เลือกตั้งและการเมือง

3 องค์กรอิสระ ผนึกกำลังจับตาการใช้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท

โดย

6 มิ.ย. 2563

8K views

คณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา นำโดย นายกล้านรงค์ จันทิก เป็นประธานกรรมาธิการ ได้เชิญกรรมการองค์กรอิสะ 3 องค์กร ไก้แก่ สำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ,คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มาหารือถึงแนวทางป้องกันการทุจริต ในการใช้จ่ายงบประมาณเงินกู้จากพระราชกำหนดที่เกี่ยวข้องกับเงินกู้ ทั้ง 3 ฉบับ เพื่อแก้ไข เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
โดย นายกล้านรงค์ ยืนยันว่า
ยืนยันว่าทั้ง 3องค์กรให้ความสำคัญและศึกษาเรื่องนี้ทั้งแต่ต้น โดยเฉพาะความเป็นไปได้ของปัญหาการทุจริต ยืนยันว่าไม่ได้จะไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการทำงานของหน่วยงาน เพียงแต่การกู้เงินครั้งนี้เป็นเม็ดเงินจำนวนมาก จึงต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดปัญหา การทุจริต
ด้านนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การใช้งบประมาณ ส่วนนี้มีความเสี่ยงเมื่อลงเม็ดเงินลงพื้นที่ไปแล้วอาจจะรั่วไหล ได้ ซึ่งป.ป.ช. โดยสำนักเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์การทุจริตได้ศึกษา เสนอให้ คณะรัฐมนตรี รับทราบเพื่อป้องกันการทุจริตเชิงนโยบาย ยืนยันว่า การใช้งบประมาณจัดซื้อจัดจ้าง ที่มีความเสี่ยงต่อการทุจริต ป.ป.ช. จะมีการปักหมุดพื้นที่เสี่ยง และให้เครือข่าย ของ ป.ป.ช. เข้าไปสังเกตการณ์ หากมีเรื่องราวปรากฎว่ามีการทุจริต ป.ป.ช. ก็มีอำนาจสั่งไต่สวนทันที
นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยัง มีกองทุนที่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาล 10 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบอำนาจรัฐ รวมถึงใช้สำหรับคุ้มครองพยาน หากประชาชนมีการร้องเรียนเข้ามา ยืนยันว่าการได้รับงบประมาณจากรัฐบาลส่วนนี้ไม่ได้ส่งผลให้ความเข้มข้นในการตรวจสอบลดน้อยลง อย่างแน่นอน
ด้าน นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยืนยันว่า สตง. มีบทบาทในการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน รวมถึงเงินกู้ของรัฐบาล แม้เป็นเงิน นอกงบประมาณ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างโปร่งใส ซึ่ง สตง. อยากเห็นการใช้จ่ายเงินที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น ปัจจุบันมีบุคลากร ของ สตง. ทั่วประเทศคอยให้คำแนะนำ แต่ละหน่วยงาน เกี่ยวกับแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณ ส่วนข้อห่วงใยว่าการเยียวยาครั้งนี้จะเอื้อต่อนายทุนหรือไม่นั้น ยืนยันว่า สตง. เป็นผู้สอบบัญชีของการธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนั้นงบประมาณ ตาม พ.ร.ก.ที่จะนำไปช่วยเหลือ ผู้ประกอบการ ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจตรวจสอบอยู่แล้ว
ด้านนายรักเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่าในส่วนสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มีอำนาจในการตรวจสอบการทำหน้าที่ของรัฐ ซึ่งจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ตรวจฯ มีความตระหนัก ทั้งปัญหา การเยียยวประชาชน ปัญหาหน้ากากอนามัย ขาดแคลน มาโดยตลอด
โดยผู้ตรวจฯเป็นเจ้าภาพในการเชิญหน่วยที่เกี่ยวข้องมาร่วมแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพราะไม่ได้มุ่งที่จะจับผิด แต่เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา ให้การดำเนินการของภาครัฐมีความโปร่งใส เป็นการป้องกันการทุจริตตั้งแต่ต้นทาง แม้ ป.ป.ช. จะเป็นหน่วยงานหลักในการปราบปรามการทุจริต แต่ตามรัฐธรรมนูญ กำหนดให้องค์กรอิสระทำงานร่วมกัน ซึ่งมีการหารือร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนเห็นความไม่ชอบมาพากล ในการใช้จ่ายงบเงินกู้ ครั้งนี้ก็สามารถร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดินได้
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/WIhQg2tICyA

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ