อาชญากรรม

สะเทือนขวัญ! แจ้งข้อหาลูกสาวฆ่าตัดอวัยวะเพศพ่อแท้ๆ พูดต่อหน้าสื่อ "หนูไม่ได้ทำอะไรผิดจริงๆ"-แม่ เผยเคยโทรบอกดีใจสู้พ่อได้

โดย

17 มิ.ย. 2563

11.9K views

จากรณีสะเทือนขวัญ! แจ้งข้อหาลูกสาวฆ่าตัดอวัยวะเพศพ่อแท้ๆ พูดต่อหน้าสื่อ "หนู่ไม่ได้ทำอะไรผิดจริงๆ" ตร.เร่งส่งตัวตรวจอาการป่วยจิต-แม่ เผยเคยโทรบอกดีใจสู้พ่อได้ 
เมื่อวานนี้  (16 มิ.ย.) ลูกสาวฆ่าโหดพ่อตัวเอง โดยการใช้มีดฟันแสกหน้า แล้วตัดอวัยวะเพศทิ้ง โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณทางเดินภายในบ้าน พบศพของนายเกษม อายุ 58 ปี สวมเสื้อโปโล สวมกางเกงขาสั้น มีผ้าพันแผลที่ขาและแขนขวา เพราะเพิ่งประสบอุบัติเหตุรถล้ม ซึ่งสภาพของศพมีรอยมีดฟันบริเวณกลางหน้าผาก อวัยวะเพศถูกตัดไปถึงอัณฑะทิ้งอยู่ข้างศพ ผู้ก่อเหตุเป็นลูกสาววัย 29 ปี 
หลังจากนั้นมีพยานพบเห็นลูกสาวเดินตัวเปื้อนเลือดออกไป ถือกระเป๋าออกไปด้วย เมื่อเพื่อนบ้านออกไปดูก็พบศพของนายเกษรอยู่ภายในบ้าน จึงแจ้งตำรวจให้ทราบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลา 6 ชั่วโมง ติดตามตัวลูกสาวไว้ได้ ขณะที่เจ้าตัวเดินอยู่บริเวณหน้าปากซอยซอยชินเขต 1 / 31 ห่างจากจุดเกิดเหตุ 2 กิโลเมตร จากนั้นตำรวจคุมตัวไปสืบสวนที่สน. ทุ่งสองห้อง ซึ่งทางลูกสาวบอกว่ามีดที่ใช้ก่อเหตุนั้นทิ้งลงถังขยะของหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง และเมื่อคืนนี้เธอให้การวกวน พูดจาไม่รู้เรื่อง จนได้ควบคุมตัวในห้องไว้ก่อน  เพื่อรอสอบปากคำตอนเช้า และตลอดเวลาที่อยู่ในห้องควบคุมก็มีการกระโดดไปมา และตะโกนตลอดเวลาว่า "ไม่ได้ทำอะไร เมื่อไหร่จะปล่อยเธอสักที"  
จากนั้นเช้าวันนี้ (17 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. ทางพนักงานสืบสวนคุมตัวออกมาหาสารเสพติด และเธอได้ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่ได้ทำผิดจริงๆ แม้ว่าผู้สื่อข่าวจะสอบถามอะไร เธอก็ตอบอย่างเดียวว่าไม่มีค่ะ ไม่ได้ทำอะไรผิด และอ้างสั้นๆ ว่าา เคยถูกผู้ตายทำร้ายร่างกายมานาน เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนเจ้าตัวยังพบว่าเคยเข้ารับการรักษาด้านจิตเวช ที่รพ.ศรีธัญญา ซึ่งจะมีการส่งตัวไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่า ระหว่างที่ก่อเหตุมีสติสัมปชัญญะครบสมบูรณ์หรือไม่ 
ล่าสุด ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบแม่ของผู้ก่อเหตุ หรืออดีตภรรยาของผู้ตาย เดินทางมาเอาเอกสารของทั้งอดีตสามี ผู้เสียชีวิต และของลูกสาว ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุไปให้ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง โดยแม่ของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนเองเลิกรากับผู้เสียชีวิตตั้งแต่ผู้ก่อเหตุยังเด็ก จากนั้นผู้เสียชีวิตก็ไปรับลูกมาอยู่ด้วย ตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษา กระทั่งในช่วงที่ผู้ก่อเหตุเรียนชั้นมัธยมก็เริ่มมีแฟน และติดยาเสพติดเรื่อยมา และย้ายออกไปอยู่ข้างนอก ซึ่งตนเองก็พยายามที่จะนำลูกเข้ารับการบำบัดหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาหลายปี ไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุไปอยู่ไหน เพราะตั้งแต่ที่มีปัญหาครอบครัว จากที่สามีของผู้ก่อเหตุข่มขืนลูกสาววัย 10 ขวบ ลูกสาวก็น่าจะเกิดความเครียดมากขึ้น จะกลับมาหาตนเอง และผู้เสียชีวิตก็ต่อเมื่อเงินหมด หรือไม่มีที่ไป แต่ในช่วงประมาณเดือนกันยายน 2562 สังเกตุได้ว่าลูกสาวมีอาการมากกว่าคนเสพยาเสพติด คล้ายอาการทางจิต จึงได้นำตัวรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา แต่อยู่ได้สักพักก็เห็นว่าอาการดีขึ้น และตัวผู้ก่อเหตุเองก็พูดว่าดีขึ้นแล้ว หายแล้ว ตนจึงไปรับกลับ แต่สังเกตว่าลูกไม่ยอมกินยา อ้างว่าหายแล้ว
กระทั่งในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เริ่มติดต่อไม่ได้ทั้งทางโทรศัพท์ และโซเชียลต่างๆ ก็ถูกปิดกั้นทั้งหมด ทำให้ไม่ทราบว่าลูกไปอยู่ไหน จะมีครั้งล่าสุดเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ลูกได้โทรศัพท์มาหาบอกว่า “หนูสู้พ่อได้แล้ว เมื่อก่อนหนูยอมให้เขาตลอด ตอนนี้หนูสู้เขาได้แล้ว” ด้วยน้ำเสียงแบบภูมิใจ ตนเองก็รู้สึกแปลกๆ เนื่องจากที่ผ่านมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าจะถูกพ่อดุด่าก็จะไม่เคยทำร้ายพ่อ 
ขณะที่เพื่อนบ้าน เล่าว่า เมื่อวาน หลังจากผู้เสียชีวิตกลับมาจากโรงพยาบาล เนื่องจากเพิ่งประสบอุบัติเหตุจนหัวไหล่หลุด และนั่งคุยกับตนเองอยู่บริเวณหน้าบ้าน ผู้ก่อเหตุก็มาหา และชวนพ่อให้เข้าบ้านหลังจากนั้นไม่นาน ลูกสาวก็เดินออกมาจากบ้านอย่างใจเย็น ด้วยสภาพเลือดเปื้อนเต็มตัว
ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุไม่ได้อยู่กับพ่อ เพราะมีอาการทางจิต เนื่องจากการเสพยาเสพติด นานๆ ทีก็มาหาพ่อบ้าง แต่มาหาทีไรก็ทะเลาะกันทุกที ส่วนพ่ออาศัยอยู่ตามลำพัง
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/9QlrlZtghRA

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ