กฟน.ยันไม่ได้โกงค่าไฟ แจงคนใช้เยอะช่วงหน้าร้อน แอร์ทำงานหนัก

นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน โฆษกการไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยว่า การไฟฟ้านครหลวงไม่ได้โกงค่าไฟฟ้า แต่ช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงที่ประชาชนมักจะบ่นว่าค่าไฟแพง เป็นเพราะอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหลายตัวทำงานควบคู่กับอุณหภูมิของประเทศที่เพิ่มขึ้น

เช่น เครื่องปรับอากาศ ที่จะทำงานหนักมากในช่วงหน้าร้อน อุณหภูมิอากาศ 40 องศา เมื่อเราเปิดแอร์ 26 องศา กว่าคอมเพรสเซอร์จะทำความเย็นจาก 40 องศาให้เหลือ 26 องศาต้องใช้พลังงานที่มาก จึงส่งผลให้ค่าไฟเพิ่มขึ้น โดยทุกเดือนเมษายนของทุกปีจะเป็นเดือนที่มีค่าไฟแพงขึ้นเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะปีนี้ที่คนส่วนใหญ่อยู่บ้านเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ค่าไฟเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกว่าปีก่อน ๆ

ตู้เย็นก็เป็นอีกอุปกรณ์ที่ต้องทำงานควบคู่กับอุณหภูมิ เวลาเปิดตู้เย็นความเย็นที่อยู่ในตู้เย็นจะไหลออกมา เมื่อปิดตู้เย็นก็จะทำความเย็นใหม่ หากเปิดปิดตู้เย็นบ่อย ๆ ก็จะทำให้คอมเพรสเซอร์ตู้เย็นทำงานไม่หยุด ประกอบกับอาหารที่แช่อยู่ในตู้เย็นมาก ๆ ส่งผลให้ตู้เย็นทำงานมากขึ้น ทำให้เปลืองไฟมากขึ้น

วิธีการลดค่าไฟฟ้าในช่วงนี้ การไฟฟ้านครหลวงแนะนำให้มุ่งไปที่อุปกรณ์ที่ใช้ไฟสูง เช่น เครื่องปรับอากาศควรตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 26-27 องศา เพราะทุก ๆ 1 องศาจะประหยัดไฟได้ 1% รวมถึงล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือน จะทำให้ค่าไฟลดลง 5-7% ไม่เปิดปิดตู้เย็นบ่อย ๆ ปิดสวิตซ์และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ เป็นต้น

อัตราคำนวณค่าไฟที่การไฟฟ้านครหลวงใช้เป็นอัตราแบบก้าวหน้า ตามที่คณะกรรมกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้กำหนด โดยหน่วยที่ 1-150 หน่วยละ 3.25 บาท, หน่วยที่ 151-400 หน่วยละ 4.22 บาท (เพิ่มขึ้น 30%) และหน่วยที่ 400 ขึ้นไป หน่วยละ 4.42 บาท (เพิ่มขึ้น 36%) ซึ่งทำให้คนที่ใช้ไฟฟ้าเยอะต้องเสียค่าไฟฟ้าแบบก้าวกระโดด ซึ่งเป็นอัตราปกติที่ใช้เป็นอัตราเดียวกันทั้งประเทศ

ส่วนในกรณีที่ไม่มีคนอยู่บ้าน แต่ค่าไฟเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ อาจจะเกิดปัญหาไฟรั่ว อุปกรณ์บางอย่างเสื่อมสภาพ หรือมิเตอร์คลาดเคลื่อน ซึ่งสามารถติดต่อการไฟฟ้าให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบได้

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/1O0t9iPPa5E