สังคม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ชี้15 คนงานถูกจับฝืนเคอร์ฟิว ทำโอที ถือว่าไม่เข้าเกณฑ์ยกเว้น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

โดย

24 เม.ย. 2563

1.8K views

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ploichanok Sirowet ได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาเผยแพร่ พร้อมระบุข้อความว่า อยากขอความเป็นธรรมและความชัดเจนค่ะโลกโซเชียลมีการแชร์คลิปเหตุการณ์ซึ่งมีการระบุอ้างว่า ตำรวจฉีกเอกสารหนังสือรับรองในการเดินทาง ช่วงเคอร์ฟิวและจับกุมคนงานเทปูนทั้งหมด 15 คน ติดติดคุกดำเนินคดีในข้อหา ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน โดยคลิปบางช่วง มีการระบุว่า ทำแบบนี้ถูกมั้ย เรามีเอกสารถูกต้อง ดูสภาพคนที่เค้าจับเข้าคุกเพื่อที่จะเอาผลงาน เราเอาเอกสารมาให้ตำรวจ แล้วตำรวจก็ฉีกทิ้งลงถึงขยะ แล้วบอกว่าลูกน้องไม่มีเอกสาร ทีแรกจะเอาเอกสารมาจะให้ร้อยเวร แต่ร้อยเวรก็ไม่ได้รับเอกสาร เพราะว่ามีตำรวจบางคนฉีกแล้วเอามาทิ้งไป
ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผยว่า จากการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลา  23.50 น.วันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ตั้งด่านเคอร์ฟิว พบรถกระบะขนคนงานมาทั้งหมด 14 คนรวบคนขับเป็น 15 คน กลับจากการทำงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ย่านบางนา โดยมีเอกสารยืนยันจากบริษัทต้นสังกัดว่ามีการทำงานจริง แต่เมื่อตำรวจตรวจสอบพบว่าเป็นการทำงานล่วงเวลา หรือ ทำโอที ไม่ใช่เป็นการทำงานเป็นกะในเวลากลางคืน จึงถือว่าไม่เข้ากลักเกณฑ์การให้ยกเว้น จึงดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ส่วนกรณีที่ฉีกเอกสารรับรองการทำงานของคนงานกลุ่มดังกล่าว ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีตำรวจฉีกเอกสารดังกล่าวทิ้ง โดยเบื้องต้นการฉีกเอกสารเกิดคนละห้วงเวลา ไม่ได้ฉีกขณะตรวจสอบจับกุม แต่ฉีกหลังจากดำเนินการตรวจสอบไปแล้ว ซึ่งตำรวจประจำด่านเห็นว่าไม่ได้เป็นเอกสารสำคัญอะไร จึงฉีกทิ้งไป
ขณะที่หัวหน้าคนงานเผยว่า  ได้ทำเอกสารจากต้นสังกัด ได้รับการอนุญาตขอทำงานล่วงเวลาเนื่องจากพนักงานเป็นกรรมกรเทคอนกรีต ต้องทำงานต่อเนื่องจนแล้วเสร็จ ระหว่างที่อยู่ด่านตรวจพนักงานของตนได้นำเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูถามว่าใช้ได้หรือไม่ ตำรวจยืนยันว่าใช้ได้แต่ทำไมถึงถูกจับฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  สงสารพนักงานมาก นั่งร้องไห้ระงมในห้องขัง ซึ่งตนต้องไปประกันตัวพนักงานทั้ง 15 คน มูลค่าประมาณ 8 แสนกว่าบาท ทุกวันนี้ก็เดือนร้อนมากแล้ว กว่าจะหาเงินมาได้ ยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
ด้านพนักงาน เล่าว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เซ็นเอกสารและบอกว่าจะปล่อยกลับบ้าน มารู้ทีหลังว่าเป็นเอกสารเซ็นยินยอมให้รับข้อกล่าวหา บอกให้ทุกคนเข้าห้องขัง อยากถามความยุติธรรมอยู่ที่ไหน อยากร้องขอความเป็นธรรม ตนเดินทางผ่านจุดตรวจดังกล่าวทุกวัน ถ้าตนได้รับการยืนยันว่าเอกสารใช้ได้ ก็คงไม่กล้าทำผิดกฎ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน
ส่วนนางสาวพลอยชนก สิโรเวฐน์ อายุ 34 ปี ในฐานะนายจ้างของคนงานทั้ง 15 คนที่ถูกจับเคอร์ฟิว ได้เดินทางมาที่หน้าโรงพัก สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เพื่อยืนหนังสือขอความกระจ่างในเรื่องเอกสารที่ทางบริษัทได้ออกมาให้แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกไม่สมบูรณ์และใช้ไม่ได้ และถูกฉีกทิ้ง ต่อ พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลเพื่อขอความกระจ่างในเอกสาร หลังจากที่นางสาวพลอยชนก นายจ้างได้เล่าเรื่องราวที่คนงานถูกจับกุมในคืนที่เกิดเหตุแล้ว
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/YR3-8OkxSEE

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ