สังคม

ขึ้นทางด่วนฟรี 3 วัน 3 เส้นทาง - หยุดเดินรถไฟ 14 ขบวน - เปิดจังหวัดบินเข้าต้องกักตัว มีเงื่อนไข

โดย

4 พ.ค. 2563

1.5K views

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ยกเว้นค่าผ่านทางของทางพิเศษ 3 วัน คือวันที่ 4, 6 และ 11 พฤษภาคม 2563 รวม 3 เส้นทาง คือ 1. ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1), 2. ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) และ 3. ทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) ทั้งนี้ ภายใต้มาตรการเคอร์ฟิว ในช่วงเวลา 22.00 - 04.00 น. งดใช้บริการ (ยกเว้นรถที่ได้รับอนุญาต)
ขณะที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศงดเดินขบวนรถข้ามจังหวัดในเส้นทางต่าง ๆ จำนวน 14 ขบวน เป็นกรณีชั่วคราว เพื่อให้สอดคล้องตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเริ่มประกาศงดเดินขบวนรถตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง พร้อมแจ้งให้ผู้โดยสารสามารถคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้เต็มราคา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ซึ่งประกาศงดเดินขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์ ขบวนรถเร็ว และขบวนรถโดยสารเชิงสังคม ขบวนรถธรรมดาและขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 14 ขบวน ที่มีต้นทางปลายทางข้ามเขตจังหวัดทั้งหมด ดังนี้
1. ขบวนรถเร็วที่ 135 (กรุงเทพ-อุบลราชธานี)
2. ขบวนรถเร็วที่ 136 (อุบลราชธานี-กรุงเทพ)
3. ขบวนรถธรรมดาที่ 201 (กรุงเทพ-พิษณุโลก)
4. ขบวนรถธรรมดาที่ 202 (พิษณุโลก-กรุงเทพ)
5. ขบวนรถธรรมดาที่ 257 (ธนบุรี-น้ำตก)
6. ขบวนรถธรรมดาที่ 258 (น้ำตก-ธนบุรี)
7. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 415 (นครราชสีมา-หนองคาย)
8. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 418 (หนองคาย-นครราชสีมา)
9. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 421 (นครราชสีมา-อุบลราชธานี)
10. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 426 (อุบลราชธานี-นครราชสีมา)
11. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 (ชุมทางแก่งคอย-ชุมทางบัวใหญ่
12. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 440 (ชุมทางบัวใหญ่-ชุมทางแก่งคอย)
13. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 489 (คีรีรัฐนิคม-สุราษฎร์ธานี)
14. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 490 (สุราษฎร์ธานี-คีรีรัฐนิคม)
สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางข้ามเขตจังหวัด จะต้องได้รับการตรวจคัดกรองและต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น พร้อมหลักฐานการอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรการป้องกันโรงตามที่ทางราชการกำหนด
นอกจากนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ประกาศเงื่อนไขและเงื่อนเวลาการใช้ท่าอากาศยานเพื่อการขึ้น-ลง ของอากาศยาน โดยกำหนดให้ท่าอากาศยานที่ให้บริการเฉพาะการบินภายในประเทศ ประกอบด้วย น่านนคร, พิษณุโลก, แพร่, แม่สอด, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, ขอนแก่น, นครพนม, บุรีรัมย์, ร้อยเอ็ด, เลย, สกลนคร, อุดรธานี, อุบลราชธานี, ชุมพร, ตรัง, นครศรีธรรมราช, ระนอง 
และท่าอากาศยานที่ให้บริการทั้งการบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ ประกอบด้วย กระบี่, เชียงใหม่, เชียงราย, ดอนเมือง, สมุย, สุวรรณภูมิ, สุราษฎร์ธานี, หาดใหญ่, หัวหิน, อู่ตะเภา
โดยจะอนุญาตให้เครื่องบินที่บินเฉพาะภายในประเทศ ขึ้นลงได้เฉพาะระหว่างเวลา 07.00 - 19.00 น. ซึ่งท่าอากาศยานสามารถพิจารณากำหนดระยะเวลาการเปิดให้อากาศยานขึ้นลงได้ให้สั้นกว่าระยะเวลาที่กำหนดได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
ทั้งนี้ ขณะนี้มีท่าอากาศยาน 9 แห่ง ที่เปิดทำการบินโดยไม่มีเงื่อนไขในการเข้า-ออกจังหวัด ไม่ต้องกักตัว 14 วัน ได้แก่ จังหวัดตาก (แม่สอด), ลำปาง, ร้อยเอ็ด, ขอนแก่น, สกลนคร, อุดรธานี, อุบลราชธานี, นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี
ส่วนอีก 5 จังหวัด หากเดินทางไป มีมาตรการกักตัว 14 วัน และมีเงื่อนไขเดินทาง ได้แก่
1. พิษณุโลก
- หากเป็นคนในพื้นที่ จ.พิษณุโลก กักตัวพร้อมบุคคลในบ้าน 14 วัน หรืออาจเลือกพัก ณ โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ Save Phisanulok 14 วัน
- หากเป็นคนต่างจังหวัดมาลงเครื่อง ณ ท่าอากาศยานและจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่น ให้เดินทางออกจากจังหวัดทันที ไม่แวะทำกิจกรรมใด ๆ ภายในจ.พิษณุโลก
2. บุรีรัมย์
ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางเข้าตั้งแต่ 1 พ.ค. จะต้องกักตัว 14 วัน หลังกักตัวจะได้สติกเกอร์ติดบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง (บุคคลต่างด้าว)
3. กระบี่
- ห้ามบุคคลภายนอกพื้นที่เข้ามาในจังหวัดเว้นแต่ได้รับการยืนยันผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากพื้นที่ต้นทาง โดยให้แสดงหลักฐานการกักตัว ครบระยะเวลาที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนด
- หากยังไม่ได้ตรวจโควิด-19 หรือไม่มีเอกสารยืนยัน ต้องเข้าสู่กระบวนการกักกัน ณ สถานที่กักกันตัว (Local Quarantine) ที่อําเภอ กําหนดไว้ ตามระยะเวลาและมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามที่ทางราชการกําหนด
4. ตรัง
ต้องเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ จ.ตรัง หากเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานใน จ.ตรัง ต้องมีหนังสือรับรองการปฏิบัติงาน ทุกกรณีต้องมีใบรับรองแพทย์ และมีหนังสือรับรองจากท้องที่ต้นทาง และต้องกักตัว 14 วัน ในสถานที่ที่จังหวัดกำหนด
5. นครพนม
ไม่อนุญาตให้ ญาติ ผู้มารับ-ส่ง เข้าในอาคาร ไม่ให้ต่างด้าวเข้า จ.นครพนม ด้วยวิธีการใด ๆ เว้นแต่ได้รับอนุญาต 
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/EhBzh1pn97M

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ