สังคม

คุก 3 เดือน รอลงอาญา 1 ปี ลูกสาวผู้ว่าฯพิษณุโลก ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว พ่อลั่น "ถึงเป็นลูกผู้ว่าฯไม่มีข้อยกเว้น"

โดย

8 เม.ย. 2563

9.5K views

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงสถิติการจับกุมในมาตรการเคอร์ฟิว ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ วันที่ 6-7 เม.ย. 63 มีผู้ออกนอกเคหสถานเพิ่มขึ้นเป็น 1,217 คน มั่วสุมรวมกลุ่มชุมนุม 76 คน

ตลอดสี่วันที่ผ่านมาแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยเรื่อย ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ ต้องขอร้องประชาชน และยืนยันว่าเราจะเข้มมาตรการมากน้อยเท่าใดขึ้นอยู่กับสถิติที่ว่านี้ หากประชาชนให้ความร่วมมือเราคงไม่ต้องมีมาตรการอะไรที่เข้มไปกว่านี้

ตักเตือนไปแล้ว 246 คน / ดำเนินคดี 1047 คน รวม 1293 คน ซึ่งก็มีแนวโน้มสูงด้วยเช่นกัน ตัวเลขดูไม่ดี ขอให้ช่วยกัน เพราะเมื่อออกไปข้างนอกตัวท่านก็มีความเสี่ยงที่จะติดโรคเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้มีกรณีในพื้นที่ จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม น.ส.เปรมประภา เอกภาพันธ์ อายุ 29 ปี ขับรถ BMW สีดำมาพร้อมเพื่อน มีอาการคล้ายคนเมาสุรา โวยวายด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความไม่พอใจที่ถูกตรวจสอบ โดยอ้างว่าตนเองเป็นลูกของผู้ว่าฯพิษณุโลก เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 การห้ามออกจากเคหสถานเวลาที่กฎหมายกำหนด

ต่อมานายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้โพสต์ชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ใจความว่า "ลูกของใครไม่สำคัญ ลูกชาวบ้าน ลูกกำนัน #ลูกผู้ว่า ถ้าผิดกฏเคอร์ฟิว # ให้ลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุดไม่มีข้อยกเว้นครับ #กฎหมายต้องเป็นกฎหมายไม่มีข้อยกเว้นสำหรับใครครับ"

ซึ่งก็มีประชาชนเข้ามาโพสต์แสดงความเห็นใจ และให้กำลังใจผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ศาลจังหวัดมุกดาหาร มีคำพิพากษาให้ น.ส.เปรมประภา จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดกึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ 1 ปี

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/yf4SHuGPBmY

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ