สรุปข่าว
ประเด็นข่าวรอบวัน 8 มิ.ย.63 - ชะลอนำชื่อ 'สุชาติ' ขึ้นทูลเกล้าฯ นั่ง ป.ป.ช. / ผู้ต้องหากราดยิงชิงทองลพบุรี ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก
โดย
8 มิ.ย. 2563
1.4K views
- ชะลอนำชื่อ 'สุชาติ' ขึ้นทูลเกล้าฯ นั่ง ป.ป.ช.
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา แถลงชี้แจงกรณีการสรรหาและให้ความเห็นชอบนายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา และนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข เป็นผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการป.ป.ช.ว่า กระบวนการสรรหาและได้มาของคณะกรรมการสรรหานั้น เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ไม่มีกรรมการสรรหารายใดมาจากวุฒิสภา และวุฒิสภาไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งหรือเลือกกรรมการสรรหาแต่อย่างใด และที่สำคัญ คือบทบัญญัติในรัฐธรมนูญ มาตรา 203 วรรคห้า ก็ระบุว่า ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัคร ผู้ได้รับการคัดเลือกหรือได้รับการสรรหา ให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสรรหาเป็นผู้วินิจฉัย คำวินิจฉัยของคณะกรรมการสรรหาให้เป็นที่สุด
ส่วนกรณีกระบวนการให้ความเห็นชอบของวุฒิสภานั้น นายพรเพชร กล่าวว่าเมื่อคณะกรรมการสรรหาลงมติได้รายชื่อผู้สมควรเป็นกรรมการองค์กรอิสระมาให้ประธานวุฒิสภาแล้ว ในทางปฏิบัติวุฒิสภาก็จะตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และจริยธรรม แต่ในเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ได้รับการเสนอชื่อนั้น ในรัฐธรรมนูญ กำหนดว่าเป็นคำวินิจฉัยของคณะกรรมการสรรหา ดังนั้นคณะกรรมาธิการสามัญของวุฒิสภา จึงไม่ได้มีการยกเรื่องคุณสมบัตินี้ขึ้นมาเป็นประเด็นในการวินิจฉัย
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการลงมติเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้ว ประธานวุฒิสภาจะต้องดำเนินการตามขั้นตอน คือ ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบลาออกจากตำแหน่งและหน้าที่ที่ขัดแย้งกับการดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. ภายใน 15 วัน จากนั้นก็จะนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯต่อไป แต่เนื่องจากปรากฎว่า มีการร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ดังนั้นเพื่อให้กระบวนการและขั้นตอนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีความถูกต้อง จึงเห็นควรขยายเวลาการลาออกจากตำแหน่งปัจจุบันของนายสุชาติออกไปก่อน ทั้งนี้ จนกว่าจะได้ข้อยุติจากองค์กรที่มีหน้าที่และอำนาจวินิจฉัยในประเด็นเรื่องดังกล่าว
และยืนยันว่ามีความรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงบุรุษไปรษณีย์ และไม่ใช่ว่าวุฒิสภาโหวตคนที่ไม่มีคุณสมบัติเข้ามาดำรงตำแหน่ง แต่เพราะต้องทำตามกฎหมาย หากกระทำผิดขึ้นมาก็จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้ ทุกคนต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย
- สภาพัฒน์ เผยหน่วยงานแห่เสนอโครงการใช้งบเงินกู้เกินวงเงิน 4 แสนล้านบาท
การใช้เงินใน พรก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ล่าสุด สภาพัฒน์ ออกมาเปิดเผยว่า มีหน่วยงานแห่เสนอโครงการ จองใช้งบเกือบ 6 แสนล้านบาทแล้ว
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒน์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ ใช้เงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เปิดเผยว่า การใช้เงินกู้ตาม พ.ร.ก. เงินกู้ ในก้อน 4 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ขณะนี้มีโครงการฟื้นฟูและพัฒนาในส่วนต่างๆ เสนอเข้ามาแล้วคิดเป็นวงเงินกว่า 5.9 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการของบพัฒนาภาคการเกษตรมูลค่าเพิ่ม และการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ 91 โครงการ วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท
โครงการสำหรับเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเสนอมาจากระดับหน่วยงานและจังหวัด รวม 28,331 โครงการ วงเงิน 3.72 แสนล้านบาท และเป็นโครงการของส่วนราชการ 13 กระทรวง 4 หน่วยงาน ที่ขึ้นตรงสำนักนายกรัฐมนตรี รวม 115 โครงการ วงเงินกว่า 1.68 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังหารือร่วมกับการท่องเที่ยวฯ ในการแจกเงินเพื่อไปเที่ยว ซึ่งยังไม่กำหนดวงเงินที่ชัดเจน และโครงการเพื่อโครงสร้างพื้นฐาน โดยสภาพัฒน์ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาคัดกรอง และเปิดให้ประชาชนร่วมตรวจสอบโครงการที่เสนอมา ผ่านเว็ปไซต์ของสภาพัฒน์ระหว่างวันนี้ ถึง 15 มิถุนายนนี้
โดยโครงการที่ผ่านการพิจารณา จะเสนอเข้าคณะอนุกรรมการพิจารณา ก่อนจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ และเบิกจ่ายงบประมาณรอบแรกได้ในเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนรอบที่ 2 จะยื่นให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในช่วงเดือนสิงหาคม และโครงการอื่นๆ จะให้แล้วเสร็จภายในกันยายนนี้
- 'บุ๋ม' เตรียมสู้คดีหากถูก 'ปารีณา' ฟ้อง
นางสาวปนัดดา วงศ์ผู้ดี เดินทางมาร่วมคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ สภาผู้แทนราษฏร พร้อมกล่าวถึงข้อพิพาทระหว่างตนเองกับนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐว่า ไม่มี ส.ส.มาเจรจาเพื่อขอให้ยุติปัญหาความขัดแย้งระหว่างกัน ซึ่งหากมีการฟ้องร้องในชั้นศาล ก็พร้อมสู้คดี เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและรักษาสิทธิ์ของตนเอง ส่วนตนเองจะเดินหน้าฟ้องร้องนางสาวปารีณาหรือไม่ อยู่ระหว่างการหารือกับฝ่ายกฎหมาย
นางสาวปนัดดา ยอมรับว่าตั้งแต่ที่เกิดข้อพิพาทขึ้น มีพรรคการเมืองกว่า 20 พรรค ติดต่อเข้ามาให้ร่วมเป็นสมาชิกพรรคและลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. ซึ่งมีทั้งพรรคขนาดใหญ่และขนาดเล็ก แต่ได้แสดงเจตจำนงแล้วว่า จะไม่ขอลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเห็นว่าการเป็นดาราหรือทำหน้าที่สื่อมวลชน จะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้กว้างขวางมากกว่าการลงสมัครรับเลือกตั้ง
- ผู้ต้องหากราดยิงชิงทองลพบุรี ขึ้นศาลสืบพยานโจทก์นัดแรก
ศาลอาญารัชดาภิเษก เบิกตัว นายประสิทธิชัย เขาแก้ว ผู้ต้องหาคดีกราดยิงชิงทองลพบุรี เข้าสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ นัดแรก จากทั้งหมด 5 นัด
โดยผู้ต้องหาสีหน้าเรียบเฉย ยกมือไหว้เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนตลอดทาง
- น้องเจลลี่' เข้าร้อง ปอท.ถูกนำภาพไปโพสต์ขายบริการในทวิตเตอร์
"น้องเจลลี่" เน็ตไอดอล รีวิวสินค้า แจ้งความ ปอท. หลังถูกนำภาพไปโพสต์ขายบริการในทวิตเตอร์
นางสาว น้ำใจ จันทพลาบูรณ์ หรือ เจลลี่ เน็ตไอดอลมีผู้ติดตามทางอินสตาเเกรม กว่า 2 แสนคน นำหลักฐานเป็นภาพทวิตเตอร์ที่ถูกคนร้ายปลอมแปลงขึ้น แล้วนำไปโพสต์ว่าเธอขายบริการทางเพศ มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพื่อเอาผิดกับบุคคลที่สร้างทวิตเตอร์ปลอมในชื่อ "จินนี่" และนำภาพของเธอจากอินตราแกรมไปโพสต์ขายบริการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
นางสาว น้ำใจ ระบุว่า มีคนส่งภาพดังกล่าวมาให้ดูเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จึงไปแจ้งความที่ สน.บางยี่ขัน และพยายามกดรีพอร์ตไปแล้วหลายครั้ง แต่เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ยังโพสต์ภาพเธอ พร้อมข้อความทำนองขายบริการอย่างต่อเนื่อง จึงต้องมาแจ้งความที่ ปอท. เพื่อให้ปิดบัญชีทวิตเตอร์นี้ พร้อม ยืนยันจะเอาเรื่องที่สุด เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นการนำภาพส่วนตัวไปใช้หาประโยชน์ในเรื่องที่เหมาะสมด้านพนักงานสอบสวน ปอท.รับเรื่องไว้ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการ
ทั้งนี้ ล่าสุดทวิตเตอร์ดังกล่าวถูกลบไปแล้ว
- เร่งล่า 2 มือแทงพนักงานส่งเอกสารย่านลาดพร้าว
2 ผู้ต้องหาที่ชายหญิง ก่อเหตุใช้มีดแทงหนุ่มพนักงานส่งเอกสาร หลบหนีออกนอกกรุงเทพฯ ตำรวจเร่งตามตัวจากกรณีศาลออกหมายจับชายหญิง 2 ราย ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เเละพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร หลังก่อเหตุแทงนายวรัญญา เนตรทิพย์ พนักงานส่งเอกสาร เสียชีวิตภายในซอยลาดพร้าว 83 เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา
ล่าสุดชุดสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลโชคชัยเร่งไล่ล่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ขณะนี้พบว่าหลบหนีออกนอกพื้นที่กรุงเทพมหานครไปแล้ว ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งปูพรมค้นหาตัว โดยได้พยายามติดต่อครอบครัวของผู้ต้องหา ให้ช่วยเกลี้ยกล่อมให้ผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวโดยตำรวจ ระบุว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนในพื้นที่
ส่วนผู้ต้องหาเป็นบุคคลพื้นที่อื่น ไม่ได้รู้จักกันส่วนตัว แต่มีสาเหตุมาจากการขับรถปาดหน้ากันไปมา จนทำให้เกิดความไม่พอใจกัน ก่อนจะเริ่มลงมือทำร้ายร่างกายกันก่อนที่ผู้ต้องหาจะใช้มีดแทงผู้เสียชีวิต
- จับพระ-เณร จัดปาร์ตี้บ้านพักหรูหาดสัตหีบ
พระ 1 เณร 5 ร่วมฆราวาสเช่าบ้านพักหรูชายหาดบางเสร่ จัดปาร์ตี้เสพสุราอ้างสึกจากพระ-เณรแล้ว ตรวจสอบพบยังอยู่ในความเป็นพระและสามเณร จึงจับสึกทันที อีก 3 คนเป็นชาวพม่า ไม่มีพาสปอตเข้าเมือง ดำเนินคดีตามกฏหมาย
เมื่อเวลา 21.00 น.ของคืนวันที่ 7 มิ.ย.63 พ.ต. อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีนักท่องเที่ยวมาเช่าบ้านพักตากอากาศแห่งหนึ่ง ริมชาย หาดบางเสร่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบว่ามีบุคคลลักษณะดังกล่าว รวม 6 คน (พระ 1 เณร 5 ) ตั้งวงดื่มสุรากันอยู่ ยอมรับว่าได้บวชอยู่ในพื้นที่ จว.เชียงราย ออกจากวัดมาเที่ยวกับเครือญาติในพื้นที่ อ.สัตหีบ อีก 15 คน เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.63 ทีผ่านมา
โดยให้ พระครูปิยะกิจวิบูล หรืออาจารย์แก้ว เจ้าคณะตำบลนาจอมเทียน ได้สอบข้อเท็จจริงจน นายธนัญชัย นันทะวิชัย อายุ 36 ปี ยอมรับสารภาพว่า เป็นพระจริง ส่วนอีก 5 รูป เป็นสามเณรชาวเมียนม่า อายุระหว่าง 16-19 ปี ได้ชักชวนมาเที่ยวด้วยกัน โดยเปลี่ยนเป็นชุดคนธรรมดา จึงได้นำตัวทั้งหมดไปทำประวัติ สึกให้ขาดความเป็นสงฆ์และสามเณรพร้อมแจ้งประสานไปยังเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เพื่อยึดบัตรสุทธิต่อไป
พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก เปิดเผยว่า หลังได้รับการประสานว่า มีบุคคลลักษณะทรงผมคล้ายพระสงฆ์ มาจัดปาร์ตี้ในบ้านพักตากอากาศหรูในพื้นที่สัตหีบ จึงได้ส่งกำลังเข้าตรวจสอบพบการกระทำดังกล่าว แม้ไม่ผิดต่อระเบียบกฎหมาย แต่ก็ต้องให้สึกขาดจากความเป็นสงฆ์ ไม่ไปทำแบบนี้อีกจะทำให้เสื่อมเสียศาสนา ส่วน 3 รายที่เป็นเณร ไม่มีพาสปอตเข้าเมือง ถูกแยกออกไป ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
- ฝากขัง ผู้ช่วย ผญบ.ข่มขืนลูกสาวแท้ๆ อัดคลิปลงโซเชียล
จากกรณีที่สหรัฐฯ ประสานไทยจับ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ข่มขืนลูกสาว วัย 12 ปี แล้วอัดคลิปลงโซเชียล ล่าสุดตำรวจนำตัวฝากแล้ว ส่วนเด็กหญิงอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก
เมื่อเช้านี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ได้นำตัวนายหนู ไปขออำนาจศาล เพื่อฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน เนื่องจากยังสอบสวนไม่เสร็จ หลังควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองการุ้ง ครบ 48 ชั่วโมง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เพราะผู้ต้องหาเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กลัวจะไปยุ่งเหยิงกับคดี ส่วนเด็กหญิงวัย 12 ปี ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ได้รับตัวเข้าไปอยู่ในความคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กแล้ว และหลังจากนี้จะได้ให้สหวิชาชีพทำการสอบสวน
ขณะที่ ทีมข่าวฯ พบกับ นางสมหมาย อายุ 59 ปี แม่ของนายหนู บอกว่า ตอนนี้ยังเครียด และรู้สึกเสียใจ เนื่องจากเขาเป็นพ่อลูกกัน โดยเด็กมาอยู่ด้วยเป็นบ้างครั้ง ซึ่งตนเองก็นอนอยู่กันคนละห้องไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น หากทำจริงต้องปล่อยให้ตำรวจดำเนินคดี
ด้าน นายมนตรี ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า โดยปกติแล้วนายหนู เป็นคนเงียบไม่สุงสิงกับใคร เป็นคนดี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิง ตนเองเห็นนายหนู และภรรยาได้เลิกกันตั้งแต่ลูกสาวอายุ 2 ขวบ ต่อมาเด็กได้มาอยู่กับตายยาย จนอายุได้ 12 ปี และเมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมา นายหนู ไปรับลูกสาวมาอยู่ด้วยสัปดาห์ละ 2–3 วัน ก็เห็นพ่อลูกสนิทสนมกันดี ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุดังกล่าว
- ผู้นำเกาหลีเหนือประชุมเศรษฐกิจกับพรรคแรงงาน
สถานีโทรทัศน์เคอาร์ทีของทางการเกาหลีเหนือ เผยแพร่ภาพนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ขณะเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรคแรงงาน เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นที่เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง โดยเป็นการประชุมว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจเพื่อพึ่งพาตัวเองและพัฒนามาตรฐานคุณภาพชีวิตประชาชน
ซึ่งจากภาพจะเห็นได้ว่า ทั้งคิม จอง-อึนและผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นๆ ไม่มีผู้ใดสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเพื่อปิดจมูกและปาก ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ไนน์ทีนแม้แต่คนเดียว
แท็กที่เกี่ยวข้อง
