สังคม

มอบตัวแล้วคนขับเก๋งชน ตร.เกาะกระโปรงรถ สารภาพขับหนีเพราะมีน้ำกระท่อม

โดย

24 เม.ย. 2563

1.5K views

จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปนาทีระทึก ขณะรถยนต์เก๋ง ไม่ทราบป้ายทะเบียน ขับหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จราจร สถานีตำรวจภูธรท่าศาลา หลังจากชนท้ายรถจักรยานยนต์ของตำรวจระหว่างปฏิบัติหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์จอดติดสัญญาณไฟแดง บริเวณสี่แยกธนาคารกรุงไทย 
ปรากฏว่ารถยนต์เก๋งคันก่อเหตุ เกิดชนท้ายรถจักรยานยนต์ของ ด.ต.มลตรี นิติชัย ผบ.หมู่งานจราจร สถานีตำรวจภูธรท่าศาลา จากนั้นด.ต.มลตรี นิติชัย ได้ลงจากรถเพื่อตรวจสอบ แต่ปรากฏว่ารถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ไม่ลงจากรถ แล้วพยามขับหลบหนีและชน ด.ต.มลตรี นิติชัย จนมีการกระโดดเกาะกระโปรงรถ แต่รถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ยังไม่ยอมหยุด และยังขับหลบหนีไปไกลว่า 2 กิโลเมตร ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น 
วันนี้ทีมข่าวลงพื้นที่ไปคุยกับผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าที่ตรงเกิดเหตุเล่าให้ฟังว่าหลังจากรถคู่กรณีชนท้ายของรถ ด.ต.มลตรี นิติชัย แล้วเห็นเขาคุยกันแต่ตกลงกันไม่ได้รถคู่กรณีก็ขับเบียบออกมาด.ต.มลตรี นิติชัยจึงกระโดดเกาะฝากระโปรงรถทุกคนก็ตกใจกันมากร้องตะโกนให้คนเข้ามาช่วย ก็มีน้องที่อยู่ร้านข้างๆ กันวิ่งตามรถไป แต่ก็ไม่ทัน ส่วนผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนที่อยู่ในคลิปที่วิ่งตามรถไปเล่าว่าที่วิ่งตามไปว่าจะไปเปิดประตูรถแต่ว่าตัวเองก็กลัว ส่วนตัวคิดว่าในรถหน้าจะมีของผิดกฎหมายถึงได้ขับหนีไม่ยอมให้ตรวจค้น
ด้าน พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าศาลา กล่าวว่าความคืบหน้าของคดีตอนนี้ให้ลูกน้องไปตามกันทั้งวัน และพอจะรู้ทะเบียนรถแล้ว และคาดว่าน่าจะยังอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงแม้ทะเบียนรถจะเป็นป้ายแดงมาจากภูเก็ตแต่ตอนนี้ภูเก็ตยังปิดเมืองอยู่ยังไม่น่าจะไปไหน
ต่อมา ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบรถคันก่อเหตุจอดซ่อนอยู่ในสวนมังคุด ที่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช และพบเจ้าของรถ คือนายพงศกร อายุ 29 ปี เป็นคน จ.ตรัง จึงนำตัวมาสอบสวน เบื้องต้นบอกว่า ก่อนหน้านี้ตนและแฟนสาวทำงานอยู่ที่ จ.ภูเก็ต หลังจากเกิดโควิด-19 ระบาดใน จ.ภูเก็ต บริษัทหยุดชั่วคราว จึงกลับมาอยู่บ้านแฟนสาวที่ อ.นบพิตำ 
วันเกิดเหตุขับรถเก๋งไปเที่ยวที่ตลาดท่าศาลา และขับรถไปชนท้ายรถ จยย.ของตำรวจจราจร ทำให้ตกใจและกลับว่าจะจถูกจับ เพราะในรถมีน้ำต้มกระท่อมอยู่ 1 ขวด แต่ ตร.มาขวางรถไว้จึงพุ่งชน ก่อนที่ ตร.จะกระโดดมาเกาะฝากระโปรงรถ ยิ่งทำให้ตกใจรีบขับหนีต่อ 
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ความผิด ตาม พ.ร.บ.จราจร พร้อมเร่งรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งข้อหา พ.ร.บ.ยาเสพติด รวมทั้งข้อหาท้ายร่างกายและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานด้วย ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Alg1MdpMvgc

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ