อาชญากรรม

แม่ค้าขนมจีบยัน รับมาขายต่อไม่เคยค้างคืน ลูกสาวผู้ตายคาใจ พ่อของแม่ค้า มางานศพปักธูปกลับหัว

โดย

12 พ.ค. 2563

11.8K views

จากกรณีมีชาวบ้านย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ กินขนมจีบที่ซื้อจากแม่ค้าเร่ขี่รถจักรยานยนต์ มาขาย เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงเกือบ 20 ราย เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายแห่ง และมีหญิงสูงอายุ วัย 66 ปี ท้องเสียอย่างรุนแรงเสียชีวิต 1 ราย  กระทั่งมีการตามหาแม่ค้าคนดังกล่าว

ต่อมา น.ส.มิ้น แม่ค้าขายขนมจีบ วัย 29 ปี ได้ชี้แจงว่า วันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 6 โมงเช้า ตนไปรับขนมจีบมาขายจากบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นชาวมุสลิม ทำกิจการแบบครอบครัวใน ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ขายชุดละ 30 บาท ขี่รถจักรยานยนต์เร่ขายในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ด้วย จนขายหมด

ทั้งนี้ตนขายขนมจีบมานาน 10 ปี จะรับมาขายประมาณ 10-20 กล่อง ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาอะไร ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ทุกครั้งที่ขายไม่เคยเหลือกลับบ้าน หากเหลือบางครั้งจะแถมให้ลูกค้า ยืนยันไม่เคยรับขนมจีบมาไว้ค้างคืน รับมาแล้วขายต่อทันที

ตอนนี้เครียดเหมือนตัวเองเป็นฆาตกรฆ่าคนตาย หลังทราบข่าวตนได้เดินทางไปยัง สภ.บ้านโพธิ์ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และได้เข้าพบจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดแล้ว โดยเจ้าของบ้านที่ทำส่ง ก็ส่งให้กับแม่ค้าหลายเจ้าไม่ใช่ตนคนเดียว ตนก็ได้ไปสอบถามแม่ค้าเจ้าอื่น ปรากฏว่าลูกค้าที่ซื้อไปนั้นไม่มีใครเป็นอะไรเลย จึงอยากให้มีการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุให้กระจ่าง ไม่อยากตกเป็นจำเลยสังคม

ขณะที่นายก้องภพ วงศ์ชนะชาติ อายุ 54 ปี พ่อของแม่ค้าขายขนมจีบ กล่าวว่า ลูกสาวรับขนมจีบเจ้านี้มาขายหลายปีแล้วไม่เคยเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น ปกติจะไปรับประมาณ 6 โมงเช้า และจะขายหมดประมาณเที่ยง เวลากลับบ้านก็จะไม่เหลือของที่ขายเลย

ตนเองก็มีอาการท้องเสียเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ ตนก็จะไปหาหมอเช่นเดียวกัน ส่วนตอนนี้ที่ตนทำได้คือจะไปเยี่ยมสามีของผู้ตายและมาฟังสวด อย่างไรก็ตามอยากให้รอความชัดเจน อย่าเพิ่งด่วนสรุป

ด้านนางสุวรรณี รูปโลก อายุ 55 ปี ผู้ทำขนมจีบส่งขายเผยว่า  ตนทำขนมจีบไก่มานานเกือบ 10 ปีแล้ว ทำสดใหม่ทุกวัน ที่ผ่านทำส่งขายหลายเจ้า แต่ช่วงนี้ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จึงไม่ได้ไปตั้งขายที่ตลาด ทำให้ น.ส.มิ้น มารับขนมจีบจากที่บ้านไปขาย โดยวันพุธที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา น.ส.มิ้น ได้มารับขนมจีบจากที่บ้านไปจริง จำนวน 10 กล่องในช่วงเวลา 6 โมงเช้า และมารับอีกครั้งหนึ่งในช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้าวันดังกล่าวอีกจำนวน 5 กล่อง

ตนขายให้กับ น.ส. มิ้น มานาน 1-2 ปี แล้ว และเป็นเจ้าประจำ ยืนยันว่าขนมจีบที่ตนทำไม่ใส่สารกันบูด คนแถวบ้านก็กินกันเกือบทุกคนไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย มีเพียงเคสของ น.ส.มิ้น เพียงรายเดียวที่ซื้อไปในวันพุธที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตนทำส่งครั้งสุดท้าย เพิ่งจะหยุดทำเมื่อวันที่ 7-8 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา เพราะไม่สบาย

ส่วนตัวไม่เครียดเพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิดยินดีให้ตรวจสอบ โดยขั้นตอนการผลิตที่ผ่านมา ยืนยันว่าสะอาด ปลอดภัยใส่ถุงมือเป็นอย่างดี ซึ่งปกติจะทำขายวันละประมาณ 40-50 กล่อง กล่องละ 7 ลูก และจะขายส่งในราคากล่องละ 17-18 บาท  หากตนขายไม่หมดหลัง 9โมง ก็จะแจกตามบ้านที่อยู่ในชุมชน หลายคนกินก็ไม่มีอาการผิดปกติ อยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบวัตถุดิบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับขนมจีบให้ชัดเจน  ตนก็ไม่ทราบสาเหตุ เป็นไปได้หรือไม่ระยะทางที่ น.ส.มิ้นขี่รถจักรยานยนต์ไปขายนั้นไกลประกอบกับอากาศร้อนจัด

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ที่กินขนมจีบล็อตสุดท้ายในวันพุธที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา บอกว่า ตนกินขนมจีบเจ้านี้มาตลอด ตนก็กินปกติแต่ไม่มีอาการปวดท้อง ท้องเสียหรือเป็นอะไรเลย คนในระแวกนี้ก็เช่นเดียวกัน พอเห็นข่าวว่ามีคนกินป่วยและเสียชีวิต ตนมองว่าอาจจะเป็นที่สาเหตุอื่นหรือไม่ หรืออาจจะเป็นเพราะว่า น.ส.มิ้นไปรับเจ้าอื่นมาขายด้วยหรือไม่ เพราะว่าทางร้านนี้เขาปิดร้านตั้งแต่วันที่ 7-8 พ.ค. แล้ว

ส่วนด้านทางคดีความต้องรอความชัดเจนจากผลตรวจในห้องแลปก่อน จึงจะสามารถแจ้งความในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ โดยตอนนี้ต้องรอผลตรวจจากจังหวัดสมุทรปราการ ว่าเป็นเช่นไรแล้วนำมาเปรียบเทียบกัน จึงจะมีความชัดเจนในสาเหตุที่ทำให้มีคนป่วยและเสียชีวิต ขณะนี้แม่ค้าขายขนมจีบถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์

ด้านลูกสาวของผู้เสียชีวิตที่กินขนมจีบ วอนให้บิดาของแม่ค้าขนมจีบรายนี้ย้อนกลับมาให้คำตอบสาเหตุที่เดินทางมาจุดธูปขอขมาศพแม่ แต่ทำไมต้องจุดธูปแล้วปักหัวธูปลงในกระถาง ผิดไปจากปกติคนที่เข้ามาเคารพศพแม่ ทำไมไม่ปล่อยให้ธูปไหม้หายไปปกติเหมือนคนอื่นทั่วไป ทำให้ตนหวาดกลัวว่าดวงวิญญาณของแม่จะไม่สงบ

ทั้งนี้ตนเตรียมหอบหลักฐานเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ขอลงบันทึกประจำวันและสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวตน

พร้อมระบุว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. เวลาประมาณบ่ายโมง แม่ของตน (ผู้ตาย) ซื้อขนมจีบจากแม่ค้าคนดังกล่าว 3 กล่อง หลานซื้อมาเพิ่ม 1 กล่อง มาแบ่งที่บ้านกินกัน 6 คน แต่ตนกับแฟนไม่ได้กิน ตกค่ำทุกคนที่กินเริ่มมีอาการถ่ายท้อง จนถึงคืนวันที่ 7 พ.ค. แม่ของตน (ผู้ตาย) อาการหนักสุด จึงไปโรงพยาบาล

หมอให้ยา เกลือแร่ กลับมานอนพักที่บ้านแต่ยังไม่หาย โดยแม่ของตนเป็นคนธาตุเบา และมีโรคประจำตัวเป็นความดัน หมอห้ามกินยาแก้ท้องเสีย กินได้เฉพาะเกลือแร่ กระทั่งคืนวันที่ 7 พ.ค. อาการท้องเสียรุนแรงขึ้น ก่อนจะชักเกร็งเสียชีวิตเวลาประมาณ 8 โมง ของวันที่ 9 พ.ค. หมอระบุว่าหัวใจล้มเหลว 

แต่ตนเชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากการกินขนมจีบ ซึ่งซื้อมาจาก น.ส. มิ้น เพราะก่อนหน้านั้นแม่ของตน ไม่ได้กินอะไรนอกจากขนมจีบ อยากให้มีการตรวจสอบว่าขนมจีบและน้ำจิ้มมีสารพิษอะไรหรือไม่ ข้องใจบ้านที่ทำขนมจีบส่งขายเป็นขนมจีบไก่ แต่ทำไม่บางคนกินบอกว่าบางกล่องเป็นขนมจีบหมู รับมาจากเจ้าเดียวกันหรือไม่

สำหรับไทม์ไลน์ ‘ขนมจีบมรณะ’

-6  พ.ค. 63 น.ส.มิ้น ไปรับขนมจีบจากแหล่งผลิตใน ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา 15 กล่อง (สอดคล้องกับข้อมูลเจ้าของบ้านขายส่ง)

*น.ส.มิ้น ระบุ ไม่ได้เก็บค้างคืน เร่ขายใน ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา /พื้นที่ ต.หนองปรือ  อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จนหมด

-7 พ.ค. 63 ลูกสาวผู้ตาย/ชาวบ้าน ต.หนองปรือ ยืนยันซื้อขนมจีบจาก น.ส.มิ้น

*กินเกิดอาการท้องเสีย เข้า รพ.กว่า 20 ราย

*ชาวบ้านตั้งข้อสงสัยรับขนมจีบมาขายวันที่ 6 พ.ค. แต่ทำไมถึงนำมาขายวันที่ 7 พ.ค.

*เก็บไว้ค้างคืนหรือไม่/ หรือรับจากเจ้าอื่นมาขายอีกหรือไม่ /น.ส.มิ้น พูดความจริงไม่หมดหรือไม่

-8 พ.ค. 63 ชาวบ้านเห็น น.ส.มิ้น  เร่ขายขนมจีบแถว อบต.หนองปรือ

*น.ส.นำขนมจีบจากที่ไหนมาขาย /รับจากเจ้าอื่นด้วยหรือไม่

*แหล่งผลิตที่เคยรับทำส่งขายครั้งสุดท้าย 6 .พ.ค. (7-8 พ.ค.หยุดผลิต เพราะไม่สบาย)  

-9 พ.ค. 63 หญิงวัย 66 ปี ท้องเสียรุนแรงชักเกร็งเสียชีวิต เวลาประมาณ 08.00 น.

*หมอ ระบุ หัวใจล้มเหลว

*ญาติ ระบุ ผู้ตายธาตุเบา มีโรคประจำตัวเป็นความดัน

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/cWSaDWo7BT8

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ