สังคม

พ.ต.ต. เปิดใจทำเงินหายยันไม่คิดโกง-เครียดจัดคิดอยากฆ่าตัวตาย ปมถูกกล่าวหายักยอกเงินงานศพวีรบุรุษอรินทราช 26

โดย

27 เม.ย. 2563

14.5K views

จากกรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.Plus+ ได้แชร์เรื่องราวของ พ.ต.ต. รายหนึ่งยักยอกเงินจัดงานศพของวีรบุรุษหน่วยอรินทราช 26 ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เหตุกราดยิงโคราช  โดยผู้เสียหายเป็นร้านร้านเบเกอรี่พยายามทวงถามเงินค่าอาหารว่าง แต่ทาง พ.ต.ต. รายนี้ได้บอกว่าทำเงินหายไปแล้ว ขอเวลาผัดผ่อน ทั้งนี้นอกจากนี้ยังมีค่าสังฆภัณฑ์ ค่าดอกไม้งานศพที่ขณะนี้ทางผู้ประกอบการยังไม่ได้รับ 
ต่อมาทราบว่า พ.ต.ต. คนดังกล่าวเป็นสารวัตรฝ่ายฌาปนกิจสงเคราะห์ สก. ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดดูแลงานการฌาปนกิจ ที่วัดวัดตรีทศเทพ ได้มีการโพสต์ขายที่ดินเพื่อนำเงินนั้นมาใช้หนี้ให้กับผู้ประกอบการทั้งหมด โดยได้ยืนยันว่าไม่มีเจตนาโกง 
ล่าสุดวันนี้ (27 เม.ย.) พ.ต.ต.คนดังกล่าวได้เปิดใจ และชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดกับทีมข่าวว่า ที่มีการแชร์ว่า อมเงินฌาปนกิจศพ ตำรวจที่เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงนั้น ไม่เป็นความจริง แต่หน้าที่ของตนเอง คือ เก็บเงินจากเจ้าภาพที่มาใช้สอยพื้นที่ในวัดตรีทศเทพวรวิหาร ทั้งของฌาปนกิจตำรวจ และประชาชน
โดยจะเป็นผู้ประสานงาน อำนวยความสะดวก รวมถึงเป็นผู้จัดหาร้านอาหาร ร้านดอกไม้ และเครื่องสังฆทาน เสนอให้เจ้าภาพ และหลังเสร็จสิ้นงาน เจ้าภาพจะนำเงินมาเคลียร์กับตนเอง จากนั้นตนเองจะรวบรวมเงินเหล่านี้เคลียร์ให้กับร้านค้าต่างๆ และอีกส่วนหนึ่ง ส่งให้ฝ่ายการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยทำหน้าที่นี้ มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 
แต่เหตุการณ์ เกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 20.00 น. ในวันนั้น ตนรวบรวมจากงานฌาปนกิจ ซึ่งคาดว่ามีมากเกือบ 1 ล้านบาทใส่ซองกระดาษสีน้ำตาล แบ่งเป็นเงินที่ต้องเคลียร์กับร้านค้าต่างๆ 5 ร้าน รวมประมาณ 2 แสนบาท และเงินที่ต้องส่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีก 6 แสนบาท โดยนำเงินจำนวนนี้ ใส่ในกระเป๋าเป้ พร้อมกับใบเสร็จ โน้ตบุ๊กต่างๆ ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากวัด 
เมื่อขี่มาถึงหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล มีโทรศัพท์เข้า จึงเปิดกระเป๋าเป้ รับโทรศัพท์ และลืมปิดกระเป๋า ก่อนขี่รถกลับมาที่พัก ย่านวิภาวดี โดยใช้เส้นทางลัด และทราบว่าซองเงินหล่น จึงปรึกษาเพื่อนบอกว่า เส้นทางดังกล่าวไม่ค่อยมีกล้องวงจรปิดและมืด ทำให้ยากต่อการตรวจสอบว่าซองเงินหายไปที่ใด 
จากนั้นตนยังไม่ได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทันที พยามหาเงินมาชดใช้ กระทั่งผ่านไป 1 สัปดาห์หลังเกิดเหตุ ผู้บังคับบัญชาเห็นตนเครียด จึงสอบถามและทราบเหตุการณ์ จึงมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง 
ขณะเดียวกัน ตนเองก็ให้ทางบ้านประกาศขายที่ดินในอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง รวมถึงขอกู้ยืมเงิน แต่ก็ยังไม่สมารถใช้คืนได้หมด ทั้งนี้ ตนเข้าใจดี และไม่โกรธที่ร้านค้าต่างๆ ให้ข้อมูลสื่อมวลชน เพราะตนทำผิดจริง พร้อมยอมรับชะตากรรม หากจะต้องถูกออกจากราชการก็ถือเป็นกรรม พร้อมยืนยันว่า ไม่มีทางเอาเงินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว และจะพยามจนถึงที่สุด ที่จะหาเงินมาคืนให้กับร้านค้า และราชการ  
ชมผ่านยูทูปที่นี่ : https://youtu.be/JEMdCcbdd1s

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ