สังคม

สรุปจุดจบสายกร่าง วินหัวร้อนคว้าหมวกกันน็อกฟาดลุง หัวแตก ฟันหัก ดอดมอบตัว ให้การย้อนแย้ง

โดย

28 พ.ค. 2563

13.8K views

กลายเป็นกระแสเดือดดาลบนโลกออนไลน์ หลังจากที่ชาวเน็ตแห่แชร์คลิปสุดสะเทือนใจ เมื่อลุงขับแท็กซี่ถูกหนุ่มใช้หมวกกันน็อกฟาดจนล้มลง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ซึ่งทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ จะสรุปเหตุการณ์ดังกล่าวภายในหน้าเดียว โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้
- ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์ย่านกัลปพฤกษ์ โดยมีนายเม้ง แซ่เฮง ลุงขับแท็กซี่วัย 75 ปี ถูกนายพชร เอี่ยมโมฬี หยุ่มขี่จักรยานยนต์ วัย 32 ปี ใช้หมวกกันน็อกกระหน่ำฟาดไม่ยั้งจนล้มลง ก่อนจะมีพลเมืองดีเข้ามาห้ามปราม ซึ่งเรื่องดังกล่าว ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างในโลกออนไลน์
- หลังจากนั้น ทั้งคู่ต่างเดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.เพชรเกษม โดยนายพชร แจ้งความนายเม้ง ข้อหาขับรถชน ส่วนนายเม้งแจ้งความนายพชร ข้อหาทำร้ายร่างกาย ก่อนที่นายเม้ง คนขับแท็ซี่จะถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
- นายเม้ง คนขับแท็กซี่ เล่าว่า ชายหนุ่มรถจักรยานยนต์คู่กรณีที่ขี่มาเลนซ้ายพยายามที่จะปาดเข้าเลนของตนหลายครั้ง แต่แซงไม่พ้น จึงพยายามขี่รถมาใกล้ๆ แล้วใช้เท้าถีบที่รถของตน พร้อมตะโกนว่า “ถ้ามึงจอดเมื่อไหร่ มึงตายแน่”
- พอไปถึงสี่แยกอีกฝ่ายก็ขี่รถมาปาดหน้า ซึ่งตนเบรกไม่อยู่ทำให้ชนรถมอเตอร์ไซค์เสียหลักไปชนกับรถอีกคันหนึ่ง ตนจึงลดกระจกลงเพื่อสอบถาม แต่อีกฝ่ายก็ใช้หมวกกันน็อกฟาดและต่อยเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง ซึ่งลุงได้หันไปถามหนุ่มว่า "ลุงผิดอะไร" แต่ชายหนุ่มไม่ฟัง ยังกระหน่ำฟาดลุงต่อไป
- ต่อมา ลุงจึงลงจากรถพร้อมไขควงเพื่อป้องกันตัว แต่ด้วยอาการมึนงงจึงไม่ทราบว่าไขควงหลุดมือไปตอนไหน หลังจากนั้นก็ถูกหมวกกันน็อกฟาดนับ 10 ครั้ง จนล้มลง แล้วอีกฝ่ายก็หยิบไขควงที่พื้นขึ้นมาจะทำร้าย แต่มีคนเข้ามาห้ามเสียก่อน
- นายเม้ง ยังเล่าอีกว่า เมื่อถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์เย็บที่ศีรษะ 2 เข็ม หน้าผาก 3 เข็ม ข้อศอกขวา 4 เข็ม ฟันหัก 2 ซี่ ตอนนี้มีอาการปวดไปทั้งตัว
- ด้านนายพชร ชายหนุ่มคู่กรณี ให้การว่า ลุงขับแท็กซี่มาเฉี่ยวชนจนแฟนสาวได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนี ตนจึงขับตามเพื่อเจรจา แต่กลับถูกลุงขับแท็กซี่ชนจนล้ม และนำไขควงจะมาแทงตน จึงได้ทำการป้องกันตัวจนเกิดภาพดังกล่าว
- ล่าสุด พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่า เบื้องต้น นายพชร หนุ่มวินจักรยานยนต์ยอมรับสารภาพในข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ปฏิเสธข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย จากกรณีที่จักรยานยนต์ตัวเองไถลไปชนรถกระบะด้านหน้า
- ส่วนลุงขับแท็กซี่ ก็ยังให้การภาคเสธ โดยระบุว่า คู่กรณีตั้งใจมาขับปาดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้หยุดรถตัวเองไม่ทันพุ่งชนท้ายอย่างจัง จึงต้องรอผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุ
- หลังจากนายพชร ให้ปากคำกับตำรวจ นักข่าวได้ขอสัมภาษณ์ ซึ่งนายพชรได้ปฎิเสธการให้สัมภาษณ์ และวิ่งหนีนักข่าวอย่างไม่คิดชีวิต.

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ