สังคม

เด็กเรียนออนไลน์ จ้องจอนานมึนหัว-ตาบวม ศธ.เผยวันเปิดเทอม อาจจัดเรียนเป็นผลัด สลับเช้า-บ่าย

โดย

22 พ.ค. 2563

1.1K views

พบปัญหาการเรียนออนไลน์ผ่านมือถือ คอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียนสองพี่น้องในระดับชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 5 และปีที่ 6 ในพื้นที่ อ.สวี จ.ชุมพร โดยมีอาการมึนศีรษะ ตาบวม และถึงขั้นอาเจียนผู้ปกครองจึงให้หยุดเรียนผ่านมือถือ แต่ให้เรียนทางโทรทัศน์แทน พร้อมทั้งรอดูอาการถ้าไม่ดีขึ้นจะพาปรึกษาแพทย์ต่อไป

ด้าน นพ.อนุ ทองแดง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ทั้งนี้ต้องดูก่อนว่าการเรียนออนไลน์นั้นผ่านคอมพิวเตอร์ไอแพด หรือมือถือ ซึ่งจอดังกล่าวจะมีแม่สีคือ สีแดง เขียว น้ำเงิน แสงที่ทำอันตรายต่อตาคือน้ำเงิน การดูหน้าจอนานๆควรตั้งไว้ที่วอร์มไลฟ์ หรือที่เรียกว่าโหมดสีจืด แต่การตั้งสีดังกล่าวมีข้อเสียคือเด็กจะไม่ชอบ ข้อดีคือไม่ทำลายสายตาเด็ก และเครื่องคอมฯต้องมีแผ่นกรองสีฟ้าหรือเสื่อน้ำเงิน โดยหาซื้อได้ทั่วไปในราคาประมาณ 100 บาท

พร้อมแนะนำการใช้สายตาอีกว่า ดู 20 นาที พัก 20 วินาที มองไกลประมาณ 20 ฟุต ซึ่งเป็นสูตรเชิงทางการแพทย์ กรณีมีน้ำตาไหล บวม ควรพบแพทย์โรงพยาบาลใกล้บ้านหรือจักษุแพทย์ ทั้งนี้นายแพทย์อนุฝากถึงผู้ปกครองให้สังเกตอาการบุตรและปฏิบัติตามสูตร 20 20 20 ตามที่แจ้งข้างต้น

ที่ จ.อุทัยธานี เด็กชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยง รวมตัวกันเรียนที่บ้านของเพื่อน หลังจานรับสัญญาที่บ้านเป็นรุ่นเก่า จึงชักชวนกันไปนั่งเรียนออนไลน์กันที่บ้านที่สามารถรับช่องสัญญาณได้

ส่วนที่โคราช ที่ศาลาประชาคมหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อำเภอบัวใหญ่ ได้มีการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตประชารัฐ เปิดให้เด็กเข้ามาใช้อินเตอร์เน็ตฟรีเพื่อได้เรียนออนไลน์ แต่กลับพบว่า เมื่อลับหลังผู้ปกครอง เด็กๆ มักจะจับกลุ่มกันเล่นเกมออนไลน์ หรือดูช่องยูทูบที่ชื่นชอบมากกว่าสนใจการเรียนรู้ตามระบบการสอนออนไลน์ โดยเด็กบอกว่า การเรียนออนไลน์ดูไม่ค่อยรู้เรื่อง เรียนไม่สนุก ไม่เหมือนกับการที่เรียนกับครูที่โรงเรียน

ขณะที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เน้นย้ำว่า การเรียนออนไลน์จะไม่มีการวัดผล ตัดเกรดใดๆ และหากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น อาจมีการจำกัดจำนวนนักเรียนในห้อง แบ่งเรียนเป็นผลัด สลับกันช่วงเช้า-บ่าย

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/W0d7Ih3CZD0

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ