สังคม

จับแฮกเกอร์แสบ ดูดข้อมูลมือถือ ขโมยเงินในบัญชี 4 แสน พบเป็นอดีตผู้สมัครพรรคดัง เอี่ยวคดีหน้ากากอนามัย

โดย

5 มิ.ย. 2563

1.6K views

ตำรวจจับแฮกเกอร์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภราดรภาพ หลอกขโมยข้อมูลส่วนตัวผู้เสียหาย ขโมยเงินจากบัญชีเกือบ 4 แสนบาท พบมีคดีฉ้อโกงติดตัวเกือบ 10 คดี รวมการฉ้อโกงหน้ากากอนามัย

พลตำรวจโทภัคพงษ์ พงศ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุม นายอานนท์วัฒน์ วรเมธชยางกูร แฮกเกอร์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภราดรภาพ ได้ที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ หลังร่วมกับพวกอีกอย่างน้อย 2 คน หลอกนำข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหาย เพื่อใช้ขโมยเงินออกจากบัญชีผู้เสียหาย มูลค่าเกือบ 4 แสนบาท

โดยผู้ต้องหา ได้มีการว่าจ้างบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการสื่อมวลชน หลอกผู้เสียหายว่าได้รับรางวัล หลังเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เป็นโทรศัพท์มือถือ ก่อนนำโทรศัพท์มือถือมามอบให้ แต่ให้ผู้เสียหายนำซิมโทรศัพท์ของตัวเองมาใส่โทรศัพท์ใหม่ จากนั้น ใช้โปรแกรมที่ฝังไว้ในโทรศัพท์ดูดข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหาย ก่อนใช้ขโมยเงินของผู้เสียหาย

จากการสืบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง โดยเลือกเหยื่อจากสื่อสังคมออนไลน์ ลักษณะเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต มีหน้าที่การงานที่ดี

จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่า นายอานนท์วัฒน์เป็นคนเรียนเก่ง ชอบศึกษาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และครอบครัวเคยส่งไปศึกษาวิชาคอมพิวเตอร์ที่ประเทศเยอรมัน 3 ปี จนมีความชำนาญด้านคอมพิวเตอร์ พอกลับมาประเทศไทยได้เข้าทำงานบริษัทเอกชนได้รับเงินเดือนสูง จึงใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย แต่เมื่อลาออกจากงาน ทำให้ไม่มีเงินใช้ จึงใช้ความชำนาญด้านคอมพิวเตอร์มากระทำความผิด และถูกดำเนินคดีในคดีฉ้อโกงอีก 9 คดี ส่วนเงินที่ได้มานำไปใช้ในชีวิตประจำวัน หลังขาดทุนในคดีฉ้อโกงหน้ากากอนามัยช่วงที่ผ่านมา

ด้านผู้เสียหายเล่าว่า หลังกลับจากพักโรงแรมแห่งหนึ่ง มีโทรศัพท์เข้ามาที่ตนเอง แสดงความยินดีที่เข้าพักโรงแรม และได้รับรางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือ โดยผู้ต้องหานัดหมายนำโทรศัพท์มาให้ด้วยตนเอง และมีการถ่ายภาพลงสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความน่าเชื่อถือ แต่ต้องใส่ซิมส่วนตัวเข้าไปในโทรศัพท์มือถือที่เป็นรางวัล โดยอ้างว่าเพื่อยืนยันการรับรางวัล หลังจากนั้น ประมาณ 1 ชั่วโมง เงินในบัญชีตัวถูกโอนออกเกือบ 4 แสนบาท และส่วนตัวไม่เคยรู้จักผู้ต้องหามาก่อน

ด้านนายนิวัฒน์ อดีตผู้ที่ทำงานด้านสื่อมวลชน ซึ่งตำรวจกันไว้เป็นพยาน ยืนยันว่า ไม่รู้จักผู้ต้องหามาก่อน โดยตัวเองรับงานฟรีแลนซ์ ผ่านระบบงานทางอินเตอร์เน็ต แต่เนื่องจากการหลอกลวงเป็นรูปแบบใหม่ จึงไม่ทราบและไม่มีส่วนรู้เห็นในขบวนการหลอกลวงนี้

ขณะที่ตำรวจแจ้งเตือนว่า หากเกิดกรณีเช่นนี้ หากโทรศัพท์มือถือไม่ใช่ของตัวเอง ขอให้มีการล้างข้อมูลในเครื่องก่อนใช้งาน เนื่องจากอาจมีฝังโปรแกรมดูดข้อมูล เพื่อสร้างความเสียหายไว้

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/2lnovP1mhT0

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ