เลือกตั้งและการเมือง

พรรคร่วมรัฐบาล เห็นด้วย พรรคฝ่ายค้าน จับมือยื่นตรวจสอบการใช้เงินกู้โควิด-19

โดย

30 พ.ค. 2563

750 views

ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมรวบรวมรายชื่อกับฝ่ายค้าน เสนอตั้ง คณะกรรมการธิการ ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินตามพระราชกำหนดกู้เงิน 3 ฉบับ ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ตอบโต้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่อภิปรายแก้ปัญหาเศรษฐกิจจากโควิด-19 ไม่ถูกจุด
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปรายต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณา พระราชกำหนด กู้เงิน 3 ฉบับ ว่า ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่ต้องมีการกู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่ผ่านมา มีความสับสนในช่วงแรกทำให้ประชาชนไม่พอใจ แต่ยังดีที่รัฐบาลกลับตัวได้และสามารถป้องกันโควิด-19 ได้ดีในตอนนี้
ส่วนกรณีที่รัฐบาลแก้ปัญหาด้วยการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ไม่ทราบว่าใช้จากงบประมาณ ปี 2563 จำนวนเท่าใด แต่จากการประมาณการณ์และคาดการณ์ของสถาบันการเงินต่างๆ เชื่อว่ารัฐบาลจะติดลบ และส่งผลให้เศรษฐกิจพัง ทั้งนี้จากการเสนอตัวเลขตอน ทำ พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ประมาณการณ์ว่าจะมีรายได้ 2.7 ล้านล้านบาท แต่เชื่อว่าการจัดเก็บรายได้นั้นจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายแน่นอน และเศรษฐกิจของประเทศติดลบ 
นายมิ่งขวัญ กล่าวตำหนิทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ใช้งบกลาง 5 แสนล้านบาท จนหมด ภายใน 2-3 เดือน จากการนำใช้ในโครงการ ชิมช้อปใช้ ซึ่งเป็นการนำเงินไปเทใส่กระเป๋าเจ้าสัว ถ้าตอนนี้รัฐบาลนำเงินก้อนนั้นมาใช้ในช่วงโควิด-19 ก็จะดีกว่านี้ อีกทั้งยังต้องขอกู้เงินอีก ซึ่งเรื่องนี้ต้องถูกจับตา เพราะใช้เงินจำนวนมาก และจะใช้เงินกู้ เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอีก ซึ่งตนเชื่อว่าการจ่ายเงินจากส่วนกลาง แทนการใช้องค์กรท้องถิ่นดำเนินการทั้งที่ส่วนท้องถิ่นจะรู้สภาพปัญหามากกว่า ว่าใครจน ใครรวย ซึ่งเรื่องนี้ อาจมีทุจริตเกิดขึ้นแน่ สำหรับการบริหารและแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี  ตอบโต้นายมิ่งขวัญ ยืนยัน ไม่ได้ทำเศรษฐกิจพัง แล้วจะต้องมากู้เงิน พร้อมทั้งยกเหตุการณ์เมื่อ 10 ปีที่แล้วมาเปรียบเทียบ ซึ่งย้ำว่าหนี้สาธารณะอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด สามารถกู้เงินเพิ่มเติม มาลงทุน พัฒนา และแก้ปัญหาประเทศได้ หากไม่มีสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นเหตุที่คาดไม่ถึง ก็ไม่มีการกู้เงินอยู่แล้ว
ขณะที่ ส.ส.ภูมิใจไทย รวบรวมรายชื่อ ส.ส.พรรค ก้าวไกล ยื่นญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบการใช้เงินกู้ ชี้ ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. เชื่อรัฐบาลเข้าใจเจตนาที่ดี 
โดยนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พร้อมด้วยนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ยื่นญัตติ ขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตาม ตรวจสอบ การใช้จ่ายเงินจากการกู้เงินตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากเห็นว่า ไม่มีรายละเอียดของโครงการ เกรงว่า จะมีการใช้จ่ายไม่ตรงตามเป้าหมาย ไม่โปร่งใส หากมีการรั่วไหล จะสร้างความเสียหายซ้ำเติมประชาชนมากขึ้น
เมื่อถามว่า ได้หารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือไม่ นายภราดร มองว่าเป็นเอกสิทธิ์ ของ ส.ส.ที่จะสามารถทำได้ และ มีเจตนาดีที่จะช่วยรัฐบาลในการตรวจสอบเงินกู้นี้ โดยได้รวบรวมรายชื่อสมาชิกมาทั้งหมด 20 รายชื่อ ประกอบด้วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ 
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านเสนอตั้งกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณ ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท ว่า จนถึงขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังนิ่งเฉย ทั้งที่ข้อเสนอเหล่านี้สำคัญต่อประชาชน เพราะช่วยตรวจสอบงบประมาณ ทำให้การเบิกจ่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ยืนยันว่าการตรวจสอบไม่ทำให้ช้า หรือติดขัด
นายชัยธวัช ย้ำว่า ข้อเสนอการตั้ง กมธ.วิสามัญชุดนี้ ไม่ใช่เพียงตรวจสอบ พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ 1 ล้านล้านบาท แต่จะตรวจสอบ งบกลาง ที่จะพิจารณา พ.ร.บ.โอนงบประมาณปี 2563 มีมูลค่าสูงถึง 80,000 ล้านบาท เข้าสู่สภาในสัปดาห์หน้าด้วย และกรรมาธิการ.วิสามัญชุดนี้ จะติดตามตรวจสอบมาตรการของรัฐแม้ไม่เกี่ยวกับงบประมาณ เช่น การประกาศเคอร์ฟิวส์ และการขยายเวลาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การผ่อนปรนสถานที่ต่างๆ
สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฏรวันพรุ่งนี้ จะมีการลงมติ ที่ละฉบับ โดยให้ลงมติแบบเปิดเผย คาดว่าจะลงมติ ได้ในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ