลัย” จากเพื่อนพี่น้องชาวสวนกุหลาบ
ชุดที่ 2 เป็นการเดี่ยวแซกโซโฟน โดย ‘แต๋ง ภูษิต ไล้ทอง ในเพลง “ลาแล้วจามจุรี”
ชุดที่ 3 เป็นการขับลำนำบทกวีชุด “ดาวศรัณยู”  โดย ‘อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์’ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ และขับเสนาะขลุ่ย โดย ‘อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี’ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง
และชุดที่ 4 เป็นการขับร้องเพลง “พักตรงนี้” โดย ‘ตู่ นันทิดา’ และบรรเลงดนตรีโดย ‘บอม สินเจริญ’ ซึ่ง ‘พี่ตู่’ ถ่ายทอดออกมาได้กินใจอย่างสุดซึ้ง
จากนั้น ‘พี่เอก ธเนศ’ พี่ชายของ ‘พี่ตั้ว’ ก็ได้อ่านหมายรับสั่ง และ ‘พี่เปิ้ล หัทยา’ ภรรยาของ ‘พี่ตั้ว’ เป็นผู้กล่าวคำสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ  ต่อจากนั้นก็เป็นพิธีทอดผ้าบังสกุล โดย ‘หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล’ เป็นประธานในการทอดผ้ามหาบังสกุล ก่อนจะเชิญแขกที่ไปร่วมงานขึ้นวางดอกไม้จันทน์ เพื่อเป็นการไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
โดยวันนี้ทางครอบครัวจะเก็บอัฐิ และนำไปลอยอังคารที่สัตหีบ ที่เดียวกับที่ลอยอังคารคุณแม่ของ ‘พี่ตั้ว’  ส่วนงานละครของ ‘พี่ตั้ว’ ที่ยังถ่ายทำค้างอยู่ ‘พี่เปื้ล’ เผยว่าได้มีการปรึกษากับทาง ‘พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์’ แล้ว และมีความเป็นไปได้ว่า ‘พี่อ๊อฟ’ จะมาช่วยกำกับละครเรื่องสุดท้ายของ ‘พี่ตั้ว’ ให้เสร็จสมบูรณ์
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/QknxhPqxbls

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ