สังคม

เชือด รอง ผอ.วิทยาลัยฯ ส่ง นศ.ฝึกงาน แฝงค้ามนุษย์ข้ามชาติ

โดย

9 พ.ค. 2563

354 views

เชียงราย - พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาที่ สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เพื่อดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหายในคดี สมทบกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์จากการบังคับใช้แรงงานนักศึกษาหรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคล โดยได้มีการสอบปากคำอดีตนักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย จำนวน 8 คน เป็นชาย 5 คนและหญิง 3 คน ส่วนผู้ต้องหานั้นได้มีการจับกุมดำเนินคดีกับอาจารย์ระดับรองผู้อำนวยการวิทยาลัยฯ ซึ่งปัจจุบันย้ายไปอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร จำนวน 1 คน และนายคัง ชาวเกาหลีใต้ ที่อยู่ที่กรุงเทพฯ รวมผู้ถูกจับกุมทั้งหมด 2 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้วอีกจำนวน 3 คนแต่ทั้งหมดเป็นชาวเกาหลีใต้ที่อาศัยอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ จึงอยู่ระหว่างขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามกฎหมายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ได้แถลงถึงการดำเนินการตามขั้นตอนว่า สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 10 ก.พ.-10 มิ.ย.2560 หรือ 3 ปี พฤติการณ์คดีคือได้มีการหลอกพานักศึกษาทั้ง 8 คนทำทีให้ไปฝึกงานที่เมืองซุงจูและเมืองดันจิง ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อนักศึกษาไปถึงก็ได้ให้ทำงานในไร่ วันละ 12 ชั่วโมง และบางครั้งพาไปทำงานนอกพื้นที่โดยที่เก็บรายได้จากค่าเหนื่อยของนักศึกษาเอาไว้ ลักษณะเป็นการให้ทำงานฟรีและทำงานหนักรวมทั้งที่สำคัญเมื่อสอบถามแล้วไม่ได้มีการให้ความรู้ทางวิชาการใดๆ และเมื่อนักศึกษาฝึกงาน ทนไม่ได้จึงขอยกเลิกการฝึกงาน และเดินทางกลับประเทศไทย แต่ถูกปฏิเสธจากเจ้าของฟาร์มดังกล่าว และอาจารย์เจ้าของโครงการ และจึงเกิดการหลบหนีออกจากสถานที่ฝึกงาน ขอความช่วยเหลือสถานเอกอัคราชฑูตประเทศไทยประจำเกาหลีใต้ กระทั่งได้รับการช่วยเหลือให้เดินทางกลับในที่สุด
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ว่าคดีดังกล่าวทาง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ทางตำรวจคลี่คลายคดีทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงได้มอบหมายให้ตนเป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดี ทำให้ชุดคลี่คลายคดีได้เดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้แล้ว 2 ครั้งและสอบปากคำในประเทศแต่หลายครั้ง กระทั่งได้รวมบรวมหลักฐานและพยานขออนุมัติหมายจับบุคคลทั้งหมด โดยวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมาได้เปิดปฏิบัติการออกจับกุมอาจารย์ที่ดูแลโครงการพานักศึกษาไปฝึกงานที่ประเทศเกาหลีใต้และชาวเกาหลีใต้คนดังกล่าวซึ่งยังอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ในที่สุด ปัจจุบันได้นำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุแล้วเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ซึ่งคดีนี้ทาง ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
สำหรับคดีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2560 ที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดเชียงราย ได้มีนักศึกษาจากวิทยาลัยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย จำนวน 8 คน เป็นชายจำนวน 5 คนและหญิง 3 คน เดินทางมาร้องทุกข์โดยขอให้ทางจังหวัดให้ความช่วยเหลือ โดยระบุว่าได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน ตามโครงการศึกษาฝึกงานที่ทางวิทยาลัยร่วมกับองค์กรนิติบุคคลในประเทศเกาหลี แต่เมื่อไปฝึกงานก็ประสบปัญหาหนักทั้งในเรื่องของการใช้ภาษา และการใช้แรงงานที่หนักเกินกว่าการไปศึกษาดูงาน ส่วนนักศึกษาหญิงกลับถูกนายจ้างลวนลาม ได้ทำงานไม่ตรงกับสายงาน จึงได้พากันหนีออกจากการฝึกงานไปขอความช่วยเหลือจากสถานฑูตประเทศไทยประจำเกาหลีใต้ให้ช่วยส่งตัวกลับประเทศไทยเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยจึงได้รีบเดินทางมาร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงค์ธรรมให้ช่วยเหลือ
โดยกลุ่มนักศึกษาระบุว่าพวกตนได้รับคำแนะนำจากทางวิทยาลัยให้ไปศึกษาดูงานที่เกาหลีใต้จึงเห็นเป็นโอกาสที่จะได้ประสบการณ์ทางการศึกษาจึงได้สมัครเดินทางไป ภายใต้เงื่อนไขว่าจะไม่ได้รับเงินค่าจ้างขณะฝึกงานก่อนจะถูกส่งตัวแยกไปทำงานทางการเกษตรจำนวน 3 ฟาร์ม โดยบางคนเรียนวิชาช่างแต่กลับได้ไปเลี้ยงวัวซึ่งไม่ตรงสายงานที่ต้องการไปศึกษาในครั้งนี้ จากนั้นเจ้าของฟาร์มชาวเกาหลีได้ใช้แรงงานพวกตนอย่างหนัก เริ่มทำงานตั้งแต่เวลา 07.00-19.30 น.เป็นอย่างต่ำ ให้รับประทานอาหารไม่คตรงเวลา และการทำงานที่มีความเสี่ยงบนที่สูง แบกโลหะ สร้างฟาร์ม เลี้ยงสัตว์ บางครั้งหลังจากทำงานในฟาร์มหนึ่งเสร็จแล้วก็พาพวกตนไปทำงานอีกฟาร์มหนึ่งเหมือนนำไปขายแรงงานให้ชาวเกาหลีคนอื่นต่อซึ่งบางครั้งที่ปวดก็ไม่ได้มีการดูรักษา
ส่วนนักศึกษาหญิง บอกว่าถูกส่งไปอยู่ฟาร์มสตอเบอรี่และถูกใช้งานตั้งแต่เช้าจนถึงตะวันตกดินดังกล่าวเช่นกัน ลักษณะเหมือนไม่ใช่การฝึกงาน เช่น ให้ทำแปลงพืชผัก นำผลผลิตใส่ถุง อาการทำอาหารให้ครอบครัวชาวเกาหลี ซึ่งการสื่อสารก็ไม่สามารถทำได้สะดวกเพราะทุกคนพูดภาษาเกาหลีไม่ได้และไม่มีระบบนำไปศึกษาภาษาก่อน นอกจากนี้ช่วงฝึกงานยังถูกชาวเกาหลีที่เป็นคนพาไปฝึกงานและพาเดินทางไปยังจุดต่างๆ ลวนลามทั้งกอด จูบ เป็นประจำ
ทั้งนี้ ทางจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ยุติธรรมจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ได้เข้ารับเรื่องของกลุ่มนักศึกษา รวมทั้งจะมีการดำเนินการเรียกผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย และผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง และรับว่าจะประสานไปยังกรมอาชีวศึกษาเพื่อตรวจสอบโครงการดังกล่าวว่ามีลักษณะอย่างไร ส่วนศูนย์ดำรงค์ธรรมจะประสานไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อให้ช่วยดูเรื่องผลกระทบต่อเยาวชนอีกทางหนึ่ง ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ จะช่วยเหลือด้านการเยียวยาทั้งด้านกฎหมายว่าลักษณะดังกล่าวจะเข้าข่ายการถูกละเมิดด้านกฎหมายใดหรือไม่และจะได้รับการช่วยเหลืออย่างไรต่อไป
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/9GGYHap4QbE

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ