สังคม

โผล่อีก! เหยือ 'ผู้กองนัท' โดนรีดเงิน 4 หมื่น ประกาศกร้าว "ถ้าเจอตัว ขอถีบหน้า 1 ที"

โดย

6 มิ.ย. 2563

3K views

วันที่ 6 มิ.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตำรวจกองปราบปราม ตามจับตัว นายอรรฆเดช ขันน้อย อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ย่านศาลยา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 29 พ.ค. แล้วส่งตัวมดำเนินคดีที่ สภ.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์
เนื่องจากไปก่อเหตุ ขับรถบิ๊กไบค์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ให้อาวุธปืนเข้าไปขู่กรรโชก อ้างพระขับรถเร็ว ,เมาสุรา และโกงเงินวัด เรียกเงิน 250,000 บาท พระอธิการศักดิ์ วิสุทธสีโล เจ้าอาวาสวัดกมลาวาส หมู่ที่ 6 ต.บ้านดู่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ แต่ได้เงินไป 5,000 บาทและสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทอีก 1 เส้น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาทราบว่านายอรรฆเดช ไปก่อเหตุขู่กรรโชค แม่ค้าขายของชำที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ใช้วิธีล่อซื้อสุราในช่วงห้ามขาย แล้วอ้างเป็นตำรวจ เรียกเงิน 10,000 บาทพร้อมเหล้าอีก 2 ขวด แต่แม่ค้าไม่แจ้งความ เพราะคิดว่าตัวเองทำผิดจริง
ล่าสุด(5 มิ.ย.) ร.ต.อ.ชัยรัตน์ บุญชู รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้เรียกนายณัฐนนท์ สอดทรัพย์ อายุ 51 ปี มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม หลังได้แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่าถูกคนร้ายขโมยบัตร ATM แล้วเงินในบัญชีที่มีอยู่ 41,300 บาท หายไปทั้งหมด และมั่นใจว่าผู้ขโมยไปคือนายอรรฆเดช เพราะรู้รูปลักษณ์และเส้นทางการก่อเหตุที่เชื่อมโยงกัน
โดยนายณัฐนนท์ เล่าว่า ตนเพิ่งออกจากงานไปรษณีย์มาอยู่บ้าน เมื่อวันที่ 19 พ.ค.วันเกิดเหตุได้มีนายอรรฆเดช ซึ่งตอนนั้นไม่รู้จัก ขี่รถบิ๊กไบค์ มาจอดหน้าบ้าน แล้วมาเรียกชื่อแบบกันเองว่า”พี่เปี๊ยก” ตอนนั้นตกใจเล็กน้อยว่าทำไมรู้จักชื่อ จากนั้นได้พูดคุยแบบกันเอง นายอรรฆเดช อ้างว่าเป็นตำรวจสายสืบพิเศษ ตนในฐานะที่มีเพื่อนเป็นตำรวจหลายคน ยอมรับว่า”มันเหมือนมาก”
จากนั้นได้ขอให้ตนนั่งซ้อนท้ายไปร้านค้าในหมู่บ้าน บอกว่า”ให้ไปส่งซื้อเหล้าหน่อย”ตนก็ไปด้วย เมื่อไปถึงร้านค้านายอรรฆเดช ลงไปร้านค้าคนเดียว โดยให้ตนยืนรอที่รถ ประมาณ 15 นาที เห็นเจ้าของร้านเอาเงินให้ 10,000 บาทพร้อมเหล้า 2 ขวด แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินค่าอะไร แล้วนายอรรฆเดช ก็ขับรถมาที่บ้าน นั่งก๊งเหล้าประมาณ 10 นาที ก็ขับรถออกไป
ต่อมาวันที่ 21 พ.ค. อรรฆเดช ก็ขับรถมาที่บ้านอีก ครั้งนี้มาขอเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ในตัวบ้าน แล้วก็ขับรถออกไป กระทั่งมารู้ว่าบัตร ATM ของตัวเองที่วางไว้บนโต๊ะ ได้หายไป ก็ไม่เอะใจอะไร คิดว่าหลงวางที่อื่น พอวันที่ 22 พ.ค.จึงไปแจ้งความบันทึกไว้ที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อนำหลักฐานไปทำบัตร ATM ใหม่
นายณัฐนนท์ เล่าด้วยว่า หลังแจ้งความเสร็จ ยังไม่ไปทำบัตร ATM แต่เอาสมุดบัญชีไปเบิกเงินก้อนสุดท้ายที่มีอยู่ในบัญชี 41,300 บาท ปรากฏว่าได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า”ไม่เหลือเงินในบัญชี”และคิดว่านายอรรฆเดช เป็นคนเอาไปกดเงินอย่างแน่นอน เพราะ ATM เพิ่งทำมาใหม่และเขียนรหัสเอาไว้ด้วย จึงกลับมาแจ้งความอีกครั้ง
ต่อมาทราบข่าวว่ามีคนไปขู่กรรโชกเงินพระที่ อ.นาโพธิ์ จนนำไปสู่การจับกุม เมื่อเห็นหน้าตามข่าวที่ปรากฏ จึงมั่นใจว่าเป็นคนเดียวกัน และยิ่งเจ็บใจกว่านั้น เมื่อเอาเรื่องราวมาเรียงกัน วันนั้นเท่ากับถูกนายอรรฆเดช หลอกให้เอาหน้าตาตัวเองไปยืนยันกับร้านค้าในหมู่บ้านเดียวกัน ว่าขายเหล้าให้ตนเอง แล้วขู่เอาเงินร้านค้า 10,000 บาทพร้อมเหล้าอีก 2 ขวด เพราะเป็นห้วงเวลาตามประกาศห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าเห็นหน้าอีกสักครั้งจะขอถีบหน้าทีเดียวก็หนำใจแล้ว
สามารถรับชมทางยูทูปได้ที่ :https://youtu.be/Ow4t5WJYMd4

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ