สรุปข่าว

ประเด็นข่าวรอบวัน 30 พ.ค.63 - พบมูลทุจริตเบี้ยเลี้ยงกรมสรรพาวุธทหารบก / ผลตรวจสารเคมีต้องสงสัย 'คดีแม่ปุ๊ก' เสร็จสิ้นแล้ว

โดย

30 พ.ค. 2563

1.6K views

สั่งไล่ออกครูล่วงละเมิดหลานสาว จ.นครพนม
คืบหน้ากรณี นายวีระชัย คำแพงดี หรือจ่อย อายุ 52 ปี ครูอัตราจ้างโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม เขตเทศบาลเมืองนครพนม ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม จับกุมในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหลานสาววัย 15 ปี ที่น้องเมียนำมาฝากไว้เรียนในระดับชั้นมัธยมตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
หลังศาลจังหวัดนครพนม ไม่อนุญาตให้ประกันตัว นายวีระชัยหรือจ่อยก็ถูกส่งเข้าเรือนจำฯทันที โดยเจ้าหน้าที่ผู้คุมขังได้นำตัวไปกักยังสถานพยาบาลภายในเรือนจำฯ ตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งผู้คุมขังเผยสั้นๆว่า ผู้ต้องขังในแดนแรกรับทุกรายที่เข้ามาจะมีความเครียดหมด โดยอาการที่พบบ่อยคือจะนอนไม่หลับกระสับกระส่าย แต่ทางเรือนจำฯ ก็มีมาตรฐานการควบคุมดูแลอย่างดี
ล่าสุด นายอำนาจ วิชายานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับรายงานจากทางเขตพื้นที่การศึกษาที่ 22 แล้ว และได้มีคำสั่งไล่ออกครูรายดังกล่าวทันที เนื่องจากไม่ใช่ข้าราชการ แต่เป็นพนักงานราชการที่จ้างสอนทดแทนอัตราครูที่ขาดแคลนเท่านั้น จึงสามารถไล่ออกได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งกรรมการสอยสวนทางวินัย ส่วนคดีอาญาก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีไปตามกฎหมายต่อไป
พบมูลความผิดทุจริตเบี้ยเลี้ยง กรมสรรพาวุธทหารบก
พล.อ.อภิรัชต์ คมสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งตั้งคณะกรรมการโดยมี นายทหารระดับพลเอก เป็นประธาน สอบสวน กรณี ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ หมู่อาร์ม เสมียนงบประมาณแผนกโครงการและงบประมาณกองแผน โครงการศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์ กรมสรรพวุธทหารบก ร้องเรียนถูกผู้บังคับบัญชา ข่มขู่ คุกคามเอาชีวิต อันเนื่องมาจากออกมาเปิดเผยปัญหาทุจริตเบี้ยเลี้ยงภายในกรมสรรพวุธทหารบก
โดยทางคณะกรรมการ ได้พิจารณาตรวจสอบเรียบร้อยแล้วใน 2 ประเด็น คือ ประเด็นการทุจริต เบี้ยเลี้ยงภายในกรมสรรพวุธทหารบก พบว่ามีมูล จึงทำเรื่องเสนอให้ พล.อ.อภิรัชต์ ลงนาม ส่งให้ คณะกรรมการปราบปรามการทุจริจแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ในเร็ววันนี้ ส่วน การข่มขู่ คุกคามเอาชีวิต ไม่มีมูล โดย พล.อ.อภิรัชต์ ได้ระบุว่า “กำลังพลคนไหน ทุจริต ประพฤติมิชอบ ทำผิดวินัยทหาร ไม่เลี้ยงไว้”
ส่วน กรณี หมู่อาร์ม ได้กระทำผิดวินัยทหารร้ายแรง คือ หนีทหาร ทางต้นสังกัด จะตั้งคณะกรรมสอบสวน หากขาดราชการเกิน 15 วัน ในวันที่ 16 ถือว่า หนีทหาร และขณะนี้ หมู่อาร์ม ไม่ได้กลับไปปฏิบัติงานในหน่วย เกิน 16 วันแล้ว จากนั้นต้นสังกัดจะส่งให้ศาลทหารพิจารณาออกหมายจับ ตามประมวลกฎหมายอาญาทหาร ฐานหนีราชการในเวลาปกติ หากเกิน 15 วัน มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ควบคู่ไปกับ การดำเนินการความผิดทางวินัยร้ายแรง ตั้งกรรมการสอบ ดำเนินการ ปลด ถอดยศ และจะประกาศในราชกิจจาต่อไป
ผลตรวจสารเคมีต้องสงสัย คดีแม่วางยาลูกเสร็จสิ้นแล้ว
ผลการตรวจขวดและภาชนะบรรจุสารเคมีต้องสงสัย ที่พนักงานสอบสวนกองปราบปรามตรวจยึดได้ในบ้านของนางสาวปุ๊ก ที่ก่อเหตุวางยาลูก เพื่อขอรับเงินบริจาค โดยในส่วนของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ได้เก็บดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือที่อยู่โดยรอบขวดไปตรวจเปรียบเทียบกับหลักฐานที่เก็บได้จากผู้ต้องหา และสิ่งของส่วนตัวภายในบ้าน ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาขวดดังกล่าวบ้าง ซึ่งผลการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว และได้ส่งรายงานให้กับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามนำไปประกอบสำนวนการสอบสวนแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า มีดีเอ็นเอของบุคคลใดบ้าง
ขณะเดียวกันสารเคมีภายในขวดจะเป็นตัวยาชนิดใดบ้างนั้นยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เป็นผู้ตรวจพิสูจน์ เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบยามากกว่าสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งก็ได้ชี้แจงให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับรายงานผลลายนิ้วมือ หรือผลตรวจดีเอ็นเอจากพนักงานสอบสวน แต่หากทางกองพิสูจน์หลักฐานส่งรายงานผลมาให้พนักงานสอบสวนแล้ว ก็ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ว่ามีลายนิ้วมือหรือดีเอ็นเอของบุคคลใดบ้าง แต่เบื้องต้นในส่วนของสารเคมีต้องสงสัย หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้ส่งไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ระบุชนิดแล้ว เมื่อวานนี้พนักงานสอบสวนก็ได้เร่งรัดสอบถามความคืบหน้าไปแล้ว ทราบว่าผู้มีอำนาจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างให้ความสนใจกับคดีนี้ และกำลังเร่งผลการตรวจสอบให้อยู่ แต่เนื่องจากเป็นคดีละเอียดอ่อน และต้องการความถูกต้อง จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบดังกล่าวอย่างละเอียด และยังไม่ทราบผลการตรวจในขณะนี้
ส่วนการประสานกรมราชทัณฑ์เพื่อขอให้มีการตรวจสุขภาพจิตนางสาวปุ๊กนั้น พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือขอไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับมา อย่างไรก็ตามการตรวจสุขภาพจิตผู้ต้องหา สามารถให้จิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญของราชทัณฑ์ดำเนินการตรวจได้เลย โดยไม่ต้องให้พนักงานสอบสวนเข้าร่วมสังเกตการณ์ และหากตรวจแล้วเสร็จจึงจะรายงานผลกลับมาที่พนักงานสอบสวน เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีต่อไป
จับแก๊งพนันออนไลน์รายใหญ่ในแม่สอด
ผบช.สตม.ได้รับรายงานว่ามีกลุ่มลักลอบย้ายบ่อนพนันออนไลน์จากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาเช่าพื้นที่ดังกล่าวเปิดบ่อนพนันอ่อนไลน์ เป็นรายใหญ่ที่สุดของประเทศเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.สังคม ผกก.ตม.ตาก นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตม 3 ตม.5 ชุดสืบสวน สภ.แม่สอด ทหาร ฉก ร 4 ด่านศุลกากรแม่สอด ฝ่ายปกครองแม่สอด ถือหมายค้นศาลจังหวัดแม่สอด บุกเข้าทำการจับกุมบ่อนพนันออนไลน์ ยังบ้านเป้าหมายถึง 2 จุด
เบื้องต้น ตรวจสอบพบว่าบ้านพักดังกล่าวตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านกาสะลอง  อ.แม่สอด จ.ตาก พบว่าข้างในบ้านมีตั้งโต๊ะคอม จำนวน 7 ชุด ใหญ่ มีพนักงานนั่งอยู่ประจำหน้าคอมผลัดเปลี่ยนราว 3 กะ ละ 8 ชั่วโมง มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่ระหว่างจับกุม สามารถจับกุมผู้ต้องหาคนไทยได้ 5 ราย ส่วนต่างต่างด้าว 20 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และ ชาวไทยอีก 10 ราย ไปจับได้อีกแห่งหนึ่งซึ่งคาดว่าจะเป็นขบวนการเดียวกัน ซึ่งมีประสานหน่วยงานด้านอาชญากรรมข้ามชาติทำการยกเลิกวีซ่าทันที
ทั้งนี้ มีการตรวจยึดของกลาง ชุดคอมพิวเตอร์ 7 เครื่อง มือถือ 14 เครื่อง สมุดบันทึกข้อความการชักชวนเล่นพนันออนไลน์ จำนวน 76 รายการ พบหลักฐานมีเว็บไซต์ทั้งหมด 2 เว็บ มีการเคลื่อนไหวชักชวนลูกค้าเล่นพนันออนไลน์ และพบสมุดบัญชีธนาคารมากกว่า 50 เล่ม เอทีเอ็มรุดเงินอีก 50 บัญชี ซิมหลากยี่ห้อ กว่า 2,500 ซิม พบว่า มีเงินหมุดเวียนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่วนอีก 1 จุด ทหาร ฉก ร 4 กับ ด่านศุลกากรแม่สอดยึด เครื่องเซอร์เวอร์ คอมจำนวนกว่า 10 เครื่องขณะลักลอบขนข้ามฝั่งไปประเทศเพื่อนบ้าน
ผบช.สตม.กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ ทำให้ประชาชนอยู่บ้าน ทำให้พนันออนไลน์ต่างๆ เข้ามาชักชวนเยาวชน ร่วมไปถึงผู้ที่อยู่บ้าน นักเรียน นักศึกษาทำให้การเข้าถึงพนันออนไลน์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ฝากเตือนผู้ปกครองให้สอดส่องบุตรหลาน หากใช้เงินผิดปกติ ให้รู้ว่า มีการเข้าถึงการพนันอย่างแน่นอน จากนี้เจ้าหน้าที่เตรียมขยายผล ยึดทรัพย์บ่อนพนันดังกล่าว และดำเนินคดีต่อไป
ชาวอเมริกันประท้วงเรียกน้องความยุติธรรมให้ 'จอร์จ ฟลอยด์'
ชาวอเมริกันยังคงรวมตัวประท้วงในหลายพื้นที่รวมถึงบริเวณทำเนียบขาว เพื่อแสดงความไม่พอใจกรณีที่ตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุในการควบคุมตัวจอร์จ ฟรอยด์ (George Floyd) ชายผิวสีที่ต้องสงสัยว่าใช้ธนบัตรปลอมในเมืองมินนิแอโพลิส (Minneapolis) รัฐมินเนโซต้า ที่แม้ผู้ว่าการรัฐมินเนโซต้าจะประกาศห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 20 นาฬิกา แต่ก็ยังคงมีชาวอเมริกันออกมาประท้วงต่อเนื่อง 
ล่าสุด มีรายงานว่า อดีตตำรวจผิวขาวที่ใช้เข่ากดคอจอร์จ ฟรอยด์ ลงกับพื้นจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ถูกจับกุมในความผิดฐานฆ่าคนตายแล้ว ขณะที่ทวิตเตอร์ แนบคำเตือนพร้อมซ่อนทวีตที่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่า หากเกิดเหตุจลาจลในการประท้วงกรณีดังกล่าว ทางการก็พร้อมยิงผู้ชุมนุม

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ