สังคม

จับครูล่วงละเมิดหลานสาว นาน 3 ปี เจ้าตัวให้การปฎิเสธ ผอ.สั่งสอบข้อเท็จจริง จ่อให้ออกจากราชการ

โดย

30 พ.ค. 2563

1.9K views

นครพนม - เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม นำหมายศาลจังหวัดนครพนม ที่ จ.59/2653 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 เข้าจับกุมตัวครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม โดยต้องหาว่ากระทำความผิด 1.กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม 2.กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม 3.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่น ซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศของบุคคลนั้น โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ 4.กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะล่วงล้ำอวัยวะเพศของเด็กนั้นโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม 5.กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะล่วงล้ำอวัยวะเพศของเด็กนั้นโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม รวม 5 ข้อกล่าวหา เบื้องต้นปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาล ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด ผอ.โรงเรียนต้นสังกัด ที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนหลานต่อเนื่องนานกว่าสามปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงหยุดเรียนเนื่องจากโรคระบาดโควิด – 19 เพิ่งทราบเรื่องนี้ตอนที่ผู้สื่อข่าวมาสอบถามนี่เอง อย่างไรก็ตามหากเป็นจริงตนก็จะรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมจะเสนอให้ออกจากราชการไว้ก่อนระหว่างทำการสอบสวน
โดยเปิดเผยว่า ผู้ถกกล่าวหา เป็นเพียงพนักงานราชการ ทำหน้าที่ปฏิบัติงานสอน ในวิชาการงานอาชีพ (เกษตรอุตสาหกรรม) สอนนักเรียนระดับชั้น ม.1-ม.6 โดยทำงานมากว่าสิบกว่าปี แต่ยังไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชการประจำโดยจะมีสัญญาจ้างปีต่อปี ปกติก็ขยันขันแข็งมาทำงานพร้อมภรรยาทุกวัน ซึ่งเป็นครูสอนที่โรงเรียนเดียวกัน ไม่คิดว่าจะมีพฤติกรรมแบบนี้ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นตนก็จะเสนอให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงประกอบกับการตั้งข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งนี้เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายต่อไป
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ทราบข้อมูลเชิงลึกว่า ด.ญ.ระหว่างเรียนอยู่ชั้น ป.6 พ่อแม่ก็แยกทางกัน และต้องหาที่เรียนในระดับมัธยมต้นให้ลูก ซึ่งคุณพ่อเห็นว่ามีพี่สาวเป็นครูอยู่โรงเรียนชื่อดังในจังหวัดนครพนม และสามีก็เป็นครูอยู่ที่เดียวกัน จึงเห็นพ้องกันว่าน่าจะเอาลูกสาวไปฝากลุงกับป้าไว้ จึงย้ายมาเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวในชั้น ม.1
วันหนึ่งขณะผู้เสียหายนั่งดูการ์ตูนอยู่ในห้อง และไม่มีใครอยู่บ้าน ผู้ถูกกล่าวหา ได้เปิดประตูเข้ามาถามว่าดูหนังเอ็กซ์อยู่เหรอ จึงตอบกลับว่าดูการ์ตูน ผู้ถูกกล่าวหาจึงอ้างขอดูด้วยคน ด.ญ.บอกให้ออกไปอย่ามายุ่งเรื่องของเด็ก แต่กลับเดินไปล็อกห้องแล้วใช้กำลังบังคับขืนใจจนสำเร็จความใคร่ และข่มขู่ว่าอย่านำเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด มิฉะนั้นจะไม่ได้เรียนหนังสือ ด้วยความกลัวจึงเก็บงำเรื่องบัดสีดังกล่าวไว้ เป็นเหตุให้ได้ใจอาศัยช่วงไม่มีใครอยู่บ้านย่องเข้าไปข่มขืนกระทำชำเราเรื่อยมาจนถึงเตรียมขึ้นเรียนชั้น ม.4 ในเทอมปีการศึกษา 2563 นี้
แหล่งข่าวเล่าต่อว่าหลังถูกย่ำยี ด.ญ.กับแม่หลายครั้งว่าไม่อยากอยู่ที่นี่ แต่แม่ก็ปลอบว่าอยู่กับลุงกับป้าดีแล้ว กระทั่งต้นเดือนพฤษภาคม 2563 ด.ญ.คุยวีดีโอคอลกับยายและญาติผู้หญิงในวัยเดียวกันที่อยู่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างนั้นผู้ถูกกล่าวหาก็เปิดประตูห้องเข้ามา พร้อมดุด่ากล่าวหาว่าคุยกับผู้ชาย แล้วปิดประตูกระแทกเสียงดัง ญาติจึงถามทำไมลุงอารมณ์ร้ายขนาดนี้ ซึ่ง ด.ญ.ตอบกลับว่าตนโดนหนักยิ่งกว่านี้อีก คุยไปคุยมาก็เปิดปากเล่าว่าถูกกระทำย่ำยีมาตั้งแต่อยู่ ม.1 ญาติผู้นั้นจึงนำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้ผู้เป็นแม่ของ ด.ญ.ฟัง จากนั้นแม่ จึงรีบเดินทางมาจังหวัดนครพนม เพื่อนำลูกสาวออกจากบ้านหลังดังกล่าว โดยไม่บอกล่ำลาผู้ใด 
จนภรรยาของผู้ถูกกล่าวหาโทรศัพท์ไปต่อว่าทำไมไม่บอกกล่าวกันบ้าง แม่จึงเล่าว่าสามีคุณพี่กระทำกับลูกตนเองรุนแรงมาก แต่ภรรยายังไม่ปักใจเชื่อว่าสามีจะเป็นเช่นนั้น และแม่ได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังตรวจร่างกายเสร็จก็รีบเดินทางกลับจังหวัดนครราชสีมา เพราะเกรงจะได้รับอันตราย พนักงานสอบสวนจึงต้องประสานกับสหวิชาชีพสอบปากคำอยู่ที่นั่น ก่อนจะกลับมาขออนุมัติหมายจับ
เพื่อนคนสนิทของผู้ต้องหา เล่าว่าจากการไปสอบถามนายชัยในห้องขัง ผู้ต้องหายืนยันว่าไม่ได้ข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.ตามที่ถูกกล่าวหา เบื้องต้นเกิดจากเด็กไม่ค่อยช่วยงานบ้าน จึงมักถูกดุด่าเป็นประจำ เพราะอ้างว่าเด็กมัวแต่เล่นโทรศัพท์และคุยกับผู้ชาย บางครั้งขับรถจักรยานยนต์ออกไปหาผู้ชายข้างนอก จนลุงกับป้าต้องเอากุญแจรถไปซ่อน จากเหตุนี้หรือเปล่าจึงทำให้เด็กมีความไม่พอใจจึงสร้างเรื่องขึ้นมาใส่ร้าย หากผลการสอบสวนออกมาว่าบริสุทธิ์ก็จะฟ้องกลับสองแม่ลูกคู่นี้ทันที
รายงานข่าวล่าสุด ร.ต.อ.(หญิง)จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เจ้าของคดี เตรียมจะนำตัวผู้ต้องหา ฝากขังผัดแรกต่อศาลจังหวัดนครพนม พร้อมคัดค้านการประกันตัว เหตุที่ฝากขังเร็วเพราะผู้ต้องหาไม่ยอมให้ปากคำในชั้นพนักงานสอบสวน
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/FiEq9rwYsWc

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ