หนุ่มป่วยหายใจลำบาก ผงะเจอถุงซีสต์พยาธิตืดสุนัข สาเหตุจากกินอาหาร-สัมผัสสัตว์มีพยาธิ

แฟนเพจ PDRC ศูนย์วิจัยโรคปรสิต สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี โพสต์เตือนภัยหลังพบอาการของผู้ป่วยชายรายหนึ่ง อายุ 25 ปี มาโรงพยาบาลด้วยอาการหายใจลำบากนาน 6 เดือน ผลการตรวจร่างกาย มีภาวะหัวใจเต้นเบามาก ส่วนการทดสอบสัญญาณไฟฟ้าของหัวใจพบเป็นปกติ

ผลการเอกซเรย์ทรวงอก พบว่า หัวใจโตผิดปกติ การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจทางหน้าอกและการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านทางหลอดอาหาร พบซีสต์จำนวนมาก มีลักษณะเหมือนรังผึ้ง ทำให้ห้องหัวใจไม่สามารถมองเห็นได้ในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง

หลังการตรวจหัวใจด้วยเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า พบถุงซีสต์ขนาดใหญ่และซีสต์เล็กๆ จำนวนมากอยู่ในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ ขนาดซีสต์วัดได้ประมาณ 10×11×12 ซม. ผ่าออกมามีซีสต์เล็กๆ จำนวนมากกว่า 200 ซีสต์ เคสผู้ป่วยรายนี้ได้รับการวินิจฉัยเป็นภาวะหัวใจโตจากถุงซีสต์ตัวอ่อนพยาธิตืดสุนัข intrapericardial echinococcosis

สำหรับโรคพยาธิไฮดาติด เกิดจากพยาธิตืด Echinococcuss พบรายงานในหลายพื้นที่ทั่วโลก ผู้ติดเชื้อนี้ราวๆ หนึ่งล้านคน มีการเสียชีวิตของผู้ป่วยประมาณ 1200 ราย อุบัติการณ์ของโรคเริ่มลดน้อยลงในปัจจุบัน

สาเหตุการติดเชื้อ เกิดจากการกินอาหารหรือน้ำที่มีไข่ของพยาธิปะปนอยู่ หรือการอยู่ใกล้หรือสัมผัสกับสุนัขที่ติดเชื้อ โดยเริ่มแรก ผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการและอาจไม่มีอาการนานร่วมปี อาการที่เกิดขึ้นมักขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของถุงซีสต์ เช่น ตับ ผู้ป่วยมักมีการปวดท้อง น้ำหนักลด และตัวเหลือง การติดเชื้อที่ปอด อาจมีอาการปวดที่บริเวณหน้าอก หายใจถี่ และการไอ

ต้องทำการรักษา ด้วยการผ่าเอาถุงซีสต์ออกแล้วตามด้วยการให้ยา อาทิ อัลเบนดาโซล ทั้งนี้จึงฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้เลี้ยงสุนัข ถ่ายพยาธิในสุนัขเป็นประจำ เมื่อคลุกคลีกับสุนัขต้องล้างหมือให้สะอาด และ รับประทานผัก อาหาร น้ำที่สะอาด ปรุงสุก เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรคดังกล่าว

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/OdpfK2s3vpo