อาชญากรรม

รวบยกทีม 5 โจ๋ ฆ่าเพื่อนยัดกระสอบ-ฝังดินกลางป่า เหตุคิดว่าผู้ตายเป็นสาย ตร.

โดย

30 พ.ค. 2563

3.4K views

ความคืบหน้าคดีฆ่า นายฟิล์ม ซึ่งหายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคมที่ ผ่านมา เป็นเวลา 20 วัน และล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 28 พ.8.ที่ผ่านมา พบศพถูกฆ่ายัดใส่ถุงดำและกระสอบปุ๋ยนำไปขุดหลุมฝังไว้ในพงหญ้า ริมถนนสายเอเชีย พื้นที่ หมู่ 6 ต.พิจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลา ส่วนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายคนร้ายได้นำไปทิ้งในบ่อปลาร้างในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านทุ่งโหนด ต.นาหม่อม
โดยก่อนที่จะพบศพในช่วงบ่าย 3 โมง เมื่อวันที่ 28 พ.ค. เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสสำคัญจากเลสข้อมือ ซึ่งตกอยู่ข้างขนำในสวนมะพร้าว พื้นที่บ้านนาต้นปีก หมู่ 8 ต.ทุ่งขมิ้น อ.นาหม่อม จ.สงขลา ซึ่งทีแรกคาดว่า อาจจะถูกฆ่าฝังดินในสวนมะพร้าว เพราะ พบชิ้นส่วนกระดูก แต่ปรากกว่าไม่ใช่
ล่าสุดคดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ยกทีมทั้งหมด 5 คน ซึ่งทั้งผู้ก่อเหตุและผู้ตายเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันและมั่วสุมเสพยาเสพติดด้วยกัน โดยเมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (29 พ.ค.) ที่ สภ.นาหม่อม จ.สงขลา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ได้แถลงข่าวรายละเอียดของคดีนี้
โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบ นายนัฐศาสตร์ หรือ นิว แก้วทองกุล อายุ 24 ปี , นายวรากร หรือ กร ปานเมือง อายุ 30 ปี , นายอภิรักษ์ หรือ มิน สะอาด อายุ 26 ปี , นายพงศธร หรือ โอม พืชน์ไพฑูรย์ อายุ 23 ปี และ นายกิตติพัฒน์ หรือ ต้น แก้วสกูล อายุ 30 ปี
ซึ่งเป็นการจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนฯ และ ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งในชั้นการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
นอกจากนี้หน้าที่ได้ยึดของกลางในคดีนี้อีก 7 รายการ ประกอบด้วย สร้อยข้อมือที่พบข้างขนำจุดแรก อาวุธปืนพกสั้นขนาด.38 ที่ใช้ยิง กระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 4 นัด ซองปืนผ้าจำนวน 1 ซอง รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 125 สีม่วง คมค-384 สงขลา หมายเลขเครื่องมีร่องรอยการขูดลบ ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย หัวกระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 1 หัว ในศพของผู้ตาย และ จอบ 1 เล่ม ที่ใช้ตีหัวผู้ตาย
ผู้บัญชาการตำรวจภูธ รภาค 9 เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้มีสาเหตุมาจาก นายฟิล์ม ผู้ตายมีเรื่องกับ นายนิว หนึ่งในคนร้าย เพราะนิว เข้าใจว่า นายฟิล์ม เป็นสายให้ตำรวจไปแจ้งจับแม่ของตนซึ่งถูกตำรวจจับคดียาเสพติดที่บ้านพักก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องราว 2 สัปดาห์
และในวันเกิดเหตุซึ่งเป็นคืนวันที่ 10 พฤษภาคม ช่วงตี 3 นายวรัญชิต ได้ส่งข้อความไปหานายนัฐศาสตร์ ซึ่งกำลังนั่งมั่งสุมเสพยาเสพติดกับพวกทั้ง 5 คน อยู่ที่ขนำในสวนมะพร้าวพื้นที่หมู่ 6 ต.ทุ่งขมิ้น ว่าจะเข้าไปเอายาเสพติด และจังหวะนั้น นายโอม ได้นำโทรศัพท์มือถือ ของนายนัฐศาสตร์ ส่งข้อความกลับไปต่อว่า นายวรัญชิต ที่เป็นสายให้ตำรวจ
และทันทีที่นายวรัญชิต มาถึงขนำก็ได้เดินไปต่อยหน้า นายพงศธร จากนั้นทั้งหมดจึงรุมทำร้าย นายวรัญชิต ทั้งเตะและใช้จอบตีเข้าที่ศรีษะ ทำให้นายวรัญชิต ต้องวิ่งหนีตายเข้าไปในป่าสวนยางแต่ก็ถูกทั้ง 5 คนวิ่งไปจับตัวกลับมารุมซ้อมและตีด้วยไม้ฟืนจนฟุบกับพื้นและเชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตคาดที่
จากนั้นนายวรากร ได้ขับรถจักรยานยนต์กลับไปเอาอาวุธปืน .38 มาจากบ้าน และร่วมกับนายนัฐศาสตร์ ช่วยกันนำร่างพับขายัดใส่กระสอบและนำถุงพลาสติกสีดำสวมที่บริเวณศรีษะนำร่างพาดกับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายพาศพไปทิ้งริมถนนสายเอเชีย ตรงข้ามโรงงานแอสฟัลโชคบัญชา หมู่2 ต.พิจิตร อ.นาหม่อม โดยนายวรากร เป็นคนขับรถย ส่วนนายนัฐศาสตร์ นั่งซ้อนท้ายทับศพ และนายนัฐศาสตร์ ยังได้ใช้อาวุธปืนจ่อยิงซ้ำที่บริเวณศีรษะซ้ำอีก1 นัดเพื่อให้แน่ใจว่าตายจริง แล้วจึงขับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งที่บริเวณสระน้ำ บ้านทุ่งโตนด ม.1 ต.นาหม่อม และโทรศัพท์ให้เพื่อนมารับกลับไปยังขนำที่เกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนแยกย้ายกันหลบหนีในช่วงรุ่งเช้า
กระทั่งแม่ของนายวรัญชิต ได้เข้าแจ้งความคนหายไว้ที่สภ.นาหม่อมเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา สุดท้ายตำรวจก็ทำการสืบสวนเริ่มจากแค่คนหายธรรมดาจนกลายมาเป็นเหตุฆาตรกรรมสะเทือนขวัญอีกคดี
ด้าน แม่ของผู้ตายซึ่งเดินทางมาที่สภ.นาหม่อมเพื่อดูการแถลงข่าวจับกุมคนร้ายกล่าวทั้งน้ำตาว่าทั้งดีใจที่จับคนร้ายได้และแค้นใจที่ทำไม่ต้องมาทำกับลูกตนแบบนี้
ยืนยันว่าลูกตนไม่ได้เป็นสายให้กับตำรวจที่ทำให้แม่ของนายนัฐศาสตร์หรือนิวถูกจับ เพราะตำรวจจะไปจับนิวแต่วันนั้นมีแม่อยู่และตำรวจก็พบยาเสพติดอยู่ในบ้านจึงต้องจับกุม บอกว่า ทั้ง 5 คนใจดำมากเพราะเป็นเพื่อนกัน โดยเฉพาะนิวเป็นเพื่อนรักกับลูกชายมากินมานอนที่บ้านเป็นประจำและเรียนห้องเดียวกันตั้งแต่ป.1ถึงป.6 หรือถ้าทั้ง5 คนจะมาขอขมาหรือมาเคารพศพลูกชายก็ไม่ต้องมาเพราะตนไม่ให้อภัยและจะไม่ยอมความให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด 
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/HxsRTiXyYBM

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ