ไทยEnglish

สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 3 มิ.ย.63 เปิด 2 โมเดลหยุดชดเชยสงกรานต์ - หนุ่มจีนเช่าโกดังปลูกกัญชาขาย - กินเมล็ดกระท้อนทำไส้ทะลุ

โดย

3 มิ.ย. 2563

3.5K views

-เปิดหลุมศพนำร่างเหลือเพียงโครงกระดูกของ น้องออย โคโยตี้สาว บรรจุโลงกลับบ้านเกิด จ.เพชรบูรณ์ เพื่อบำเพ็ญกุศล แม่ปล่อยโฮร่ำไห้ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ บอก "ออยกลับบ้านเรานะลูก" ด้านเพื่อนมั่นใจถูกฆ่า น่าจะเป็นฝีมือของแฟนหนุ่มคนไทย เคยเห็นทุบตีทำร้ายร่างกาย 
บรรยากาศงานศพคืนแรก เด็กหญิงวัย 11 ขวบ ลูกเพื่อนออย มีอาการคล้ายผีเข้า ชาวบ้านเชื่อเป็นวิญญาณออย เด็กบอกถูกทุบหัว ถูกเอาร่างไปทิ้งน้ำทั้งที่ยังไม่ตาย 
-ศาลไม่ให้ประกันพ่อเลี้ยงที่อ้างตัวเป็นองค์เทพ ข่มขืนลูกเลี้ยงวัย 14 ปี หลังเมียพาเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.หนองหงส์ ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง เจ้าตัวรับข่มขืนลูกเลี้ยงจนตั้งท้องจริง
ส่วนป้าของเด็กเผยหลานสาวกับพ่อเลี้ยงชอบไปดูหมอ มีความเชื่อเรื่องผี เรื่องเจ้า คอยเตือนตลอดให้ระวังตัว เพราะพ่อเลี้ยงมีพฤติกรรมห้ามไม่ให้หลานไปคบเพื่อนชาย ไม่ให้ไปไหนกับใคร ห้ามมีแฟน ถ้าออกจากบ้านก็มักจะโทรศัพท์ตาม เหมือนหึงหวง เสียใจมาก ไม่คิดว่านายวีจะทำ ทั้งที่เลี้ยงเด็กมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ และแค้นแทนหลานที่แม่เข้าข้างสามี
-กระทรวงวัฒนธรรม เปิดโมเดลวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ แบบแรกเสนอหยุด 7-9 ก.ค. ต่อจากวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา แบบที่ 2 เสนอหยุด 29-31 ก.ค. ต่อจากวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านนายกฯขออย่าเร่งรัดผ่อนปรนระยะ 4  
-ศบค. แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1 คน เสียชีวิต 1 ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรวม 3,083 คน รักษาหาย 2,966 คน อยู่โรงพยาบาล 59 คน และ เสียชีวิตรวม 58 คน สำหรับผู้ป่วยรายใหม่เป็นชายไทยวัย 32 ปี กลับจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย อายุ 80 ปี ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ระหว่างที่อยู่ในห้อง ICU ได้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน นอกจากนี้บุตรชายและบุตรสาวที่ไปเยี่ยมก็ติดเชื้อเช่นกัน
-พล.อ.ประยุทธ์ จัยทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาในพรรคพลังประชารัฐ ภายหลังคณะกรรมการบริหารลาออกเกินกึ่งหนึ่ง ว่าเรื่องการเมืองตนไม่อยากพูดตรงนี้มากนัก เพราะเป็นเรื่องการเมืองในระดับพรรคการเมือง ซึ่งก็เป็นกันทุกพรรค ตนไม่อยากจะไปชี้แจง แก้ไขหรือแก้ตัวอะไรให้ใคร แต่ตนจะยุ่งเกี่ยวในเรื่องของรัฐบาลและเรื่องของการร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล แต่เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองก็ไปว่ากันมา แต่อย่าไปดราม่ากันจนเยอะแยะไปหมด เพราะจะทำให้สมองไม่ว่าง
ส่วนเรื่องว่าจะต้องมีการเรียก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปรับความเข้าใจหรือไม่ ไม่จำเป็น เพราะเป็นเรื่องของพรรคให้คุยกัน ภายในพรรค ไม่จำเป็นต้องไปเรียกใครมาปรับความเข้าใจทั้งสิ้น 
ด้านรองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องภายในพรรคและพี่น้องต้องมานั่งคุยกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย น่าจะเอาพลังที่มีอยู่ไปใช้ในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ส่วนตัวไม่ได้แนะนำอะไรเพราะตนเองและนายกรัฐมนตรีไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคการเมือง บอกผ่านมาทุกคนทำงานอย่างหนัก และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อีกทั้งข้างหน้ายังมีประชาชนเดือดร้อนอีกมาก จึงอยากให้คิดถึงตรงนี้ให้มาก ๆ
พร้อมระบุว่าไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นอะไรกัน ก่อนจะถามสื่อว่า "เบื่อไหม" ส่วนการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลจะส่งผลต่อการปรับคณะรัฐมนตรีสายเศรษฐกิจหรือไม่นั้น ตนก็ไม่รู้ 
-ครม.ไฟเขียวออก พ.ร.ก.ลดภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้างลง 90% เฉพาะปี 63 กำหนดจ่ายสิงหาคมนี้ ถือเป็นอัตราสูงสุดที่ลดได้ตามกฎหมาย 
ยกตัวอย่างกรณีเกษตรกรรม ถ้าเจ้าของเป็นบุคคลธรรมดา จะได้รับการยกเว้น 3 ปีแรกอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นนิติบุคคล ที่ดินที่มีมูลค่าราคาประเมิน 5 ล้านบาท เดิมจะเสียในอัตรา 0.01 % หรือ เท่ากับ 500 บาท เมื่อลด 90 % จะเสียเพียง 50 บาท ส่วนกรณีที่อยู่อาศัย หากมีราคาประเมิน 5 ล้านบาท เดิมจะเสียในอัตรา 0.02 % คิดเป็นภาษี 1,000 บาท เเต่เมื่อลด 90 % จะเสียเพียง 100 บาท เท่านั้น
และกรณีที่ดินรกร้างและสิ่้งปลูกสร้างเชิงพาณิชยกรรม ราคาประเมิน 5 ล้านบาท ซึ่งเดิมต้องเสียร้อยละ 0.3% คิดเป็นภาษี 15,000 บาท แต่เมื่อลด 90% จะเหลือเพียง 1,500 บาท ส่วนผลกระทบต่อรายได้ของท้องถิ่น จากการจัดเก็บภาษีที่ปรับลดลง รัฐบาลจะมีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งจะมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ยังขยายระยะเวลาในการยื่นชำระภาษีรายได้บุคคลธรรมดาออกไปอีก 2 เดือน จากเดิมที่เคยขยายเวลาให้ยื่นแบบภาษีได้ไม่เกินเดือนมิถุนายน เป็นเดือนสิงหาคม 63 (ไก่)
-ลิซ่า BLACKPINK ถูกอดีตผู้จัดการโกงเงิน 1 พันล้านวอน หรือประมาณ 25 ล้าน 8 แสนบาท ซึ่ง YG Entertainment ยืนยันข่าวนี้แล้ว โดยอดีตผู้จัดการอ้างกับลิซ่า ว่าจะช่วยนำเงินไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ แต่กลับนำไปเล่นพนันจนหมด
ทั้งนี้ อดีตผู้จัดการคนนี้ทำงานกับ BLACKPINK มาตั้งแต่เดบิวท์ และสมาชิกทั้งหมดไว้วางใจเป็นอย่างมาก แหล่งข่าวระบุว่า เนื่องจากลิซ่าเป็นสมาชิกในวงที่เป็นชาวต่างชาติ ต้องมาใช้ชีวิตในเกาหลีด้วยตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย เธอจึงตกเป็นเหยื่อได้ง่าย  
อย่างไรก็ตาม ลิซ่าต้องการให้แก้ไขเรื่องนี้อย่างประนีประนอม และอดีตผู้จัดการได้คืนเงินบางส่วน และออกจากบริษัทแล้ว หลังจากที่ตกลงจะคืนเงินที่เหลือให้ทั้งหมด 
-พ่อเฒ่าวัย 80 ปี คว้ามีดแทงลูกชายเลือดสาดเจ็บปางตาย หลังถูกลูกชายต่อว่าเรื่องตีหลาน เหตุเกิดที่ จ.ปทุมธานี ผู้บาดเจ็บคือ นายกิตติ อายุ 54 ปี ถูกแทงด้วยมีดบริเวณหลัง 1 แผล, ศีรษะ 1 แผล และลำคอ 1 แผล ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสุวัสส์ อายุ 80 ปี
สอบถาม ภรรยาของผู้ก่อเหตุ และเป็นแม่คนเจ็บ บอกว่า เมื่อ 2 วันก่อน สามีได้นำหนังสือพิมพ์มาตีหลานเข้าที่ดวงตา และลูกชายเห็นก็เข้ามาห้ามไม่ให้ตี ซึ่งคาดทำให้สามีเก็บกดมาตลอด กระทั่งช่วงเช้า สามีถามว่า "มีดอยู่ตรงไหน" ลูกสะใภ้จึงหยิบมาให้ และนำมีดมาก่อเหตุดังกล่าว
-ล่าตัว เสี่ยไฮ้ เจ้าของโรงปุ๋ย กับลูกน้องคนสนิท 2 ผู้ต้องหา สังหารโหดเซลล์สาวหมกรถเก๋ง ทิ้งคลองนานกว่า 3 ปี ภายหลังถูกจับกุมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่สำนวนคดีสั่งฟ้องไม่ทันจนครบกำหนดฝากขัง ต้องปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ก่อนเผ่นหนีหายทั้งคู่
นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า คดีนี้เมื่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองโดน ส่งสำนวนให้อัยการอัยการจังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 12 มี.ค.63 เป็นการรับสำนวนในระหว่างการฝากขัง นายสันติ หรือไฮ้ จึงทองดี อายุ 63 ปี และนายนิวัฒน์ เฉลิมวัฒน์ อายุ 37 ปี ลูกน้องคนสนิท เป็นครั้งที่ 7 โดยจะครบกำหนดฝากขัง 84 วันสุดท้ายในวันที่ 13 มี.ค. เท่ากับเหลือเวลาให้อัยการพิจารณาเพียง 1 วัน ทำให้ไม่สามารถที่จะยื่นฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลใด้ทันภายในวันที่ 13 มี.ค. ได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุม นายมาโนช สอบสวัสดิ์ ผู้ต้องหาที่ 3 ได้ คณะทำงานจึงพิจารณามีคำสั่งทันทีในวันที่ 8 พ.ค. โดยมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 3 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาช่วยกันซ่อนเร้นทำลายศพและทำให้เสียทรัพย์
ส่วนผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ที่ปล่อยตัวไป พนักงานอัยการได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนไปนำตัวมาส่งให้อัยการในวันที่ 26 พ.ค. ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้งสองไม่มาตามกำหนดนัด พนักงานอัยการจึงแจ้งให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองโดน ดำเนินการขอศาลจังหวัดสระบุรี ออกหมายจับนายสันติ และนายนิวัฒน์ ในวันที่ 27 พ.ค. ขณะนี้อยู่ระหว่างที่พนักงานสอบสวนจะต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองมายื่นฟ้องต่อศาลต่อไป  
-หนุ่มจีนหัวใสเช่าโกดังย่านอ่อนนุช ปลูกกัญชาออแกนิค ส่งขายกิโลกรัมละ 7 แสนบาท ตำรวจนครบาลทองหล่อคุมตัว นาย วู ดิง บิน อายุ 41 ปี สัญชาติจีน มาที่โกดังแห่งหนึ่ง ภายในซอยอ่อนนุช 82 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ซึ่งด้านในดัดแปลงเป็นห้องปรับอุณหภูมิ แอบปลูกต้นกัญชาไว้ราว 1,000 ต้น
แต่นาย วู ดิง บิน ปฏิเสธ อ้างแค่มีหน้าที่เป็นช่างดูแลระบบไฟฟ้าภายในพื้นที่โกดัง ตำรวจยืนยันมีพยานบุคคล และพยานหลักฐาน ซัดทอด ประกอบกับเจ้าของโกดังให้เช่า ผิดสังเกต ค่าเช่าโกดัง 4 หมื่น แต่ค่าไฟสูงถึงเดือนละกว่า 7 หมื่นบาท เบื้องต้นแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายกฎหมาย และผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย
-หมอเตือนกินเมล็ดกระท้อน อาจทำลำไส้ทะลุ นพ.จิรัชย์ จิรธรรมโอภาส แพทย์ชำนาญการแผนกศัลยกรรม โรงบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา โพสต์เตือนภัย หลังมีคนไข้อายุ 78 ปีมารักษา "เมล็ดกระท้อนตำไส้ทะลุ" ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยเนื่องจากผู้สูงอายุไม่มีฟัน เวลากินกระท้อนชอบดูดเมล็ด ดูดเพลิน ๆ เมล็ดหลุดลงคอ
คนไข้มาถึง รพ.ส่วนใหญ่ อาการมักจะรุนแรง ความดันตก ต้องให้ยากระตุ้น บางรายคนไข้มีแผลผ่าตัดยาวกลางท้อง ตัดไส้ที่แตกออก หลังผ่าตัดต้องนอนอยู่ในห้อง ICU ให้น้ำเกลือจนตัวบวม ยาฆ่าเชื้อ ยากระตุ้น ใส่สายจมูก สายสวนปัสสาวะ ทีมบุคลากรต้องเฝ้าไข้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ คนไข้ต้องอยู่กับการถ่ายทางหน้าท้อง อย่างน้อย 6 เดือน แล้วต้องกลับมาเจ็บตัวอีกรอบ เพื่อผ่าตัดปิดทวารเทียม เตือนหากจะกินกระท้อนให้ควักเมล็ดออก 
-ระทึก ผู้ป่วยคลุ้มคลั่งโดดตึก รพ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้ป่วยคลุ้มคลั่งจะกระโดดตึกอายุกรรม ที่โรงพยาบาลชุมแพ บริเวณระเบียงชั้น 2 พบนายประยงค์ อายุ 34 ปี ผู้ป่วยยาเสพติด ซึ่งส่งตัวมารักษาบำบัด คลุ้มคลั่งยืนอยู่ที่ริมระเบียง จนท.เข้าเจรจาเกลี่ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมง จนสำเร็จ ก่อนนำตัวลงมารักษา
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ป่วยถูกส่งตัวมารักษาอาการป่วยยาเสพติด ได้ 3 วันแล้ว ช่วงแรกได้ใช้สายรัดผูกมัดติดกับเตียงไว้ แพทย์เห็นอาการดีขึ้น จึงได้ถอดสายรัดออก หลังจากนั้นผู้ป่วยอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอ เดินออกมาที่ระเบียงชั้น 3 ก่อนกระโดดลงด้ายล่างทันที โชคดีที่ไปติดอยู่ที่หลังคาระเบียงชั้น 2 และเตรียมจะกระโดดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าเกิดอาการเครียดในระหว่างรักษาตัวอยากกลับบ้าน จึงตัดสินใจคิดสั้นดังกล่าว
-แม่บ้านปั๊มน้ำมันผงะ เตรียมทำความสะอาดห้องน้ำ เปิดฝาชักโครกพบทารกเสียชีวิตอยู่ในโถส้วม เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ 191 จ.มหาสารคาม ได้รับแจ้งพบศพเด็กทารกอยู่ในชักโครก ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ที่เกิดเหตุในห้องน้ำผู้สูงอายุ ผู้พิการ และหญิงตั้งครรภ์ พบเด็กทารกยังมีรกติดอยู่กับสายสะดืออยู่ในชักโครก มีถุงน้ำครอบตัวทารกอยู่
แม่บ้านประจำปั๊ม เล่าว่า ขณะกำลังจะทำความสะอาด พอเปิดฝาชักโครก ก็พบรกดำ ๆ อยู่ในโถส้วม และมีเลือดเต็มไปหมด จากนั้นจึงได้คีบเอารกออก จนเห็นตัวเด็ก สภาพแขนขาครบสมบูรณ์ จึงได้แจ้ง ผจก.ปั๊ม โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/nAlRiXr2iwc

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของคุกกี้ที่เราจัดเก็บ เหตุผลในการใช้คุกกี้ และวิธีการตั้งค่าคุกกี้ได้ใน นโยบายคุกกี้

ยอมรับ

3Plus Premium

LIVEดูทีวีออนไลน์